กระแสผลิตฮาร์ดแวร์ AI หนุนตลาดหุ้นเอเชียบวก
หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ มีโอกาสทำกำไรเป็นรอบ
10 Jul 2024

กระแสการลงทุนในอุตสาหกรรม AI ส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นเอเชียที่เป็นฐานการผลิตฮาร์ดแวร์ที่จำเป็น จับตาเกาหลีใต้และเวียดนามมีโอกาสเติบโตต่อขบวนจากตลาดหุ้นไต้หวัน เช่นเดียวกันตลาดหุ้นจีนและฮ่องกง มีแนวโน้มการฟื้นตัว ขณะที่หุ้นกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าสหรัฐฯ สามารถเทรดทำกำไรเป็นรอบในหุ้นที่เป็นผู้นำอย่าง Tesla และ BYD ได้

 

ณพวีร์ พุกกะมาน นักลงทุนและผู้ก่อตั้ง Creative Investment Space (CIS) สถาบันให้ความรู้ด้านนวัตกรรมการลงทุนรูปแบบใหม่ เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นที่สร้างผลตอบแทนดีที่สุดในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ คือดัชนี Nikkei ตลาดหุ้นญี่ปุ่น โดยปรับตัวขึ้น 18.28% ตามด้วยดัชนี Nasdaq ที่ 18.13% และ S&P500 ที่ 14.48% ขณะที่ตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวขึ้นมา 10.21% และตลาดหุ้นอินเดีย 9.40% ขณะที่สินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนสูงสุด คือ Bitcoin ที่ 42.99% ส่วนทองคำให้ผลตอบแทน 12.80% และน้ำมันดิบ 10.40%

ภาพรวมของหุ้นที่สร้างผลตอบแทนได้อันดับต้นๆ คือหุ้นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเอไอ ได้แก่ Nvidia ที่สร้างผลตอบแทนได้ 149.46% ขณะที่ผลตอบแทนของหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของสหรัฐอเมริกาต่างสร้างผลตอบแทนระดับเลขสองหลักทั้งหมด ยกเว้น Tesla ที่ให้ผลตอบแทนติดลบ

“ครึ่งปีแรก ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีต่อเนื่องจากกระแสการลงทุนเอไอ แต่ที่น่าสนใจคือตลาดหุ้นในเอเชียเริ่มมีความน่าสนใจต่อการลงทุน จากการที่เป็นส่วนหนึ่งของภาคการผลิตฮาร์ดแวร์เอไอที่จำเป็น เช่น ตลาดหุ้นไต้หวัน ซึ่งเป็นประเทศที่ผลิตชิปเป็นอุตสาหกรรมหลักปรับตัวขึ้นถึง 23% ในปีนี้”

 

ในแง่การลงทุน ตลาดหุ้นที่มีความน่าสนใจในการลงทุนรับกระแสเอไอ คือตลาดหุ้นเกาหลีใต้จากการที่เป็นประเทศผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่กำลังได้รับออเดอร์การผลิตฮาร์ดแวร์ เช่น GPU และชิปเซ็ตต่างๆ

แม้ว่าส่วนแบ่งการตลาดจะเป็นรองไต้หวัน แต่ดัชนี KOSPI ของเกาหลีใต้ยังปรับตัวขึ้นมาไม่มากนัก และแนวโน้มถือว่าเป็นขาขึ้น อีกทั้งตลาดยังซื้อขายที่ค่าพีอีเพียงแค่ 10 เท่า ประกอบกับมาตราการกระตุ้นตลาดหุ้นของรัฐบาลเกาหลีใต้ทำให้มีโอกาสที่ดัชนี KOSPI จะปรับตัวขึ้นได้ต่อในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

ขณะที่ตลาดหุ้นเวียดนามแนวโน้มกำลังเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับอาจได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากการที่เอเชียได้รับออเดอร์การผลิตฮาร์ดแวร์ที่จำเป็นต่อการใช้งานเอไอ โดยเฉพาะจากเกาหลีใต้ที่เป็นพันธมิตรด้านการลงทุนที่เหนียวแน่น โดยเวียดนามมีโอกาสที่จะได้เป็นแหล่งผลิตชิ้นส่วนในลำดับรองลงมา ประกอบกับเศรษฐกิจที่ยังเติบโตต่อเนื่อง

ด้านตลาดหุ้นจีนและฮ่องกง แม้จะชะลอความร้อนแรงลงในเดือนที่ผ่านมา แต่จากแนวโน้มทางเทคนิคยังมีโอกาสที่จะฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง จึงสามารถทยอยสะสมลงทุนได้ต่อ โดยมุ่งเน้นไปที่หุ้นที่เกี่ยวข้องกับด้านเทคโนโลยีเอไอ และผู้ผลิตชิปเซ็ต

 

 

“เราสามารถลงทุนในดัชนีตลาดหุ้นเอเชียได้ผ่านกองทุนรวมที่อ้างอิงกับดัชนีตลาดหุ้นต่างประเทศดังกล่าว หรือ ลงทุนผ่านกองทุน ETF ได้เช่นกัน เป็นการกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่มีโอกาสเติบโตเป็นทางเลือกนอกจากตลาดหุ้นไทยที่ยังคงมีแรงเทขายต่อเนื่อง เช่นเดียวกับประเทศในกลุ่ม TIP อย่าง อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ที่สร้างผลตอบแทนได้ค่อนข้างต่ำในครึ่งปีแรก”

 

ทางด้านหุ้นเทคโนโลยีอื่นที่น่าจับตา คือหุ้นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า แม้ว่าภาพรวมของหุ้นในกลุ่มนี้จะยังถูกกดดันจากการแข่งขันตัดราคาขายกันเอง แต่หุ้นที่เป็นผู้นำในกลุ่ม อย่าง Tesla และ BYD ยังสามารถที่จะปรับตัวขึ้นได้ โดยเฉพาะ Tesla ที่ปรับตัวขึ้นกว่า 20% ในช่วงเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน จนสามารถหักลบผลขาดทุนของราคาหุ้น และกลับมาเป็นบวกได้ในที่สุด จากการที่นักลงทุนมองการเติบโตในรอบถัดไปที่มากกว่าการเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดยหันมาพัฒนาธุรกิจรถแท็กซี่ไร้คนขับ รวมถึงพัฒนาเอไอมาใช้ในระบบนิเวศน์ทางธุรกิจ ขณะที่ BYD ยังสามารถคงความเป็นผู้นำในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้และกำลังจะกลับมามียอดขายแซงหน้า Tesla ได้อีกครั้ง

 

“ภาพรวมการลงทุนในกรกฎาคมนี้ สินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเอไอยังเป็นตัวนำในการสร้างผลตอบแทนการลงทุน ถ้าหากต้องการลงทุนในหุ้นที่เพิ่งเริ่มต้นเป็นขาขึ้น ให้จับตามองไปที่ตลาดหุ้นในเอเชียที่เป็นแหล่งผลิตฮาร์ดแวร์ที่จำเป็น ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะหุ้นเทคโนโลยียังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง แต่การที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก แนะนำกลยุทธ์การลงทุนให้เน้นการเทรดทำกำไรเป็นรอบๆ มากกว่า”

[อ่าน 1,148]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทรู 5G ปล่อย “GO Travel SIM” โปรแรงในงานไทยเที่ยวนอก ครั้งที่ 4 รับเน็ตโรมมิ่งฟรี 26-29 มิ.ย. นี้
กสิกรไทย ส่ง K-CHINNO25A-UI ขายรายใหญ่ มุ่งลงทุน Private Equity กลุ่มเทคโนโลยีแห่งอนาคตของจีน
ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ ฉลองครบรอบ 3 ปี จัดเต็มความบันเทิง อาหารรสเลิศ และความสนุกแบบเต็มพิกัด!
“สิงห์ เอสเตท” แต่งตั้ง “ชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์” ขึ้นแท่นซีอีโอ ขับเคลื่อนองค์กรโตยั่งยืน
SPARKLE เปิดเกมรุกตลาดยาสีฟัน ดึง “หลิงหลิง คอง” นั่งพรีเซนเตอร์ใหม่ เจาะ Gen Y & Z ตั้งเป้าโต 20% ในปี 2025
ออริจิ้น โฮเทล ปลื้ม ‘โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชาฯ’ โชว์ผลงานสวนกระแส แม้สภาวะตลาดที่นักท่องเที่ยวหดตัว
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved