กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) เผยกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของกลุ่มงานลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจปี 2567 ชูธง ESG Finance มุ่งสร้างโซลูชันเพื่อตอบโจทย์ตลาดการเงินเพื่อความยั่งยืน
พร้อมเพิ่มศักยภาพการให้บริการด้านวาณิชธนกิจที่ครบวงจร ตอกย้ำความสำเร็จในการให้บริการสินเชื่อโครงการ การซื้อขาย ควบรวมกิจการ และการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วนทั้งในและต่างประเทศ ด้วยความมุ่งมั่นในการเป็นพันธมิตรที่ลูกค้าธุรกิจไว้วางใจ เพื่อก้าวสู่การเติบโตที่ยั่งยืนไปด้วยกัน
ประกอบ เพียรเจริญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
“กรุงศรีประสบความสำเร็จในการดำเนินงานเพื่อส่งเสริมธุรกิจให้กับลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจอย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมา มียอดสินเชื่อเติบโต คิดเป็นอัตราประมาณ 2.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน และยังคงให้การสนับสนุนสินเชื่อและการระดมทุนที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน อาทิ การให้การสนับสนุนสินเชื่อ และการเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายพันธบัตรและหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนและเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่หลายองค์กรสำคัญอย่างต่อเนื่อง
ทั้งยังให้การช่วยเหลือในการปรับตัวผ่านการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายความยั่งยืน เพื่อเตรียมความพร้อมสู่เส้นทางการเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน โดยอีกหนึ่งบทบาทสำคัญในการดำเนินงานด้านการเงินเพื่อความยั่งยืน คือการได้มีส่วนร่วมกำหนดมาตรฐานการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Thailand Taxonomy) ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย และอีก 13 เครือข่ายองค์กร เพื่อใช้อ้างอิงสำหรับการเข้าถึงบริการทางการเงินที่จะช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของธุรกิจไปสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม”
ปิดดีลใหญ่ หนุนธุรกิจโตได้ โตไกล อย่างยั่งยืน
สำหรับปีที่ผ่านมา กรุงศรี ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้กลุ่มลูกค้าธุรกิจประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจด้านความยั่งยืนผ่านดีลสำคัญมากมาย อาทิ
ทั้งนี้ ทางกรุงศรี ได้ระดมทุนด้วยการออกตราสารหนี้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) และตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรทางทะเล (Blue Bond) เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเล จำนวน 400 ล้านเหรียญสหรัฐ
นอกจากความเชี่ยวชาญและความสำเร็จทางธุรกิจในด้าน ESG กรุงศรียังได้ให้บริการที่ปรึกษาในดีลสำคัญอีกมากมาย อาทิ
รุดหน้าสร้างโซลูชันเพื่อธุรกิจ ยกระดับบริการที่ปรึกษา ตอบโจทย์การแข่งขันให้ธุรกิจแบบครบวงจร
ด้วยการเติบโตของความต้องการด้านเงินทุน แนวโน้มการขยายธุรกิจสู่เวทีระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ และแนวคิดการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ดังนั้น การดำเนินงานของกลุ่มงานลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจในปี 2567 จึงมุ่งให้ความสำคัญกับการสร้างโซลูชันเพื่อตอบโจทย์ตลาดการเงินเพื่อความยั่งยืน พร้อมกันกับการเพิ่มศักยภาพการให้บริการด้านวาณิชธนกิจ เพื่อช่วยยกระดับการแข่งขันให้กับธุรกิจไทยแบบครบวงจรมากยิ่งขึ้น ประกอบไปด้วยแผนการดำเนินงานดังนี้
1. มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินเพื่อส่งเสริมลูกค้าในการเปลี่ยนผ่านสู่เส้นทางการเงินเพื่อความยั่งยืน โดยฝ่าย ESG Finance (ESG Finance Department or EFD) เดินหน้าให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการเงินเพื่อความยั่งยืน (ESG Finance) รวมถึงการเป็นที่ปรึกษาเพื่อช่วยวางแผนในช่วงการเปลี่ยนผ่าน
โดยจะปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิดกับเครือข่าย MUFG พร้อมเดินหน้าจัดระเบียบพอร์ตสินเชื่อของธนาคารตามมาตรฐานการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Thailand Taxonomy) นอกจากนี้ จะยังคงสานต่อกิจกรรมการให้ความรู้ผ่านเวทีสัมมนาต่างๆ โดยจะจัดงานสัมมนาครั้งใหญ่ Krungsri-MUFG ESG Symposium 2024 เพื่อช่วยส่งเสริมระบบนิเวศด้านความยั่งยืนให้กับประเทศไทย
2. เพิ่มศักยภาพการบริการด้านวาณิชธนกิจ โดยมุ่งเน้นการให้บริการด้านการให้คำปรึกษาและนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ผ่านการร่วมมือกับทุกหน่วยงานของกรุงศรี กรุ๊ป เครือข่ายระดับโลกของ MUFG และเครือข่ายธนาคารพันธมิตรในภูมิภาคอาเซียน เพื่อสนับสนุนการให้บริการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ครบถ้วนและตรงตามความต้องการ
ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การระดมทุนจากการกู้ยืม การระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้ (Debt Capital Markets) การทำสินเชื่อโครงการ (Project Finance/Structure Finance) ในหลายๆ อุตสาหกรรมทั้งพลังงานหมุนเวียน ศูนย์ข้อมูล โครงสร้างพื้นฐาน การซื้อขายและควบรวมกิจการ (Mergers and Acquisitions) การระดมทุนผ่านตลาดตราสารทุน (Equity Capital Markets)
โดยในปีที่ผ่านมามีการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ให้กับหลายบริษัท เช่น บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) (SAV) ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ โดยประกอบธุรกิจให้บริการบริหารจัดการควบคุมการจราจรทางอากาศของประเทศกัมพูชาภายใต้สัมปทานแต่เพียงผู้เดียว
และขณะนี้เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ต (INETREIT) ในการเพิ่มการลงทุนในทรัพย์สินประเภทศูนย์ข้อมูล ให้บริการการเสนอขายหุ้น IPO กับองค์กรในอีกหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ อุตสาหกรรมบริการและอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง
นอกจากนั้นกรุงศรียังให้บริการที่ปรึกษาในการซื้อและควบรวมกิจการ (Mergers and Acquisitions) โดยเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในการร่วมทุนในโซลาร์ฟาร์มในประเทศไทยรวมกับพันธมิตรซึ่งเป็นนักลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อความยั่งยืน
“เรายังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตรที่ลูกค้าไว้วางใจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้รากฐานของการบริการที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และด้วยองค์ความรู้ ทีมงานมืออาชีพ และความแข็งแกร่งด้านเครือข่ายของกรุงศรี กรุ๊ป และ MUFG
เรามั่นใจว่าจะสามารถนำเสนอโซลูชันที่ครบวงจรและเหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละอุตสาหกรรมครอบคลุมตลาดทั้งในและต่างประเทศ ที่สำคัญจะยังคงสานต่อการสนับสนุนส่งเสริมการดำเนินธุรกิจที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืนตามโมเดล ESG โดยเฉพาะในช่วงเวลาปรับตัว เพื่อนำพาลูกค้าก้าวสู่การเติบโตที่ยั่งยืนไปพร้อมกันกับเรา โดยในปีนี้ตั้งเป้าการเติบโตด้านสินเชื่อที่ 4-6%” ประกอบ กล่าวปิดท้าย