เจาะกลยุทธ์แคมเปญ “หมอไหน” จาก “THE KLINIQUE” (เดอะคลีนิกค์) ผนึกกำลังพันธมิตรดนตรีระดับโลกทำ Music Marketing
25 Nov 2024

 

“THE KLINIQUE” (เดอะคลีนิกค์) ผู้นำอุตสาหกรรมคลินิกความงามของประเทศไทย เปิดแคมเปญ “หมอไหน” บทเพลงแห่งยุคสมัยที่สะท้อนมุมมองของผู้บริโภคที่มีความมั่นใจและภูมิใจในการทำหัตถการและศัลยกรรมเสริมความงาม พร้อมสร้างความเชื่อมั่นในทีมแพทย์ของ THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยผนึกกำลัง Warner Music Thailand ทำ Music Marketing ครั้งแรกในอุตสาหกรรมคลินิกความงามในประเทศไทย เตรียมพร้อมรับการเติบโตของอุตสาหกรรมคลินิกความงามในประเทศไทยที่เป็นศูนย์กลางการแพทย์ความงามของเอเชีย และทิศทางผู้บริโภคที่กลุ่มผู้ชาย Gen Z และ LGBTQIA+ ให้ความสนใจใช้บริการมากขึ้น    

 

ภาพรวมการเติบโตอุตสาหกรรมคลินิกความงามในประเทศไทย

 

 

นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

โดยภาพรวม ธุรกิจศัลยกรรมและเสริมความงามของประเทศไทยปี 2566 มีมูลค่าตลาดประมาณ 71,000-72,000 ล้านบาท (ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย) และคาดว่ามูลค่าธุรกิจศัลยกรรมและเสริมความงามของไทยจะเติบโตราว 10% CAGR ในช่วงปี 2022-2030 (ที่มา : SCB EIC) แต่ THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) เติบโตมากกว่า 2-3 เท่าของอุตสาหกรรม เป็นการเติบโตสวนกระแส ซึ่งแสดงถึงความแข็งแกร่งของ THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) โดยมีการเติบโตจาก 3 ปัจจัยคือ

  1. ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการแพทย์ความงามของโลก ประเทศไทยเป็น 1 ใน 5 ศูนย์กลางการแพทย์ความงามของโลก เป็นรองเพียงสหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ จีน และ บราซิล
  2. ทิศทางผู้บริโภค แม้ว่าประชากรไทยมีแนวโน้มจะลดลงในช่วงปี 2024-2040 แต่รายได้เฉลี่ยของประชากรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นถึง 60.3% ทำให้เกิดกำลังซื้อที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมากในกลุ่มประชากรในเมือง (Urban residents) ซึ่งตรงกับกลุ่มเป้าหมายของ THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์)  ด้วย (ที่มา: Euromonitors)
  3. นโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ ประเทศไทยได้รับการผลักดันจากภาครัฐให้เป็นศูนย์กลางการแพทย์ความงามของโลก พร้อมกับนโยบายกระตุ้นซอฟต์พาวเวอร์ด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งจะดึงดูดให้ชาวต่างชาติเดินทางมาประเทศไทยเพื่อรับบริการศัลยกรรมและเสริมความงาม

 

จากข้อมูลของ SCB EIC คลินิกความงามในประเทศไทย สามารถแบ่งตามรูปแบบการให้บริการเป็น 2 ประเภทคือ

  1. ธุรกิจบริการหัตถการเสริมความงาม
    • ผู้บริโภคมีแนวโน้มขยายฐานผู้ใช้บริการมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ชายและ Gen Z
    • การใช้บริการหัตถการส่วนใหญ่ ผู้บริโภคจะใช้บริการเพื่อการรักษาและบำรุงผิวมากที่สุด ควบคู่กับการใช้บริการหัตถการประเภทอื่น
    • ผู้บริโภคส่วนใหญ่เลือกใช้บริการจากสถานบริการที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ โดยพบว่า ผู้บริโภคเลือกใช้บริการหัตถการเสริมความงามที่คลินิกขนาดใหญ่ที่มีสาขามากที่สุด ทั้งในกลุ่มการฉีด (โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ IV Dip สเต็มเซลส์) กลุ่มรักษาและบำรุงผิว (ทรีตเมนต์ ฉีดสิว/กดสิว เลเซอร์ผิว เลเซอร์กำจัดขน) และกลุ่มลดไขมัน ปรับรูปร่าง รูปหน้า (คลื่นความถี่ เทคโนโลยีกระชับสัดส่วน ร้อยไหม)
  2. ธุรกิจศัลยกรรมความงาม
    • ผู้บริโภคมีแนวโน้มให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z และ LGBTQIA+
    • ผู้ที่ผ่านการทำศัลยกรรมส่วนใหญ่ยังคงทำศัลยกรรมมากกว่า 1 ประเภท คิดเป็น 65% ของผู้ที่เคยทำศัลยกรรม
    • การทำศัลยกรรมจมูกและดวงตาเป็นที่นิยมสูงสุดจากผู้ที่ผ่านการทำศัลยกรรมเสริมความงามมาแล้ว และสถานบริการที่ได้รับความนิยมในการศัลยกรรมจมูกและดวงตาคือ คลินิกศัลยกรรมเฉพาะทาง

 

 

ภาพรวมการเติบโตของ THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์)

นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ กล่าวว่า ปัจจุบัน THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์)  มี Market Share เป็นอันดับ 1 ของกลุ่มธุรกิจคลินิกความงามขนาดใหญ่ในประเทศไทย มีการเติบโตในระดับ 2 หลัก โดยในปี 2566 มีรายได้จากแผนกผิวหนังและความงาม 80.7% แผนกศัลยกรรมตกแต่ง 10.3% แผนกชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ 6.3% และแผนกลดน้ำหนักและดูแลรูปร่าง 2.7% มีการขยายสาขา 20 สาขาในปีนี้

รวมทั้งได้รับรางวัลชนะเลิศในระดับเอเชียแปซิฟิกคือ “Winner of the Ulthera Lifting Highest Achievement Asia-Pacific Award” ซึ่งแสดงให้เห็นว่า THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์)  มีการเติบโตและได้รับความเชื่อมั่นทั้งในประเทศและระดับสากล

 

 

4 กลยุทธ์ที่ THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) ใช้ในการดำเนินธุรกิจปี 2567 คือ

  1. การขยายสาขา มีการเปิดสาขาใหม่เพิ่ม 20 สาขา ในทำเลที่มีศักยภาพ ภายใต้งบลงทุน 500 ล้านบาท หรือลงทุนเฉลี่ย 25-30 ล้านบาทต่อสาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
  2. การพัฒนานวัตกรรมความงาม เน้นนวัตกรรม เทคโนโลยี และความปลอดภัย ด้วยงบลงทุน 200 ล้านบาท สำหรับการเพิ่มเครื่องมือใหม่ๆ
  3. การตลาดและการสื่อสาร มุ่งเน้นกลยุทธ์การเข้าถึงผู้บริโภคแบบ Omnichannel สร้างการรับรู้แบรนด์และ Engagement กับผู้บริโภค จนเป็นที่รู้จักทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยมีสัดส่วนลูกค้าคนไทยประมาณ 85% ต่างชาติ 15% ทั้งจากประเทศจีนและประเทศเพื่อนบ้าน โดยทั้งหมดล้วนเป็นลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง
  4. การบริการ พัฒนาด้านบริการให้มีความเฉพาะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละราย และใส่ใจผ่านทีมแพทย์ผู้ชำนาญการที่มีประสบการณ์มากกว่า 100 คน พร้อมพยาบาลกว่า 200 คน รวมถึงพนักงานให้บริการกว่า 1,000 คน ที่ได้รับการเทรนนิ่งพร้อมรองรับลูกค้าอย่างครบวงจร

 

“Proud to be New” ผู้บริโภคปัจจุบันภูมิใจและกล้าเปิดเผยว่ารับบริการหัตถการและศัลยกรรมเสริมความงามกันมากขึ้น

นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ กล่าวว่า จากการเฝ้าสังเกตผู้บริโภคพบว่า ปัจจุบันผู้บริโภคมีความมั่นใจและกล้าเปิดเผยในการรับบริการหัตถการและศัลยกรรมเสริมความงามมากขึ้น พร้อมจะบอกต่อด้วยความภูมิใจว่าตัวเองมีวิธีการดูแลตัวเองให้ดูดีขึ้น ไม่ใช่เรื่องน่าอายหรือต้องปิดบังอีกต่อไป โดยดูได้จากข้อมูลดังต่อไปนี้

  • ผู้บริโภคของ THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์)  มากกว่า 75% เป็นลูกค้าที่ยินดีให้ THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) ทำเคสไปรีวิวต่อในโซเชียลมีเดีย และกลุ่มลูกค้าที่เข้ารับบริการการศัลยกรรมที่ THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) มากกว่า 75% กลับมาทำศัลยกรรมเพิ่มในส่วนอื่น แสดงถึงความมั่นใจที่ผู้บริโภคมีต่อ THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) และแสดงถึงความต้องการในการศัลยกรรมที่เพิ่มขึ้นด้วย
  • อายุของผู้บริโภคที่เข้ารับบริการคลินิกความงามมีแนวโน้มอายุน้อยลง แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z เป็นกลุ่มที่เคยทำศัลยกรรมความงามมากที่สุด คิดเป็น 35% และยังเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนของคนที่ยังไม่เคยทำ แต่มีความสนใจสูงสุดอีกด้วยเมื่อเทียบกับเจเนอเรชั่นอื่นๆ (ที่มา: SCB EIC)
  • คีย์เวิร์ดสูงสุด 5 อันดับแรกที่มีคนค้นหาเกี่ยวกับการศัลยกรรมความงามคือ  1.ทรงจมูก 2.เสริมจมูก 3.จมูก Open (โอเพ่น) 4.ทำจมูก  5.แก้จมูก

 

จาก Insight สู่ Innovation แคมเปญ “หมอไหน” จาก THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์)

นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ กล่าวว่า เมื่อผู้บริโภคปัจจุบันมีความภูมิใจในการรับบริการหัตถการและศัลยกรรมเสริมความงาม และมีความต้องการมากขึ้น THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์)  เองจึงใช้กลยุทธ์ “Proud to be New” ซึ่งหลอมรวมมุมมองเชิงบวกของผู้บริโภคปัจจุบันที่มีต่อการศัลยกรรมความงาม เข้ากับการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์)  ภูมิใจ เกิดเป็นแคมเปญ “หมอไหน” เพื่อสื่อสารว่า การทำศัลยกรรมเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ ไม่ใช่จะทำกับหมอที่ไหนก็ได้ แต่ต้องอยู่ในความดูแลของหมอผู้ชำนาญการเฉพาะเท่านั้น  โดยสื่อสารผ่านบทเพลงและมิวสิควิดีโอ “หมอไหน” ร้องโดยน้ำชา ชีรณัฐ Feat. นัท นิสามณี โดยชื่อเพลงมีที่มาจากคำค้นหาที่ติดอันดับสูงสุดทางอินเตอร์เน็ตในเรื่องการทำหัตถการและศัลยกรรมที่ทีมการตลาดของ THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) ได้รวบรวมข้อมูลเพื่อความเข้าใจผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง

 

 

“แคมเปญ ‘หมอไหน’ ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ของ THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) ที่ทำการสื่อสารรูปแบบใหม่ผ่าน Music Marketing ซึ่งเป็นครั้งแรกที่คลินิกความงามจับมือกับพันธมิตรค่ายเพลงระดับโลกอย่าง Warner Music Thailand โดยมีเนื้อหาที่สะท้อนนิยามความสวยแบบใหม่

ซึ่งบ่งบอกถึงยุคสมัยที่ผู้บริโภคภูมิใจในการตัดสินใจกำหนดนิยามความงามได้ด้วยตัวเอง สะท้อนมุมมองของผู้บริโภคในปัจจุบันที่มีต่อการทำหัตถการและศัลยกรรมว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ ผู้บริโภคกล้าเปิดเผยและมั่นใจที่จะทำ ไม่ต้องปกปิดอีกต่อไป เพราะดูดีจนคนต้องถามว่าทำกับหมอไหนมา โดยการใช้ Music Marketing ช่วยทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น รวมทั้งเป็นแคมเปญที่สื่อสารถึงจุดแข็งในเรื่องทีมบุคลากรทางการแพทย์ของ THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน พร้อมไปกับการให้ความรู้ที่เข้าใจง่ายเกี่ยวกับการทำหัตถการและศัลยกรรมผ่านโซเชียลมีเดียของ THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) ซึ่งปัจจุบันมีผู้ติดตามรวมทุกช่องทางกว่า 1 ล้านคน” นายแพทย์อภิรุจกล่าว

 

ความแข็งแกร่งของทีมแพทย์ผู้ชำนาญการที่ THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์)

นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ กล่าวว่า THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) ให้ความสำคัญกับบุคลากรทางการแพทย์เป็นอย่างยิ่ง ปัจจุบันทีมแพทย์ผู้ชำนาญการที่มีประสบการณ์มากกว่า 100 คน ที่ได้รับการเทรนอย่างเข้มข้นทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างสม่ำเสมอเพื่ออัพเดททักษะความรู้ให้ทันสมัยอยู่เสมอ นอกจากการรักษาอย่างชำนาญแล้วยังมีการทำคอนเทนต์ให้ความรู้จากทีมแพทย์ของ THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) ซึ่งทำให้ผู้บริโภคได้รับข้อมูลอย่างถูกต้องจากแพทย์ผู้ชำนาญการ สร้างความรู้สึกคุ้นเคยและไว้วางใจก่อนการเข้ารับบริการ “ด้วยการดูแลและพัฒนาทีมแพทย์อย่างจริงจังของ THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) เช่นนี้ ทำให้แบรนด์สามารถรักษาบุคลากรที่มีคุณภาพไว้ได้ และทำให้การดำเนินธุรกิจเติบโตขึ้น พร้อมไปกับการสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค” นายแพทย์อภิรุจกล่าว

 

ความสำเร็จของ “หมอไหน” และก้าวต่อไปของ THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์)

“แคมเปญ ‘หมอไหน’ เป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมคลินิกเสริมความงามของ THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) ทั้งในแง่การนำเสนอนวัตกรรมใหม่แบบ Music Marketing ร่วมกับพันธมิตรด้านดนตรีระดับโลกในการสะท้อนถึงบริบทความงามในปัจจุบันของผู้บริโภค และเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น และแสดงถึงความแข็งแกร่งในการพัฒนาคุณภาพทีมแพทย์ของ THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) โดยปัจจุบันเพลง ‘หมอไหน’ มียอดวิวมากกว่า 1 ล้านวิวแล้วใน TikTok

เป้าหมายของ THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) คือการไม่หยุดพัฒนาและมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเพื่อความงามมาตรฐานระดับสากล เพื่อให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจและสามารถดูดีขึ้นในแบบที่ตัวเองต้องการ”

 


#THEKLINIQUE #THEKLINIQUEsurgery #หมอไหน

[อ่าน 1,673]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กระหึ่มสนาม! “เอส โคล่า” ลุยแคมเปญ “เสิร์ฟเอส เชียร์ไทยให้ AWESOME”
โรงแรมนารายณ์ กลับมาสร้างตำนานบทใหม่ในฐานะพันธมิตรกับ Hyatt
ทีเส็บ จับมือ สกพอ. พร้อมพันธมิตรภาครัฐ เอกชนกว่า 100 หน่วยงาน เปิดงาน EEC EXPO 2025
BPP รุกตลาด Power Trading สหรัฐฯ ตอกย้ำบทบาทผู้บุกเบิกด้านผลิตพลังงาน
SC Asset ยกทัพบ้าน-คอนโดกว่า 75 โครงการ แจก Benz E 350 e Exclusive และอื่นๆ อีกมากมาย 

Stanbroke จับมือ Udom Supply เปิดตลาดครั้งใหม่ “True North” แบรนด์เนื้อวัวระดับซูเปอร์พรีเมียมในไทย
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved