กรุงศรี จับมือ ไทยยูเนี่ยน และ ไอ-เทล เปิดตัวโครงการ ESG-Linked Foreign Exchange (FX) 

05 Feb 2025

 

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน))  จับมือ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลก พร้อมด้วย บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงชั้นนำระดับโลก เปิดตัวโครงการ ESG-Linked Foreign Exchange (FX) นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญของทั้งสามองค์กรอีกครั้งในการสนับสนุนส่งเสริมด้านความยั่งยืนของประเทศไทย ตอกย้ำให้เห็นถึงความเป็นผู้นำของทั้งสามองค์กรในด้านการเงินเพื่อความยั่งยืน และยังเป็นการบริหารจัดการอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศเพื่อความยั่งยืนที่สอดคล้องและเป็นไปตามมาตรฐานสากล สะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการและความก้าวหน้าของนวัตกรรมด้านการเงินเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทยอีกด้วย

 

โครงการ ESG-Linked FX ได้ผสานเอาหลักการและมิติในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เข้ากับการทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ โดยเชื่อมโยงเงื่อนไขทางการเงิน อย่างเช่นเรื่องของต้นทุนการประกันความเสี่ยง เข้ากับการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน ภายใต้โครงการนี้ ลูกค้าที่ขับเคลื่อนและบรรลุเป้าหมายด้าน ESG ที่กำหนดไว้ อาทิ เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน หรือการปรับปรุงตัวชี้วัดด้านการพัฒนาสังคม จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางการเงิน เช่น ต้นทุนการประกันความเสี่ยงที่ลดลง

ทั้งนี้ ภายใต้โครงการดังกล่าว กรุงศรีได้ผสานตัวชี้วัดด้านความยั่งยืน (Key Performance Indicators: KPIs) และเป้าหมายด้านความยั่งยืน (Sustainability Performance Targets: SPTs) ซึ่งอยู่ภายใต้กรอบการเสนอขายตราสารหนี้ส่งเสริมความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน (Thai Union’s Sustainability-Linked Financing Framework) เข้ากับธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งทั้ง KPIs และ SPTs จะได้รับการพิจารณาและตรวจสอบโดยหน่วยงานภายนอก เพื่อให้มั่นใจว่าแนวทางและการดำเนินงานดังกล่าวสอดคล้องและเป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยการบูรณาการนี้จะช่วยให้การบริหารจัดการความเสี่ยงสกุลเงินต่างประเทศมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยรวมเอาปัจจัยด้านความยั่งยืนเข้าไว้ในกลยุทธ์ทางการเงิน และช่วยลดต้นทุนธุรกรรมแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศได้อีกด้วย

 

 

ฮิโรทากะ คุโรกิ  ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

“เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ ไทยยูเนี่ยน และ ไอ-เทล ในโครงการ ESG-Linked FX นี้ โดยในฐานะที่กรุงศรีเป็นสถาบันการเงินที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนด้านการเงินที่ยั่งยืน เราได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้าน ESG Finance และทำงานเชิงรุกอย่างใกล้ชิดกับลูกค้า โดยกรุงศรีเห็นถึงความต้องการผลิตภัณฑ์ทางการเงินความยั่งยืนที่เพิ่มมากขึ้นในตลาด เมื่อช่วงต้นปี 2567 ที่ผ่านมา ธนาคารจึงได้ออก ESG-Linked Derivatives และตามมาด้วยโครงการ ESG-Linked FX ในครั้งนี้  ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางการเงินที่ผสานเอาหลักการด้าน ESG เข้าไว้กับการทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ เป็นการต่อยอดการบริหารจัดการความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศแบบดั้งเดิม เพื่อรวมปัจจัยด้านความยั่งยืนเข้าไว้กับกลยุทธ์ทางการเงิน ซึ่งจะเป็นการช่วยสนับสนุนวัตถุประสงค์ด้านความยั่งยืนของทั้งสององค์กร”

 

ประกอบ เพียรเจริญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

“ที่ผ่านมา กรุงศรี และ ไทยยูเนี่ยน ประสบความสำเร็จร่วมกันจากความร่วมมือในโครงการ Blue Finance หรือการบริหารจัดการการเงินเพื่อการทำงานด้านการอนุรักษ์ท้องทะเลของไทยยูเนี่ยน โดยเราได้บรรลุเป้าหมายที่สำคัญในภูมิทัศน์ทางการเงินด้านความยั่งยืนของประเทศไทย ทั้งการออกสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability-Linked Loan หรือ SLL) ครั้งแรกของประเทศไทยและญี่ปุ่น เมื่อปี 2564 และในปีเดียวกันนั้น กรุงศรีและไทยยูเนี่ยนยังประสบความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability-Linked Bond หรือ SLB) เป็นครั้งแรกของประเทศไทย สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ยังคงเป็นการขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านความยั่งยืนออกสู่ตลาดในประเทศไทย และชี้ให้เห็นถึงจุดยืนของกรุงศรีในการเป็นผู้นำตลาดด้านการเงินเพื่อความยั่งยืน และเน้นย้ำถึงคำมั่นสัญญาของเราที่จะให้การสนับสนุนลูกค้าสู่การบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนได้อย่างแท้จริง”

 

ยงยุทธ เสฎฐวิวรรธน์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการบริหารการเงินกลุ่มและศูนย์บริการร่วมทางการเงิน บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

“ความยั่งยืนถือเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของไทยยูเนี่ยนและไอ-เทล เพื่อเป้าหมายการมีสุขภาพที่ดีและท้องทะเลที่อุดมสมบูรณ์ “Healthy Living, Healthy Oceans" ซึ่งขับเคลื่อนภายใต้กลยุทธ์ SeaChange®2030 ที่มุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับอุตสาหกรรม ผู้คน และโลก โดยในด้านการเงินไทยยูเนี่ยนมีเป้าหมายจัดหาเงินทุนที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนให้ได้ 75 เปอร์เซ็นต์ของการจัดหาเงินทุนระยะยาวภายในปี 2568 เพื่อการทำงานด้านการอนุรักษ์ท้องทะเล  ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการทำงานด้านความยั่งยืนอย่างจริงจัง เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน และยกระดับนวัตกรรมทางการเงินเพื่อสร้างสมดุลในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล”

[อ่าน 1,032]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พรีโม ผนึก 3 พันธมิตรบัตรเครดิตชั้นนำ มอบสิทธิพิเศษซ่อมห้องชุด ดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 6 เดือน*
“โค้ก” จับมือ 14 พันธมิตร เดินหน้าแคมเปญ “โค้ก” ชวนแยก แลกลุ้นโชค กับ Trash Lucky ปีที่ 5
SCB 10X จับมือ AI Singapore ดันวงการ AI จัดเวทีแข่งขันระดับภูมิภาค Pan-Southeast Asia AI Developer Challenge 2025
ไฮเออร์ส่งเครื่องซักผ้า AI เรือธง 3 รุ่นท้าหน้าฝน
KFC ประเทศไทยจุดกระแสไวรัล! แคมเปญ ‘ชิลลี่ชีสอยู่ใกล้…อย่าไว้ใจตัวเอง’
Whoscall เปิดตัวฟีเจอร์ “SOS ขอความช่วยเหลือ” เสริมเกราะป้องกันภัยมิจฉาชีพออนไลน์ ครบจบในแอปเดียว
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved