บล.เมย์แบงก์ คาดตลาดหุ้นไทยครึ่งปีหลังปรับขึ้น จากความชัดเจนทางการเมือง ฟื้นความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจหนุน GDP Growth 67 ขยายตัว 2.4%YoY แรงขับเคลื่อนจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐฯ การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวที่จะเร่งตัวตาม High Season และภาคส่งออกขยายตัวตามเศรษฐกิจคู่ค้า ขณะที่กำไรบริษัทจดทะเบียนยังคงคาดการณ์ EPS 67 ที่ 94.7 บาท/หุ้น ขยายตัว 24%YoY
นอกจากนั้น ยังคาดการณ์ Fund Flow จะเป็นบวกหลัง FED ลดดอกเบี้ยฯ และได้แรงหนุนเพิ่มจากกองทุน TESG และการเตรียมจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ คงเป้าหมาย SET Index ปลายปีที่ 1600 จุด (บนสมมติฐาน EPS 94.7 บาท/หุ้นและ PER เฉลี่ย 10 ปี 16.9 เท่า)
โดยแนะ 3 ธีมการลงทุนกับ 7 หุ้น Top Pick
1) หุ้นได้ประโยชน์จากการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐฯ
2) หุ้นได้ประโยชน์จากภาคท่องเที่ยวเตรียมเข้าสู่ High Season
3) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากอัตรากำไรเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ Black Monday ที่เกิดขึ้นล่าสุด เมย์แบงก์มองว่าเป็นเพียงการตอบรับของตลาดต่อตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมา ตัวเลขภาคการผลิตสหรัฐก่อนหน้านี้ที่ออกมาหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน จึงทำให้ตลาดเกิดความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าสหรัฐจะยังไม่เผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยเมื่อพิจารณาจากภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังเติบโตได้ดีและเครื่องมือทางการเงินที่ทางธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ยังมีอยู่ในมืออย่างการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยลงได้