ถ้าพูดถึงแบรนด์นมถั่วเหลือง เชื่อว่าต้องนึกถึง “แลคตาซอย” เพราะหลายๆ คนน่าจะอยู่ในยุคที่กล่าวได้ว่าโตมากับแลคตาซอย และแน่นอนว่าเพลงแลคตาซอย 5 บาท ก็น่าจะเป็นเพลงโฆษณาที่คุ้นหูคนทุกเพศทุกวัย และคนร้องได้จนจบเพลง จากการที่แลคตาซอยอยู่เคียงข้างผู้บริโภคชาวไทยมานานกว่า 40 ปี และเป็นนมถั่วเหลืองอันดับหนึ่งที่อยู่ในใจผู้บริโภค

ล่าสุด แลคตาซอย ได้จัดโครงการประกวดคลิปวิดีโอ “โตมากับแลคตาซอย” เปิดโอกาสให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา นำเสนอเรื่องราวในมุมมองของแต่ละคนที่มีต่อแลคตาซอย ในรูปแบบคลิปวิดีโอ ความยาว 1-3 นาที ปรากฎว่ามีผลงานส่งเข้าประกวดมากถึง 1,123 ชิ้นงาน คณะกรรมการได้ทำงานอย่างหนักเพื่อคัดเลือกชิ้นงานที่ดีที่สุดที่จะรับรางวัลทุนการศึกษา ระดับนักเรียน 20 ชิ้นงาน ระดับนิสิตนักศึกษา 20 ชิ้นงาน นอกจากนี้ ยังมีรางวัลแลคตาซอยป๊อป 20 ชิ้นงาน และรางวัลแลคตาซอยพราวด์ 200 ชิ้นงาน

โดยในพิธีมอบรางวัล ได้รับเกียรติจากผู้บริหารแลคตาซอย นำโดย นายสามารถ จิรพัฒนกุล, นางสาวมัลลิกา จิรพัฒนกุล, นางสาวพรรวนา มหาทรัพย์ พร้อมด้วยทีมงาน ต่างเข้าร่วมแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัล และกรรมการผู้ตัดสินผลงานคลิปวิดีโอทั้ง 5 ท่าน ยังได้มาร่วมกันแชร์เกี่ยวกับการสร้างความคิดสร้างสรรค์ไว้อย่างน่าสนใจอีกด้วย

• นายรติ พันธุ์ทวี นายกสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ความคิดสร้างสรรค์ไม่ได้มีแต่เพียงแค่ภาพ เสียง หรือไอเดีย แต่เป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา ซึ่งความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่ท่องจำไม่ได้ ดังนั้นการจะมีความคิดสร้างสรรค์ได้ จึงต้องมองโลกให้กว้างขึ้น และความคิดสร้างสรรค์ที่ดี ต้องเคารพความคิดสร้างสรรค์ที่เห็นต่างจากความคิดของตัวเองด้วย 

• นายสุวิกรม อัมระนันท์ พิธีกรรายการ Perspective และกรรมการผู้จัดการ บริษัท แบล็คดอท จำกัด กล่าวว่า ตนเองเป็นตัวของตัวเอง ชอบอะไรก็ทำ ไม่ชอบก็ไม่ทำ หลายเรื่องที่ทำอาจไม่ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว ซึ่งก็ต้องหาเหตุผลมาสนับสนุนว่าทำไมถึงต้องทำ เพื่อจะได้ตอบคำถามครอบครัวได้ และทุกคนที่อยู่รอบตัวคือแรงบันดาลใจในการลงมือทำทุกสิ่งที่ผ่านมา

• นายเดียว วรตั้งตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท วันสามสิบเอ็ด จำกัด กล่าวว่าการเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงเริ่มจากความชอบ ซึ่งตนเชื่อว่า อาชีพของคนเราควรจะเริ่มมาจากความฝัน ความชอบ จากนั้นก็พยายาม มุ่งมั่น หาทางไปให้ถึงปลายทางเพื่อให้ประสบความสำเร็จ โดยมีแรงบันดาลใจที่เป็นทุกคนและทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว

• นายสัมพันธ์ ศิริจิวานนท์ รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการที่จีเอ็มเอ็มมีศิลปินในค่ายจำนวนมาก ทำให้การทำคอนเทนต์มีความหลากหลาย แล้วยังมีช่องทางการสื่อสารเรื่องราวออกไปอีกมากเช่นกัน เพราะเพลงเป็น entertainment อันดับต้นๆ และยังขายของได้ด้วย สำหรับเคล็ดลับของการประสบความสำเร็จ ต้องเริ่มจากถามตัวเองก่อนว่าชอบอะไร อยากทำอะไร ทุกการทำงานมีอุปสรรค มีความท้อแท้ แต่ถ้าเรามีความรักความชอบ เราจะมีความมุ่งมั่น พยายาม ไม่ทิ้งมันไป

• นายธนพ ตันอนุชิตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การ์ตูน คลับ มีเดีย จำกัด กล่าวว่าการนำการ์ตูนเข้ามานั้นนอกจากเรื่องของความบันเทิงแล้ว ยังมีคติสอนใจ เคล็ดลับในการเลือกคอนเทนต์ต้องใช้ทั้งประสบการณ์และแรงบันดาลใจ ที่จะช่วยให้เข้าถึงเนื้อหาได้จริง และควรเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เมื่อรวมกับ passion จะทำให้เราเข้าใจในสิ่งที่กำลังทำอยู่ ซึ่งการ์ตูนคลับได้เปิดอาคาเดมีให้น้องๆ และคนที่สนใจงานพากย์ได้เข้ามาเรียนรู้และฝึกฝนด้วย

นอกจากนี้ ยังมีเสียงจากน้องๆ ทีม STEM PRODUCTION หนึ่งในยี่สิบจากทีมผู้รับรางวัลระดับนักเรียน มีสมาชิกในทีมทั้งหมดประมาณสิบคน เป็นนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนสระแก้ว นำเสนอแนวคิด “โตมากับแลคตาซอย” ด้วยการสื่อให้เห็นถึงความผูกพันกับแลคตาซอยตลอดทุกช่วงชีวิตของตัวละคร ผ่านการเล่าเรื่องของตัวละครสองตัวหญิงชายที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก จนเติบโตได้กลายเป็นแฟนกัน และแต่งงานสร้างครอบครัวด้วยกัน

ซึ่งทุกช่วงชีวิตของทั้งคู่มีความผูกพันกับแลคตาซอยมาตลอด และทั้งคู่ยังได้ส่งต่อความผูกพันนั้นไปให้กับรุ่นลูกด้วย การได้รับรางวัลในครั้งนี้ สมาชิกทุกคนในทีมรู้สึกเป็นเกียรติและดีใจมากกับผลงาน พร้อมทั้งขอบคุณแลคตาซอยที่จัดกิจกรรมดีๆ แบบนี้ ทำให้ได้มีโอกาสแสดงความสามารถ สำหรับอนาคตสมาชิกในทีมวางแผนการเรียนต่อไว้มีทั้งสายนิเทศศาสตร์และสายวิศวกรรมศาสตร์

ทีม TIMELIE FILM หนึ่งในยี่สิบจากทีมผู้รับรางวัลระดับนิสิตนักศึกษา สมาชิกทั้งหมดสิบกว่าคน เป็นนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ ชั้นปี 3 จากมหาวิทยาลัยศรีปทุม ได้เสนอแนวคิด “โตมากับแลคตาซอย” ผ่านตัวละครที่เป็นพี่สาวกับน้องชายวัยประถมที่ไม่ยอมดื่มนม พี่สาวพยายามหาวิธีให้น้องดื่มนมด้วยการนำแลคตาซอยมาให้ชิม จนติดใจในรสชาติที่อร่อยและยอมดื่มนมในที่สุด การนำเสนอเรื่องราวนอกจากเรื่องความรู้แล้วก็ได้สอดแทรกมุกตลกเข้าไปเพื่อไม่ให้เนื้อหาดูจริงจังหรือเครียดมากไป

ซึ่งทีมงานทุกคนรู้สึกดีใจที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ สำหรับความเห็นของการจัดโครงการครั้งนี้ มองว่าอยากให้มีโครงการแบบนี้บ่อยๆ เพราะเห็นมีน้องๆ ระดับประถม มัธยม ที่มีความสามารถกันเยอะมาก และอยากให้น้องๆ ที่มีความคิดสร้างสรรค์ได้มีโอกาสมาลองงานส่วนนี้ เพราะในอนาคตอาจจะชอบการเป็น Creator ส่วนสมาชิกในทีมได้วางแผนอาชีพในอนาคตไว้ว่าอยากทำงานในวงการ production