กลุ่มดุสิตธานี เดินหน้าปั้น “ดุสิต ฮอสพิตัลลิตี้ เซอร์วิสเซส” (DHSC) หลังคว้าสัญญาดูแลและบริหารอาคารชุด Marque Sukhumvit (มาร์ค สุขุมวิท) เป็นระยะเวลา 3 ปี เผยจุดเริ่มต้นธุรกิจ DHSC มาจากการมองเห็นช่องว่างและโอกาสในการต่อยอดธุรกิจเพื่อรองรับพนักงาน หลังจากโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งเดิม ยุติการให้บริการ

ขณะที่กลุ่มดุสิตธานีมีประสบการณ์ในการบริการ บริหารจัดการอาคารและดูแลลูกค้า ในระดับมาตรฐานโรงแรม 5 ดาว ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ที่สามารถให้บริการแก่ลูกค้าโครงการที่พักอาศัยระดับลักซูรี พร้อมบริการแม่บ้าน ดุสิต ออน ดีมานด์ ที่รับงานบริการในโรงแรมต่างๆ กว่า 10 แห่งทั่วกรุงเทพฯ มั่นใจสร้างโอกาสเติบโตต่อเนื่อง พร้อมวางเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดงานบริหารอาคารให้ได้ 10-15% เติมเต็มกลยุทธ์ขยายการเติบโต กระจายการลงทุน และสร้างสมดุล ให้กับกลุ่มดุสิตธานี ในระยะยาว

ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT เปิดเผยว่า

กลุ่มดุสิตธานี มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ บริษัท ดุสิต ฮอสพิตัลลิตี้ เซอร์วิสเซส จำกัด (Dusit Hospitality Services) หรือ DHSC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของกลุ่มดุสิตธานี ได้รับความไว้วางใจให้เข้าบริหารจัดการอาคารชุด Marque Sukhumvit (มาร์ค สุขุมวิท) คอนโดมิเนียมระดับซุปเปอร์ลักชูรี ซึ่งมีราคาต่อตารางเมตรสูงที่สุดในพื้นที่พร้อมพงษ์ สุขุมวิท โดยได้ลงนามในสัญญากับนิติบุคคลอาคารชุด มอบหมายให้ “ดุสิต ฮอสพิตัลลิตี้ เซอร์วิสเซส” เป็นผู้ดูแลและให้บริการลูกบ้านในโครงการ เมื่อเร็วๆ นี้

ทั้งนี้ กลุ่มดุสิตธานีได้จัดตั้งทีม “ดุสิต ฮอสพิตัลลิตี้ เซอร์วิสเซส” ขึ้น หลังจากตัดสินใจสร้างธุรกิจใหม่ เพื่อรองรับพนักงานส่วนงานต่างๆ ให้ยังคงมีงานทำ ในระหว่างที่โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งเดิมยุติการให้บริการ

โดย “ดุสิต ฮอสพิตัลลิตี้ เซอร์วิสเซส” จะทำหน้าที่รับงานบริหารโครงการที่พักอาศัยระดับบนคุณภาพสูง ทั้งการดูแลบริหารอาคารและทรัพย์สินส่วนกลางของโครงการฯ ตามมาตรฐานของกลุ่มดุสิตธานี ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล

“DHSC เป็นธุรกิจใหม่ที่เราต่อยอด หลังจากมองเห็นช่องว่างและโอกาสของธุรกิจ ด้วยการนำความรู้ ความสามารถในการให้บริการ การดูแลลูกค้า รวมถึงการจัดการบริหารอาคารภายใต้มาตรฐานดุสิตธานี ที่สามารถนำไปให้บริการกับผู้ประกอบการหรือเจ้าของอาคารชุดรายอื่นๆ

โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบประสบการณ์ด้านการบริการที่ดีที่สุดของ ‘ดุสิต ฮอสพิตัลลิตี้ เซอร์วิสเซส’ ให้กับลูกค้า และมีเป้าหมายที่จะสร้างรายได้และการเติบโตจากบริการนี้ต่อไป ตามกลยุทธ์ระยะยาวในการดำเนินงานของกลุ่มดุสิตธานีที่ครอบคลุม 3 ด้าน

ได้แก่ ขยายการเติบโต กระจายการลงทุน และสร้างสมดุล ซึ่งธุรกิจฮอสพิตัลลิตี้ของ DHSC เป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์ที่สำคัญในการเติมเต็มกลยุทธ์ทั้ง 3 ด้านของเรา”

ขณะที่ ศุภกิจ ติยะวัชรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ ดุสิต เวลบีอิ้ง ฮอสพิตัลลิตี้ (Dusit Well-Being Hospitality) กล่าวเพิ่มเติมว่า

ปัจจุบัน DHSC ให้บริการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวก (Facility Management service) ใน  3 ส่วน ประกอบด้วย  ส่วนงานบริการดูแลและบริหารจัดการอาคาร ซึ่งมุ่งเน้นลูกค้าในกลุ่มตลาดที่อยู่อาศัยระดับลักซูรี  โดยตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) 10-15% ของตลาดรวม

ส่วนงานให้คำปรึกษาและอบรมสำหรับผู้ประกอบการโครงการที่พักอาศัยที่ต้องการบริการระดับโรงแรม 5 ดาว แต่ยังขาดความรู้ ความเชี่ยวชาญ ซึ่งยังมีโครงการเหล่านี้อีกมาก ขณะที่ปัจจุบัน DHSC มีศักยภาพเพียงพอที่จะรับงานส่วนได้ในระดับ 8-10 โครงการต่อปี

และส่วนงานบริการแม่บ้าน ดุสิต ออน ดีมานด์ (Dusit On Demand) เป็นบริการส่งแม่บ้านเข้าให้บริการทำความสะอาดภายในห้องพัก พื้นที่ส่วนกลางของโรงแรม หรือที่พักอาศัยระดับลักซูรี (Luxury Residents) ตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งในส่วนนี้ทีมงานได้มีการพัฒนาหลักสูตรประกาศนียบัตร (House Keeping Certificate Program) โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับบรอนซ์ ซิลเวอร์ และโกลด์ ขึ้นกับทักษะความสามารถ และชั่วโมงการทำงานของแม่บ้านแต่ละคน

โดยลูกค้าสามารถเลือกใช้ได้ตามงบประมาณที่เตรียมไว้ ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่ทำให้ DHSC แตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นอย่างชัดเจน ขณะเดียวกัน ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ตลาดมีความต้องการสูง ซึ่งมีความท้าทายเรื่องของกำลังคนที่อาจจะไม่เพียงพอ ทำให้ที่ผ่านมาทีม “ดุสิต ฮอสพิตัลลิตี้ เซอร์วิสเซส” ได้ทำงานร่วมกับทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อเฟ้นหาบุคลากรที่นำมาพัฒนาต่อยอดรองรับกับความต้องการของตลาดต่อไป

“การลงนามในสัญญาบริหารและดูแลโครงการ Marque Sukhumvit นับเป็นอีกก้าวที่สำคัญของ DHSC จากวิสัยทัศน์ของคณะกรรมการบริหารของโครงการ Marque ที่ได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ และความมุ่งมั่นของ DHSC ที่ไม่เพียงแต่จะนำบริการมาตรฐานของโรงแรมระดับ 5 ดาวมาสู่บ้านของลูกบ้านทุกท่าน ให้อยู่บ้านได้อย่างสุขใจ สบายกาย แต่ยังเป็นการเพิ่มมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ที่ลูกบ้านอยู่อาศัยต่อไปในอนาคตอีกด้วย

ซึ่งการได้รับสัญญาดูแลอาคารชุดฉบับนี้เป็นระยะเวลา 3 ปี นับเป็นสัญญาการให้บริการที่ยาวที่สุดเท่าที่คณะกรรมการของ Marque เคยมอบให้แก่ผู้ให้บริการบริหารอาคารชุดอีกด้วย”

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ DHSC ได้ให้บริการบริหารจัดการโครงการ Coco Parc ตามด้วยโครงการสุโขทัย เรสซิเดนท์ และล่าสุดคือ โครงการ Marque Sukhumvit ขณะเดียวกัน ยังให้บริการแม่บ้าน “ดุสิต ออน ดีมานด์” กับโรงแรมอื่นๆ อีกเกือบ 10 แห่งในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการดูแลลูกค้าภายนอก นอกเหนือจากโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” ซึ่งเป็นโครงการหลักที่ DHSC รับหน้าที่ดูแลและบริหารจัดการ