"แสนสิริ" ตอกย้ำการเป็นองค์กรที่เป็นมิตรกับเด็ก ดำเนินการเรื่อง การคุ้มครองและปกป้อง สิทธิเด็กอย่างจริงจัง ร่วมผลักดันทั้งเชิงนโยบายระดับประเทศ ระดับสังคม และระดับองค์กร พร้อมเชิญชวนสังคมไทยร่วมผนึกกำลัง ผลักดันความสำคัญเด็กสู่นโยบายระดับประเทศ
อภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แสนสิริลงนามเป็นพันธมิตรกับองค์การยูนิเซฟต่อเนื่องมาแล้วถึง 8 ปี โดยร่วมกันผลักดัน โครงการต่างๆ เพื่อคุ้มครองปกป้องสิทธิและพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก มามากกว่า 14 โครงการ ทั้งการพัฒนาความเป็นอยู่ สร้างความตระหนักด้านสิทธิเด็กและเยาวชน ในประเทศไทย มุ่งเน้น เรื่องสุขภาพ การศึกษา การกีฬา รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือไร้พรมแดน
“ทั้งนี้การที่เราจะคงจุดยืนองค์กรที่เป็นมิตรกับเด็กได้นั้น ต้องได้รับความร่วมมือจากทั้งพันธมิตร องค์กรคู่ค้า และพนักงานทุกคนขององค์กร ที่ตระหนักและมีความรู้ความเข้าใจเรื่องสิทธิด้าน ต่างๆ ของเด็ก และเห็นร่วมกันว่าเป็นเรื่องจำเป็นของเราทุกคน ในการมอบโอกาสให้เด็กได้มีพื้นฐาน คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”
ประเทศไทยได้ลงนามร่วมกับภาคีนานาประเทศ ในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กของสหประชาชาติ ตั้งแต่ปี 2553 เด็กจะมีสิทธิพื้นฐานอยู่ 4 ประการก็คือ สิทธิการมีชีวิตอยู่รอด (Right of Survival) สิทธิในการพัฒนา (Right of Development) สิทธิในการได้รับการคุ้มครอง (Right of Protection) และสิทธิในการมีส่วนร่วม (Right of Participation) โดยรัฐบาลไทยได้ขับเคลื่อน ด้านสิทธิของเด็กอย่างเต็มที่ ด้วยการร่างแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 - 2564 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชน เพื่อให้เด็กและเยาวชน มีคุณภาพชีวิตที่ดี
สิรินทรา มงคลนาวิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวางแผนองค์กรและพัฒนาความยั่งยืน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงในแง่ตัวบทกฎหมายการคุ้มครองสิทธิของเด็กว่า ในประเทศไทยก้าวหน้า เทียบเท่ากับสากล แต่ในทางปฏิบัตินั้นยังเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการอีกมาก จึงเป็นเรื่องที่ดีหากองค์กรและภาคสังคมจะหันมาร่วมมือกันผลักดันให้เกิดผลสัมฤทธิ์ อย่างแท้จริง”
“จะยังเห็นว่าเด็กที่ขาดโอกาส เด็กชายขอบ เด็กไร้สัญชาติ และชาติพันธุ์ทั้งหลายยังเข้าไม่ถึงสิทธิ พื้นฐาน และยังไม่มีความเท่าเทียมกันมากเท่าที่ควร เช่นเด็กในสถานที่ก่อสร้างกว่า 60,000 คน เป็นกรณีที่เราเห็นได้ชัดเจนมากของการขาดพื้นที่ปลอดภัยในการดำรงชีวิต ขาดการศึกษา และ การบริการสาธารณสุขพื้นฐาน เราจึงทำพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กในสถานที่ก่อสร้าง หรือ The Good Space ร่วมกับองค์การ ยูนิเซฟ ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งเราก็ได้รับ ความร่วมมือที่ดีมากจากองค์กรคู่สัญญาของเรา”
