สิงห์ เอสเตท ประกาศอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ชุดใหม่ จำนวน 2 ชุด ประกอบด้วยหุ้นกู้อายุ 2 ปี และ 3 ปี ที่อัตราดอกเบี้ย 4.50% และ 5.00% ต่อปี โดยจะเสนอขายต่อประชาชนเป็นการทั่วไป ระหว่างวันที่ 7 – 9 ม.ค. 2568 ด้านสถาบันการเงินผู้จัดการการจัดจำหน่ายมั่นใจหุ้นกู้ดังกล่าวจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี ระบุมั่นใจในแบรนด์ “สิงห์ เอสเตท” ซึ่งเป็นที่ยอมรับในตลาดทั้งในและต่างประเทศ พร้อมแนวโน้มการเติบโตของบริษัทอย่างต่อเนื่อง
บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ‘S’ ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการลงทุนระดับสากล กำหนดอัตราดอกเบี้ยสำหรับหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 2 ชุด ประกอบด้วย หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.50% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.00% ต่อปี โดยหุ้นกู้ดังกล่าวกำหนดชำระดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน โดย “สิงห์ เอสเตท” จะเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าวให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป ระหว่างวันที่ 7 – 9 มกราคม 2568 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร และธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย
สำหรับหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ที่ระดับ “BBB” ซึ่งเป็นกลุ่ม “ระดับลงทุน” (Investment grade) ขณะที่อันดับความน่าเชื่อถือองค์กรอยู่ที่ระดับ “BBB+” แนวโน้ม “Negative” โดยทริสเรทติ้ง ระบุว่า อันดับความน่าเชื่อถือดังกล่าวสะท้อนถึงคุณภาพที่ดีของสินทรัพย์โรงแรมของบริษัทฯ ตลอดจนแบรนด์ที่อยู่อาศัยที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีและรายได้ประจำจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ของบริษัทฯ
สำหรับ สิงห์ เอสเตท ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ครอบคลุม ธุรกิจโรงแรม ภายใต้การบริหารงานของ ‘เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท’ (SHR) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นอย่างชัดเจนในรอบเก้าเดือนที่ผ่านมา โดยปัจจุบัน SHR เป็นเจ้าของโรงแรมทั้งสิ้นจำนวน 36 แห่ง ห้องพัก 4,290 ห้อง ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญกระจายอยู่ใน 3 ภูมิภาค 5 ประเทศ
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัย ซึ่งครอบคลุมการพัฒนารูปแบบโครงการทั้งแนวสูงและแนวราบ ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม และโฮมออฟฟิศ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า ได้แก่ ศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานให้เช่า ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงและให้ผลตอบแทนต่อการลงทุนอยู่ในเกณฑ์ดี รวมถึงธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน อันเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มดีอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
ฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ‘S’ เปิดเผยว่า
บริษัทฯ มั่นใจว่าหุ้นกู้ที่จะเสนอขายในครั้งนี้ จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดีเหมือนการเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทฯ ที่ผ่านมา เนื่องจากแบรนด์ “สิงห์ เอสเตท” เป็นแบรนด์ที่มีศักยภาพการเติบโตทั้งในตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัย อสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า รวมถึงธุรกิจโรงแรมทั้งในและต่างประเทศ เห็นได้จากภาพรวมการดำเนินงานของสิงห์ เอสเตทในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมาซึ่งยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องตามแผน แม้ในสภาวะที่ตลาดกลุ่มอสังหาริมทรัพย์มีการแข่งขันสูง
“นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมั่นใจว่าแผนธุรกิจและกลยุทธ์การขยายธุรกิจ รวมถึงความแข็งแกร่งของบริษัทฯ ในฐานะผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ที่มีความเข้มแข็งทั้งโครงสร้างธุรกิจ ฐานะการเงิน และการดำเนินการภายใต้หลักบรรษัทภิบาล ตลอดจนอายุของหุ้นกู้ที่เหมาะสมและผลตอบแทนที่น่าพอใจ จะทำให้หุ้นกู้ของบริษัทฯ ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ลงทุนอย่างแน่นอน” ฐิติมา กล่าวเสริม
ด้านสถาบันการเงินผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ เชื่อมั่นว่าหุ้นกู้ “สิงห์ เอสเตท” จะได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี เนื่องจากผลการดำเนินงานของ “สิงห์ เอสเตท” ในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมายังคงเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ เห็นได้จากผลประกอบการงวดเก้าเดือนแรก ของปี 2567 ซึ่งบริษัทฯ มีรายได้จากการประกอบธุรกิจหลักรวมทั้งสิ้น 11,431 ล้าน คิดเป็นอัตราการเติบโตถึง 13% เมื่อเทียบกับสิ้นงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า อีกทั้งหุ้นกู้ “สิงห์ เอสเตท” ยังถือเป็นหุ้นกู้ที่ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ ด้วยอัตราดอกเบี้ยระดับ 4.50% และ 5.00% ต่อปี และอายุหุ้นกู้ที่เหมาะสม ภายใต้อันดับความน่าเชื่อถือระดับ “ลงทุน” เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในบริษัทฯ ที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ หุ้นกู้ สิงห์ เอสเตท จะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนในระหว่างวันที่ 7 – 9 มกราคม 2568 ผ่าน 4 สถาบันการเงินชั้นนำทั่วประเทศ ได้แก่
ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากร่างหนังสือชี้ชวน ได้ที่ www.sec.or.th
คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน