Swarovski (สวารอฟสกี้) ได้สร้างสรรค์ผลงานอันล้ำค่าผ่านการร่วมมือกับ Coperni แบรนด์แฟชั่นชื่อดังจากปารีส ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องการนำเสนอแฟชั่นที่แปลกใหม่ โดยหนึ่งในผลงานที่น่าจับตามองคือเดรสสเปรย์ เสื้อผ้าชนิดหนึ่งที่ฉีดโพลีเมอร์ลงบนร่างกายเพื่อให้ดูเหมือนเสื้อผ้า เป็นส่วนผสมของโพลีเมอร์ที่แห้งค่อนข้างเร็ว) ที่สวมใส่โดย Bella Hadid นวัตกรรมการออกแบบนี้เปิดตัวในงาน Paris Fashion Week ภายในงานจัดแสดงคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 ที่ดิสนีย์แลนด์ และได้รับความสนใจอย่างมากควบคู่ไปกับชิ้นงานอื่นๆ ที่มีธีมดิสนีย์ เช่น กระเป๋า Ariel Swipe, รองเท้า Mickey Mouse และเสื้อฮู้ด Maleficent

หนึ่งในผลงานที่โดดเด่นคือ กระเป๋า Crystal Swipe  ซึ่งมีน้ำหนักถึง 1.7 กิโลกรัม และประกอบด้วยคริสตัลที่เจียระไนอย่างประณีตถึง 171 เหลี่ยม ช่างฝีมือของ Swarovski ใช้เวลา 110 ชั่วโมง ในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ด้วยมือ ทำให้กระเป๋าใบนี้เปล่งประกายระยิบระยับในสไตล์ซินเดอเรลล่าในยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ Swarovski ยังได้เผยว่า ผลงานประดับตกแต่งชิ้นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากรองเท้าแก้วในตำนาน

กระเป๋า Crystal Swipe ทำจากแก้วคริสตัล Swarovski ประมาณ 10 กิโลกรัม มีพื้นผิวเรียบและขัดเงา พร้อมกับเครื่องหมาย Coperni ที่สลักไว้อย่างภาคภูมิใจ และหงส์อันเป็นสัญลักษณ์ของสวารอฟสกี้ประทับอยู่ที่ฐาน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความประณีตในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้

นอกจากนี้ ในปี 2023 Swarovski ยังได้สร้างสรรค์รองเท้าแก้วของซินเดอเรลล่าจากภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชั่นของดิสนีย์ในปี 2015 ขึ้นใหม่ ผลงานที่น่าทึ่งนี้ได้ถูกนำไปประมูลร่วมกับ House of Mouse เพื่อระดมทุนให้กับมูลนิธิ  Make-A-Wish โดยทำจากคริสตัล Aurora Borealis ที่เจียระไนอย่างประณีต 221 เหลี่ยมต้องใช้ช่างฝีมือของสวารอฟสกี้ 8 คน ในเทือกเขาแอลป์ของออสเตรีย และใช้เวลา 150 ชั่วโมง ในการประดิษฐ์รองเท้าใบนี้

ผลงานเหล่านี้ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังแสดงถึงความร่วมมือระหว่างแฟชั่นและศิลปะที่น่าประทับใจ โดยยกระดับประสบการณ์แฟชั่นให้เป็นมากกว่าสิ่งที่มองเห็น แต่ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวและแรงบันดาลใจจากนิทานในจินตนาการอีกด้วย

สำหรับแนวโน้มตลาดเครื่องประดับโลกในปี 2024 และในอนาคต จะมุ่งเน้นที่ความยั่งยืนและการจัดหาที่ถูกต้องตามจริยธรรม โดยผู้บริโภคมีความต้องการวัสดุที่มาจากแหล่งที่ถูกต้องตามจริยธรรมและแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนเพิ่มมากขึ้น ผู้บริโภคกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของการผลิตเครื่องประดับ ซึ่งผลักดันให้แบรนด์ต่าง ๆ หันมาใช้แนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนมากขึ้น

ขณะเดียวกัน ความนิยมของเพชรที่ปลูกในห้องแล็ปยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งดึงดูดผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม จึงมีแนวโน้มที่จะกำหนดรูปแบบการนำเสนอผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์การตลาด กอปรกับการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ จากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคไปสู่การชอปปิงออนไลน์มากขึ้น ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ ลงทุนในแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าผ่านบริการส่วนบุคคลและการลองสวมเสมือนจริง

นอกจากนี้ อิทธิพลของโซเชียลมีเดียอย่าง Instagram และ TikTok กระตุ้นให้เกิดการบริโภคในกลุ่มผู้บริโภคที่มีอายุน้อย อีกทั้งการที่ผู้บริโภคกำลังมองหาเครื่องประดับชิ้นพิเศษที่ปรับแต่งได้ ทำให้แบรนด์ที่เสนอตัวเลือกการปรับแต่งมีแนวโน้มที่จะดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น เช่นเดียวกับความร่วมมือกับศิลปินและผู้มีอิทธิพลสามารถช่วยให้แบรนด์ต่างๆ เข้าถึงตลาดใหม่ๆ และนำเสนอคอลเลกชันพิเศษได้

ด้านผลการดำเนินงานของ Swarovski แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในภูมิทัศน์ตลาดสินค้าเครื่องประดับหรูหราที่ท้าทาย โดยในปี 2023 บริษัทได้รายงานการเติบโตของยอดขายเพิ่มขึ้น 4% แตะที่ 1,990 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเติบโตอย่างเห็นได้ชัด 10% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ผลงานนี้บ่งชี้ถึงความก้าวหน้าที่แข็งแกร่งแม้ว่าตลาดสินค้าหรูหราจะชะลอตัว

Alexis Nasard ซีอีโอของ Swarovski ได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดซึ่งเน้นที่ความคิดสร้างสรรค์ในคอลเลกชันผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ การปรับปรุงการสื่อสาร และการลงทุนในเครือข่ายร้านค้าปลีก

อย่างไรก็ตาม Swarovski กำลังเผชิญกับความท้าทายในการดึงดูดคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะคนรุ่น Gen Z และ Millennials ซึ่งอัตราการจดจำแบรนด์และความเป็นเจ้าของแบรนด์นั้นต่ำกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มประชากรที่มีอายุมากกว่า แต่กระนั้น Swarovski ยังคงมีศักยภาพที่สำคัญในการเติบโตในกลุ่มเหล่านี้โดยการปรับเปลี่ยนข้อเสนอผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องกับค่านิยมของผู้บริโภคกลุ่มนี้

สำหรับ Swarovski ก่อตั้งขึ้นในปี 1895 ในประเทศออสเตรีย โดยออกแบบ ผลิต และจำหน่ายคริสตัล Swarovski Created Diamonds (เพชรแล็บหรือเพชรที่ปลูกในห้องทดลอง ผ่านการเจียระไนอย่างพิถีพิถัน มีประกายแวววาวอย่างเข้มข้น และเหมือนกับเพชรที่ขุดได้จริงทุกประการ ยกเว้นแหล่งที่มา) และเซอร์โคเนีย (หินเทียมที่มีลักษณะคล้ายกับเพชรมาก) เครื่องประดับและอุปกรณ์เสริม รวมถึงของตกแต่งบ้านและคริสตัลสำหรับยานยนต์ Swarovski Crystal Business มีเครือข่ายทั่วโลกโดยมีจุดขายประมาณ 6,600 จุด ซึ่ง 2,300 จุด เป็นร้านค้าของตนเอง ในกว่า 150 ประเทศ และมีพนักงาน 16,600 คน Swarovski Crystal Business ร่วมกับบริษัทในเครืออย่าง Swarovski Optik (อุปกรณ์ออปติก) และ Tyrolit (วัสดุขัดถู) อยู่ภายใต้ Swarovski Group

#Swarovski #สวารอฟสกี้ #กระเป๋าคริสตัล #CrystalSwipe