LPN ยืนหนึ่งลดฝุ่น PM 2.5 ชวนผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ร่วมแก้ปัญหาค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานที่กระทบคนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
โอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ กรุ๊ป (LPN) กล่าวถึงปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่เกินค่ามาตรฐาน และเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิตของประชาชนทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมาตลอดเดือนมกราคมนี้ LPN ว่า ในฐานะผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่พัฒนาโครงการภายใต้แนวคิด “ชุมชนน่าอยู่” ที่ไม่เพียงคำนึงถึงความน่าอยู่เฉพาะแต่ในชุมชนลุมพินี แต่ยังคงความห่วงใยในการสร้างความ “น่าอยู่” ไปยังสังคมและสิ่งแวดล้อม
“บริษัทมีโครงการอาคารชุดพักอาศัยแบรนด์ “ลุมพินี” ที่พัฒนาแล้วเสร็จกระจายทั่วกรุงเทพมหานคร 150 โครงการ จึงร่วมแสดงจิตสำนึกในการรับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดจากการดำเนินการในทุกกระบวนการเพื่อลดค่าฝุ่นที่กำลังเป็นปัญหาในขณะนี้ ด้วยการใช้วิธีฉีดน้ำแบบสเปรย์จากชั้นดาดฟ้าของอาคารมาตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2562 ทุกวัน ในช่วงเวลาที่การเดินทางคับคั่งที่สุดคือ 8:00 น., 12:00 น. และ 18:00 น.
และในขณะนี้ได้เพิ่มมาตรการเข้ม โดยให้ติดตั้งระบบน้ำฉีดโดยรอบทุกอาคาร เพื่อฉีดน้ำให้เกิดละอองฝอย บรรเทาฝุ่นพิษแก่ลูกค้าในโครงการและเพื่อนบ้านข้างเคียง โดยให้ดำเนินการเร่งด่วนภายในวันนี้ โดย LPN จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งค่าติดตั้ง ค่าไฟ และค่าน้ำ ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก เจ้าของร่วม ผู้พักอาศัย และคณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุดเป็นอย่างดีในทุกโครงการ”
ด้านโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง บริษัทในฐานะผู้ประกอบการที่ใช้เครื่องจักรในการก่อสร้าง จึงร่วมป้องกันและดูแลผลกระทบในส่วนต่างๆ เพิ่มเติมและต่อยอดจากแนวทาง “GREEN Construction Process Standard” ดังนี้
โดยในเขตที่ค่าฝุ่นละอองเลวร้ายมาก (โซนสีแดง) โครงการระหว่างก่อสร้าง จะติดตั้งเครื่องพ่นละอองน้ำบนชั้นสูงรอบอาคาร เพื่อช่วยลดมลภาวะต่อบ้านข้างเคียง นอกจากนี้ สำหรับโครงการที่การก่อสร้างเพิ่งโผล่พ้นดิน ก็สั่งการให้พรมน้ำตลอดวันทั่วทั้งโครงการ สำหรับบ้านข้างเคียงในโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง บริษัทได้ติดตามสอบถามสุขภาพเป็นประจำทุกสัปดาห์ โดยเฉพาะบ้านที่มีผู้สูงอายุและเด็กเล็ก พร้อมแจกและรณรงค์ให้ใส่หน้ากากอนามัยเป็นประจำ
ทั้งนี้ LPN ตระหนักถึงบทบาทและความรับผิดชอบของผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ควรมีต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมเสมอมา ตลอด 30 ปีของการดำเนินงาน จึงได้ให้ความสำคัญและกำหนดเป็นแผนงานและแนวทางปฏิบัติภายใต้ GREEN Construction Process Standard ที่ถือเป็นความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมในกระบวนการ (CSR in Process)
และสำหรับปัญหาค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานนี้ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้นในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพมหานคร บริษัทจึงกำหนดเป็นมาตรฐานที่ต้องเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติในทุกกระบวนการมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมในระหว่างการก่อสร้าง แต่รวมถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมหลังลูกค้าเข้าอยู่อาศัยแล้ว “Green Community Management” และผลกระทบที่อาจมีต่อบ้านข้างเคียงและสังคมโดยรวม
“ปัญหาเรื่องมลพิษทางอากาศและสิ่งแวดล้อม เริ่มเป็นปัญหาใกล้ตัวเข้ามาทุกขณะ หากทุกคน ทุกองค์กร และทุกหน่วยงาน หันมาร่วมกันห่วงใย และใส่ใจกับปัญหาเหล่านี้ด้วยการร่วมมือกันรับผิดชอบและแก้ปัญหาไปด้วยกัน เชื่อมั่นว่าโลกของเราจะกลับมามีชีวิตชีวามากขึ้น” โอภาส กล่าวทิ้งท้าย