ควิก โคท โปรดักส์ สบช่องตลาดวัสดุก่อสร้างสดใส เพิ่มการลงทุน เร่งขยายโรงงานผลิต 4.0
23 Aug 2018


        ควิก โคท โปรดักส์ ชี้อุตสาหกรรมอสังหาฯ เริ่มมีสัญญาณโตต่อเนื่อง กำลังซื้อวัสดุก่อสร้างฟื้นตัวทางบวก เดินหน้าเร่งเพิ่มกำลังการผลิต พร้อมลงทุนขยายโรงงานเพิ่มไลน์ผลิตใหม่ โดยนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์มาใช้ในกระบวนการผลิตมากกว่า 60% ตั้งเป้าลดต้นทุนสินค้าและเพิ่มประสิทธิภาพทางการผลิต เชื่อมั่นหลังโรงงานแล้วเสร็จ สามารถชิงส่วนแบ่งการตลาดกลับมาจากวิกฤติสินค้าไม่เพียงพอต่อความต้องการ พร้อมเปิดตัว 3 แบรนด์สินค้าใหม่ My Loft (ภายใต้คอนเซ็ปต์ DIM ที่จะสร้าง Inspiration จากภายในตัวตนของลูกค้า เจาะลูกค้าใหม่กลุ่ม Home Users พร้อมปล่อย GP100 (ปูนกาวอเนกประสงค์) และดิ่งแดง Premium หรือ CP001P (ปูนฉาบอิฐมวลเบาเพิ่มสารพิเศษ) ลดปัญหารอยแตกร้าว ขยายฐานลูกค้ากลุ่มช่าง เร่งเพิ่มยอดขาย คาดสิ้นปี 2561 ยอดขายแตะ 800ล้านบาท โดยมีโครงสร้างกำไรสูงกว่าเดิม ไม่น้อยกว่า 10% พร้อมตอกย้ำ  ความเป็นแบรนด์ปูนฉาบอิฐมวลเบาอันดับหนึ่งในใจช่างของ “ปูนลูกดิ่ง” พร้อมทำกิจกรรม CSR ร่วมกับแบรนด์แอมบาสเดอร์ “แท่ง ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง” 

 


        อัครภัทร ทองน้ำตะโก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ควิก โคท โปรดักส์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ได้มองเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นของอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างภายในประเทศ ที่เริ่มมีความต้องการเพิ่มขึ้นไปในทิศทางบวกหลังจาก ชะลอตัว มาตั้งแต่ปลายปี  2559 ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน โดยคาดว่ามีแนวโน้มขยายตัวเฉลี่ยประมาณ 8-10%  ในครึ่งปีหลัง หลังจากมีการอนุมัติโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ภายในประเทศอย่างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายต่าง ๆ เมกะโปรเจกต์ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(EEC) และเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก Special Eastern Economic Corridor zone หรือ โครงการ Eastern Airport City  ประกอบกับกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ ของภาคเอกชนที่ส่งสัญญาณแสดงความเชื่อมั่นในการฟื้นตัวการลงทุนทั้งในส่วนของงานก่อสร้างที่อยู่อาศัยอาคารสำนักงาน และโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมีผลโดยตรงต่ออุตสาหกรรมกลางน้ำในตลาดวัสดุก่อสร้างอย่าง เหล็ก ซีเมนต์ คอนกรีต ปูนสำเร็จรูป รวมถึงปูนฉาบอิฐมวลเบาด้วย


        ทำให้ปีนี้ ควิกโคทฯได้ขยายการลงทุนปรับปรุงประสิทธิภาพ ในสายการผลิตเดิมและเริ่มแผนขยายโรงงานเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าทุกกลุ่ม ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 100 ล้านบาท โดยจะมีการนำเอาหุ่นยนต์เข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตให้เป็นระบบออโตเมชั่นในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 60%  เมื่อเทียบกับการผลิตระบบเดิม เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในอนาคต ช่วยลดระยะเวลาการผลิตทำให้ผลิตสินค้าได้มากขึ้น และสามารถควบคุมคุณภาพสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐาน อีกทั้งยังเป็นการลดต้นทุนของสินค้าเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันระยะยาว โดยแผนการขยายโรงงานนี้จะแล้วเสร็จในปี 2562 และจะมีความสามารถในการผลิตได้สูงถึง 3200 ตัน/วัน หรือกว่า 9 แสนตัน/ปี โดยเพิ่มขึ้นจากเดิมกว่า 10 เท่าตัว


        ล่าสุด ควิกโคทฯ ได้เปิดตัว 3 แบรนด์สินค้า ได้แก่ 1) My Loft ปูนฉาบแต่งผิวสไตล์ลอฟท์สำเร็จรูปที่สามารถใช้งานได้ทันที โดยมี Concept ในการสร้างแรงบันดาลใจของผู้ใช้แบบ DIM หรือ DO IT MYSELF ไม่ใช่แค่ DIY อย่างที่ผ่านมา  เพื่อเพิ่มลูกค้ากลุ่มใหม่อย่าง Home users ที่ปัจจุบันมีความนิยมออกแบบตกแต่งบ้านด้วยตัวเองมากขึ้น 2) GP100 ปูนกาวอเนกประสงค์ ที่สามารถใช้เป็นทั้งปูนก่ออิฐมวลเบาและเป็นปูนกาวติดกระเบื้องทั่วไปในตัวเดียวกัน เพื่อเพิ่มคุณประโยชน์การใช้งานให้กับช่างที่ต้องการความสะดวกมากว่าเดิม และ 3) ปูนฉาบมวลเบาดิ่งแดง Premium CP001P สูตรพิเศษที่ช่วยลดการแตกร้าวได้มากถึง 95% สำหรับลูกค้าและผู้ใช้งานที่ต้องการปูนฉาบอิฐมวลเบาเกรดพรีเมี่ยมคุณภาพที่เหนือกว่าเดิม  

 


        นอกจากนี้ทางบริษัท ยังได้มีการทำกิจกรรม CSR เพื่อตอกย้ำว่า  เป็นแบรนด์ปูนฉาบอิฐมวลเบาอันดับหนึ่งในใจช่าง ด้วยการทำกิจกรรม CSR ร่วมกับแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่าง “แท่ง ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง” กับ 3 โครงการดี ๆ ได้แก่ โครงการไม่แตกแยกไม่แตกร้าว ซึ่งเป็น “โครงการอบรมพื้นฐานงานก่อสร้างเบื้องต้นกับปูนลูกดิ่ง” ร่วมกับสถาบันศึกษา 10 สถาบัน อาทิเช่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย วิทยาลัยเทคนิคดอนเมือง วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี วิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการสามเสน เป็นต้น โครงการ “ไม่แตกแยกไม่แตกร้าว ซีซั่น 2” เพื่อสร้างการตระหนักรู้ในกลุ่มนักเรียนช่างให้มีความรักความสามัคคี และ โครงการประกวดหนังสั้น เพื่อรณรงค์ ต่อเนื่องในการสร้างความปรองดองให้กลุ่มนักเรียนช่าง โดยเชื่อมโยงกับกิจกรรมฝายมีชีวิตที่มุ่งสืบทอดเจตนารมณ์ของพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 มาสานต่อในรัชกาลปัจจุบัน โดยยึดหลักการทรงงาน 23 ประการ ที่ทางพนักงานและบริษัทฯ ยึดถือเป็นแนวปฏิบัติตลอดมา โดยโครงการดังกล่าวจะมีการจัดทำในปี 2561-2562 ที่จะถึงนี้


        “จากแผนการลงทุนขยายกำลังการผลิต การเปิดตัวสินค้าใหม่ และการทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่องในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดรายได้ที่ 800 ล้านบาทเทียบเท่ากับปีที่ผ่านมา และหลังจากโรงงานใหม่เสร็จสมบูรณ์ คาดว่าปูนตราลูกดิ่งจะสามารถดึงส่วนแบ่งการตลาดกลับคืนมาในระดับเดิมได้ในปี 2562” อัครภัทร กล่าวทิ้งท้าย

[อ่าน 2,199]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บีโอไอชู Thailand FastPass เร่ง “บราสเคม สยาม” เดินหน้าเอทิลีนชีวภาพรายแรกในเอเชีย ตั้งเป้าเสร็จปี 2571
ACSC ผนึก Meta–หน่วยงานต่างประเทศ เปิดปฏิบัติการ “Joint Disruption Week” กวาดล้างแก๊งสแกมข้ามชาติในอาเซียน
สเปอร์ส–ลิเวอร์พูล ดวลเดือดนัดพิเศษ ชูพลังฟุตบอลระดมทุนช่วยผู้ป่วยมะเร็งเด็ก วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคมนี้
เดอะมอลล์ ผนึก เอกชนสุขุมวิท ทุ่ม 200 ล้าน สร้าง “EXTRAVAGANZA SUKHUMVIT COUNTDOWN 2026” ดันสุขุมวิทสู่แลนด์มาร์กเคานต์ดาวน์โลก
WELOVEGOLF Tournament 2025 ผสานพลังสมาชิกและพันธมิตร ส่งมอบความรักและความสุข ให้น้องๆ
กสิกรไทยเดินหน้าเศรษฐกิจสีเขียว จับมือกรมลดโลกร้อน หนุนผู้ประกอบการเข้าโครงการ G-Green
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved