เทรนด์การใช้ชีวิตระหว่างคนร่วมกับสัตว์เลี้ยง เป็นหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบัน เรียกว่ากระแส Pet Lover ส่งผลให้การเอาใจใส่ดูแลสัตว์เลี้ยงในชีวิตประจำวัน มีการคัดสรรเพื่อเอาใจ สร้างความสุขเพื่อคุณชีวิตที่ดีให้กับสัตว์เลี้ยง ทั้งน้องหมา น้องแมว ดังนั้น ทำให้อาหารสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ ในการดูแล ทำให้ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงที่บูมขึ้น เกิดแบรนด์ต่างๆ ออกมาเป็นทางเลือกให้กับเจ้าของสัตว์เลี้ยงมากมาย
มาทำความรู้จักกับแบรนด์ที่ขึ้นชื่อ ที่เป็นเจ้าแรกๆ มาทำตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในไทย ภายใต้แบรนด์ PEDIGREE®, WHISKAS®, IAMS®, CESAR®, SHEBA®, TEMPTATIONS™ เป็นผลผลิตของ บริษัท มาร์ส อินคอร์ปอเรท (Mars, Incorporated) ผู้นำระดับโลกด้านผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยง อาหารขนม และอาหารทั่วไป ที่เข้ามาทำตลาดและลงทุนในไทย ภายใต้บริษัท มาร์ส เพ็ทแคร์ (ประเทศไทย) เมื่อ 25 ปีที่ผ่านมา
อ.ปากช่อง แหล่งผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง ของมาร์ส เพ็ทแคร์ ส่งตลาดทั่วโลก
มาร์ส เพ็ทแคร์ (ประเทศไทย) เห็นโอกาสที่จะใช้ไทยเป็นฐานผลิตอาหารเลี้ยงสัตว์และส่งออกทั่วโลก ด้วยการตั้งโรงงานแห่งแรกที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อปี 2542 ตลอดระยะที่ผ่านมา ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคด้วยนวัตกรรมและคุณภาพระดับสากล ที่พร้อมส่งมอบอาหารสัตว์เลี้ยงคุณภาพสูงให้แก่ Pet Parent ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่ตลาดทั่วไปจนถึงตลาดพรีเมียม ได้รับการยอมรับในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา
จากงานฝ่ายวิจัยของสถาบันการเงินหลายสำนัก ระบุว่าปี 2567 มีมูลค่าตลาดอาหารสัตว์สูงถึงราว 41,700 ล้านบาท โต 15.8% จากปีก่อน ขณะที่ตลาดส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยปี 2567 มีมูลค่าประมาณ 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 19.5% กล่าวได้ว่า นี่คือธุรกิจที่มีมูลค่ามหาศาล หากคิดเป็นมูลค่าตลาดโลกอยู่ที่กว่า 70,000 ล้านบาท และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยจำนวนสุนัขและแมวทั่วโลกที่มีอยู่ 1,000 ล้านตัว
เดินหน้าสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อหารสัตว์เลี้ยงคุณภาพป้อนตลาดเติบโต
การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์มีความหลากหลาย ทั้งในแง่รสชาติ ขนาดบรรจุภัณฑ์ คุณประโยชน์ต่อสุขภาพและความต้องการเฉพาะทาง เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของสัตว์เลี้ยงแต่ละชนิดและแต่ละวัย
“ปัจจุบันมาร์สเพ็ทแคร์ ได้มีการคิดค้นผ่านงานวิจัยและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการใช้เทคโนโลยีในการพัฒนากระบวนการผลิต ทำให้สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่อาหารสัตว์เลี้ยงแบบแห้ง และแบบเปียกที่เสิร์ฟครั้งเดียว ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ดูแลฟันเฉพาะทาง รวมถึงขนมขบเคี้ยว/อาหารว่าง สำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีประโยชน์และส่งเสริมสุขภาพสำหรับหมาและแมว”
ธีรเดช กสิเสรีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการผลิต บริษัท มาร์ส เพ็ท นูทริชั่น ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวถึงความมุ่งมั่น และตั้งใจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ
ความภาคภูมิใจที่เป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงในประเทศไทย โรงงานปากช่องได้พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด มีผลิตผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่อาหารสัตว์เลี้ยงแบบแห้งและแบบเปียกที่เสิร์ฟครั้งเดียว ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ดูแลฟันเฉพาะทาง รวมถึงขนมขบเคี้ยว/อาหารว่างสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีประโยชน์และส่งเสริมสุขภาพสำหรับแมวและสุนัข นับเป็นโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ของมาร์ส เพ็ทแคร์ มีการส่งออกถึง 80% มีส่วนในการผลักดันไทยให้เป็นผู้ส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงอันดับ 3 ของโลก ด้วยกำลังการผลิตกว่า 2,333 ล้านกิโลกรัม ในระยะเวลา 25 ปี
ทั้งนี้ มาร์ส เพ็ทแคร์ ได้มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง เพื่อรองรับตลาดที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วตามเทรนด์คนรักน้องหมาน้องแมว และมีแผนขยายกำลังการผลิตต่อเนื่อง โดยในปี 2545 ตั้งโรงงานผลิตอาหารแบบเปียก ชนิดซอง ปี 2546 ตั้งโรงงานผลิตขนมขบเคี้ยว/อาหารว่างสำหรับสัตว์เลี้ยง และในปี 2564 ตั้งโรงงานผลิตขนมขบเคี้ยวสำหรับสัตว์เลี้ยง ที่ทันสมัยมากขึ้น
การันตีความปลอดภัยทุกกระบวนก่อนส่ง ถึงน้องหมา น้องแมว
ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญด้านการผลิตที่มีคุณภาพและความปลอดภัยสูง ที่มีกระบวนผลิตผลิตภัณฑ์กว่า 65 ชนิด ตั้งแต่อาหารสัตว์เลี้ยงแบบแห้งและแบบเปียก อาหารเพื่อสุขภาพเฉพาะทาง และขนมขบเคี้ยว ทั้งหมดผลิตภายใต้มาตรฐานสากลที่ได้รับการรับรองจากสถาบันประเมินผลต่างๆ ได้แก่ใบรับรอง HCCP, GMP, FSSC22000, และ SUCI และยังได้รับรางวัล Zero Accident Award ระดับ Silver Prize ซึ่งเป็นเครื่องการันตีถึงความปลอดภัยในการทำงานและความมุ่งมั่นในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีเยี่ยม สร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ที่ผ่านกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการดูแลชุมชนและสังคม เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโต
คุณภาพ ความปลอดภัย และโภชนาการของอาหารเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพของน้องหมาน้องแมว พวกเขาควรได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและสมดุลตามช่วงอายุและสายพันธุ์ เจ้าของสัตว์เลี้ยงควรเลือกแบรนด์ที่ได้มาตราฐานสากล เพื่อให้พวกเขามีสุขภาพที่ดี ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ยาวนานระหว่างเจ้าของและสัตว์เลี้ยง