ในฐานะผู้ปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสังคม หรือ Social Change ของแสนสิริ สิรินทรา กล่าวถึงปัญหาการขาดโอกาสด้านการศึกษาของเด็กในชุมชนห่างไกลว่า “จากการลงพื้นที่ศึกษา ในเชิงลึกร่วมกับองค์การยูนิเซฟ ในเขตเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และอุดรธานี พบปัญหาความ เหลื่อมล้ำทางการศึกษาของเด็กๆชนกลุ่มน้อยที่ไม่ได้แจ้งเกิดที่โรงเรียนมักจะไม่ยอมให้เข้าเรียน แสนสิริจึงร่วมกับองค์การยูนิเซฟดำเนินโครงการ EDUCATION FOR ALL การศึกษาเพื่อปวงชน ที่มีเป้าหมายพัฒนาร่างนโยบายการทำงานเพื่อบรรเทาปัญหา และความยากลำบาก ในการเข้าถึง การศึกษา และเพื่อให้แน่ใจว่าเด็กจะมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน”
“สิ่งที่เราต้องการจะให้สังคมตระหนักก็คือสิทธิของเด็ก เป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้ สังคมต้องให้ ความสำคัญ เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของสังคมในอนาคต โดยองค์กรควรมอง ผลกระทบที่เชื่อมโยงระหว่างธุรกิจของตนเองกับเด็กๆ มากขึ้น และเริ่มปฏิบัติจากภายในองค์กร ขยายสู่พันธมิตรคู่ค้าตลอดจนร่วมผลักดันขับเคลื่อนทั้งเชิงนโยบายและการปฏิบัติสู่สังคม และอยากฝากไปถึงผู้ประกอบการธุรกิจทุกองค์กรให้ร่วมช่วยกันดูแล คุ้มครองสิทธิเด็กทั้งภายใน กระบวนการทางธุรกิจ และกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคม”
แสนสิริดำเนินนโยบายองค์กรเป็นมิตรกับเด็กภายใต้หลักการสิทธิเด็กและหลักปฏิบัติทางธุรกิจ ได้แก่ นโยบายไม่ใช้แรงงานเด็กในสถานประกอบการ และในสถานที่ก่อสร้าง ทำข้อสัญญา คุ้มครองแรงงานเด็ก ยุติการใช้แรงงานเด็กกับพันธมิตร ผลักดันให้มีพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ในสถานที่ก่อสร้าง หนุนเสริมบทบาทของรัฐและชุมชนในการคุ้มครองและเติมเต็มสิทธิเด็ก ตลอดจนช่วยคุ้มครองเด็กที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฉุกเฉินหรือภัยพิบัติต่างๆ
โธมัส ดาวิน ผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า “แสนสิริเป็นองค์กรแรกในประเทศไทย ที่ได้รับเลือกให้เป็น Selected Partner (เซเล็คเต็ด พาร์ทเนอร์) ของยูนิเซฟ ประเทศไทย ที่มีรายชื่อ อยู่บนเว็บไซต์สากลของยูนิเซฟ จากการที่แสนสิริเป็นองค์กรที่มุ่งมั่น ต่อการดำเนินนโยบายเป็นมิตรต่อเด็ก เราหวังว่าแสนสิริจะเป็นแรงบัลดาลใจให้องค์กรธุรกิจอื่นๆ ดำเนินนโยบายที่เป็นมิตรต่อเด็ก ผ่านการขับเคลื่อนทางกระบวนการธุรกิจเพื่อนำไปสู่การพัฒนาตัวเด็กและธุรกิจที่ยั่งยืนไปพร้อมๆ กัน ซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนให้สังคมในระยะยาวอย่างไร้พรมแดน”
ตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา แสนสิริได้รับเกียรติเข้าร่วมในเวทีระดับโลกกว่า 8 ครั้ง ได้รับการตอบรับ จากผู้แทนสหประชาชาติหลายๆ หน่วยงาน รวมถึงได้รับรางวัลด้าน CSR จากทั้งระดับประเทศ ระดับภูมิภาคเอเชีย และระดับโลก ครั้งนี้นับเป็นความภูมิใจสูงสุดในฐานะองค์กรจากประเทศไทย ที่ได้รับเกียรติสูงสุดเทียบเท่าองค์กรระดับโลก สำหรับองค์กรที่ได้รับเลือกให้เป็น selected partner ของยูนิเซฟในปัจจุบันนี้ ประกอบด้วยองค์กรชั้นนำระดับโลก 20 องค์กร อาทิ หลุยส์ วิตตอง อิเกีย ไอเอ็นจี กุชชี่ และยูนิลีเวอร์ เป็นต้น
การได้รับเลือกครั้งนี้ จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยด้านการให้ความสำคัญกับสิทธิเด็ก ซึ่งเป็นที่เข้าใจดีว่าหลายๆ ประเทศ จะได้รับแรงกดดันจากประชาคมโลก เรียกร้องให้ยุติการใช้แรงงานเด็กอย่างไม่เป็นธรรม และมีผลกระทบต่อทั้งด้านการค้าระหว่างประเทศและภาพลักษณ์ของประเทศ