‘มิชลิน ไพรมาซี่ 5’ เปิดตัวพร้อมแนวคิด “CONFIDENCE MADE TO LAST” ชูจุดเด่นให้สมรรถนะที่ดีเยี่ยม
09 Mar 2025

 

  • คุณสมบัติเด่น: ประสบการณ์ขับขี่ที่นุ่มสบายเหนือระดับ, อายุใช้งานที่ดีเยี่ยมยาวนาน, ปลอดภัยยาวนานเหนือกว่า และรองรับการใช้งานร่วมกับรถยนต์ไฟฟ้า
  • เหมาะสำหรับรถยนต์แบบดั้งเดิมและรถยนต์ไฟฟ้า พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า โดยรองรับสมรรถนะของรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การพัฒนายางรุ่นนี้สะท้อนวิสัยทัศน์ ความยั่งยืนทุกด้าน” (All Sustainable) ของมิชลินโดยไม่เพียงให้สมรรถนะเพิ่มขึ้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมลดลงถึง 6%(1)  

     

ล่าสุด ‘มิชลิน’ ผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยียางล้อระดับโลก ได้วางตลาด ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 5’ (MICHELIN Primacy 5) ยางสำหรับรถยนต์นั่งและรถครอสโอเวอร์ทุกประเภทเครื่องยนต์ ภายใต้แนวคิด “ปลอดภัย มั่นใจในสมรรถนะที่ดีเยี่ยมรอบด้าน แม้เวลาเปลี่ยน” (Confidence Made To Last)  ยางรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาให้มีคุณสมบัติเหนือกว่ายางรุ่นก่อนหน้าอย่าง ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 4’ โดยมาพร้อมนวัตกรรมล้ำหน้าที่ช่วยให้ยางมีสมรรถนะเพิ่มขึ้น แต่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง

 

นายสรพงษ์ จันทร์นฤกุล, ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจ B2C, บริษัท สยามมิชลิน จำกัด เปิดเผยว่า

ยาง มิชลิน ไพรมาซี่ 5พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับศักยภาพที่เปลี่ยนแปลงไปของยานยนต์รุ่นใหม่และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รถยนต์รุ่นใหม่...โดยเฉพาะรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า...มีน้ำหนักมากขึ้นและแรงม้าสูงขึ้น จึงต้องใช้ยางล้อที่มีสมรรถนะสูงขึ้นตามไปด้วย  โครงสร้างยางล้อจึงต้องมีประสิทธิภาพที่จะรองรับความต้องการเหล่านี้ได้  ความทนทานต่อการสึกหรอและแรงต้านทานการหมุนของยางล้อที่ดีขึ้นไม่เพียงส่งผลให้ลูกค้ามีต้นทุนในการใช้งานต่ำลง แต่ยังช่วยให้ยางมีสมรรถนะในการยึดเกาะถนนเปียกที่ดียาวนาน จึงให้ความปลอดภัยและอายุการใช้งานที่ยาวนานเหนือกว่า  สำหรับลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย จุดเด่นเหล่านี้ไม่เพียงยกระดับประสบการณ์การขับขี่ แต่ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ทำให้ มิชลิน ไพรมาซี่ 5เป็นยางที่เลือกใช้งานเพื่อการขับขี่ได้อย่างมั่นใจ

 

 


จุดเด่นสำคัญของยาง ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 5’ ได้แก่  ประสบการณ์ขับขี่ที่นุ่มสบายเหนือระดับ ด้วยดีไซน์ดอกยางแบบใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Michelin Silent Rib Gen-3 ซึ่งช่วยลดการสั่นสะเทือน จึงช่วยลดเสียงรบกวนลงและให้การขับขี่ที่นุ่มเงียบสบาย(2) สัมผัสได้ถึงความรู้สึกผ่อนคลายตลอดการเดินทาง  อายุใช้งานที่ดีเยี่ยมยาวนาน โดยมีอายุใช้งานเฉลี่ยยาวนานกว่ายางระดับพรีเมียมแบรนด์อื่นๆ ถึง 24%(3) ด้วยลายดอกยางสำหรับถนนเปียกที่ให้อายุใช้งานยาวนาน, ร่องรีดน้ำบริเวณไหล่ยาง (Lateral Groove Edges) ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และเทคโนโลยี MaxTouch ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่หน้าสัมผัสระหว่างยางล้อกับผิวถนน และกระจายแรงกดอย่างสม่ำเสมอตลอดหน้ายางขณะเร่งความเร็ว เบรก และเข้าโค้ง ส่งผลให้หน้ายางมีอายุใช้งานนานขึ้นโดยยังคงให้ความปลอดภัยขณะขับขี่ดังเดิม ผู้ขับขี่จึงเพลิดเพลินกับการเดินทางและกิจกรรมท่องเที่ยวต่างๆ ได้ยาวนานยิ่งขึ้น...ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างแท้จริง

 

ให้ความปลอดภัยบนถนนเปียกยาวนานกว่า โดยมีระยะเบรกสั้นกว่ายางระดับพรีเมียมแบรนด์อื่นๆ ถึง 8% (ยางใหม่) และ 13% (ยางใกล้หมดดอก)(4) ด้วยเนื้อยางสูตรพิเศษ Functional Elastomers 3.0 ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยี MICHELIN EverGrip และ MICHELIN EverTread ที่ช่วยให้การรีดน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงให้สมรรถนะการเบรกบนถนนเปียกที่เป็นเยี่ยม เพิ่มความอุ่นใจและปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารในทุกการเดินทาง และ  รองรับการใช้งานร่วมกับรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยสูตรเนื้อยางสมรรถนะสูงบริเวณหน้ายางที่ช่วยลดแรงต้านทานการหมุนของยางล้อลงถึง 13%(5) จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและยืดระยะใช้งานต่อรอบการชาร์จแบตเตอรี่หนึ่งครั้งสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า

 

นอกจากยาง ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 5’ จะให้สมรรถนะ ความปลอดภัย และความนุ่มเงียบสบายที่เหนือกว่าแล้ว ยังเคารพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “ความยั่งยืนทุกด้าน” (All Sustainable) ของกลุ่มมิชลิน โดยแรงต้านทานการหมุนของยางล้อ(6) มีประสิทธิภาพดีขึ้น 5% ขณะที่อายุการใช้งาน(7) ยาวนานขึ้น 18%  อีกทั้งการออกแบบโดยรวมยังช่วยให้ยางรุ่นนี้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมลดลงถึง 6%(1)

ปัจจุบัน มิชลิน ไพรมาซี่ 5มีวางจำหน่ายแล้ว ณ ร้านตัวแทนจำหน่ายยางอย่างเป็นทางการของมิชลินทั่วประเทศ โดยมีให้เลือกรวมทั้งสิ้น 46 ขนาด ตั้งแต่ขอบ 16 ถึง 20 นิ้ว  โดยยางขนาด 18 นิ้วขึ้นไป (21 รายการ) มาพร้อมแก้มยางกำมะหยี่ดีไซน์แบบเต็มวง  คลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.michelin.co.th

 

(1) ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม & อนุภาคจากการสึกของยางล้อและถนน เมื่อเทียบกับยาง มิชลิน ไพรมาซี่ 4+’  แหล่งที่มา: การทดสอบภายในองค์กร

(2) ความนุ่มเงียบและความสบาย: การทดสอบจัดทำโดย TUV Rheinland Thailand ตามคำขอของมิชลิน ณ ศูนย์ทดสอบยานยนต์และ
     ยางล้อแห่งชาติ (Automotive and Tyre Testing, Research and Innovation Center: ATTRIC) จังหวัดฉะเชิงเทรา ประเทศไทย เมื่อเดือน
     พฤศจิกายน 2567 โดยติดตั้งยางขนาด 225/50R17 กับรถยนต์ Honda Accord e:HEV Y2022  เพื่อเปรียบเทียบยาง ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 5’ (ยางใหม่)
     กับยาง ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 4’ และยางระดับพรีเมียมแบรนด์อื่น ๆ (ประสิทธิภาพเรื่องความนุ่มเงียบและความสบายเป็นผลจากเทคโนโลยี
     ลดเสียงรบกวน Michelin Silent Rib Gen-3)

(3) อายุใช้งานยาวนาน: การทดสอบจัดทำโดย DEKRA TEST CENTER ตามคำขอของมิชลิน ณ ศูนย์ทดสอบ DEKRA Test Center ประเทศฝรั่งเศส
     เมื่อเดือนกรกฎาคม 2567  โดยติดตั้งยางขนาด 205/55R16 กับรถ Golf VIII 5 ประตู ผลการทดสอบพบว่ายาง ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 5’ มีอายุใช้งานเฉลี่ย
     ยาวนานกว่ายางระดับพรีเมียมแบรนด์อื่น ๆ ถึง 24%

(4) สมรรถนะการเบรกบนถนนเปียกของยางใหม่และยางใกล้หมดดอก: การทดสอบจัดทำโดย TUV Rheinland Thailand ตามคำขอของมิชลิน
     ณ ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (Automotive and Tyre Testing, Research and Innovation Center: ATTRIC) จังหวัดฉะเชิงเทรา
     ประเทศไทย เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 โดยติดตั้งยางขนาด 225/50R17 กับรถยนต์ Honda Accord e:HEV Y2022 ที่ขับขี่ด้วยความเร็ว 0-80
     กิโลเมตร/ชั่วโมง ผลการทดสอบพบว่ายาง ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 5’ มีระยะเบรกสั้นกว่ายางระดับพรีเมียมแบรนด์อื่น ๆ ถึง 8% (ยางใหม่) และ 13%
     (ยางใกล้หมดดอก)  “ยางใกล้หมดดอก” ในที่นี้หมายถึงยางที่มีความลึกร่องดอกยางเหลือ 2.0 มิลลิเมตร ซึ่งความลึกนี้เกิดจากการทำให้สึกด้วย
     เครื่องจักร

(5) ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง: การทดสอบแรงต้านทานการหมุนของยางล้อจัดทำด้วยเครื่องจักรโดยสถาบันยานยนต์ ตามคำขอของมิชลิน
     ณ ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (Automotive and Tyre Testing, Research and Innovation Center: ATTRIC) จังหวัดฉะเชิงเทรา
     ประเทศไทย เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567  โดยใช้ยางขนาด 255/50R17  ผลทดสอบพบว่า ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 5’ มีแรงต้านทานการหมุนของยางล้อ
     ดีกว่ายางระดับพรีเมียมแบรนด์อื่น ๆ ถึง 13%

(6) ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง: การทดสอบแรงต้านทานการหมุนของยางล้อจัดทำด้วยเครื่องจักร โดย TÜV SÜD Product Service ตามคำขอของ
     มิชลิน เมื่อเดือนมิถุนายน 2567 โดยใช้ยางขนาด 205/55 R16 91V เปรียบเทียบระหว่างยาง ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 5’ (100%) กับยาง ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 4+’
     (94.7%)

(7) อายุใช้งานยาวนาน: การทดสอบจัดทำโดย DEKRA TEST CENTER ตามคำขอของมิชลิน เมื่อเดือนกรกฎาคม 2567  โดยติดตั้งยางขนาด 235/45
     R18 98W&Y กับรถ Tesla Model 3 เปรียบเทียบระหว่างยาง ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 5’ (100%) กับยาง ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 4+’ (82%)

 

 

[อ่าน 151]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“สิงห์ เอสเตท” เปิดแนวคิดเบื้องหลัง “สริน พรานนก-กาญจนา” บ้านเดี่ยวลักชูรี รองรับทุกช่วงชีวิตอย่างยั่งยืน
AIS จับมือซัมซุง เปิดจอง Z Flip7 | Z Fold7 ลดสูงสุด 26,000 บาท เฉพาะที่ AIS 5G
“กรุงไทย” ปลื้ม กองทุน KTWC-INCOME-A ยอดจองทะลุ 1,300 ล้านบาท ตอกย้ำความสำเร็จพัฒนาผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ผู้ลงทุน
เอไอเอ ประเทศไทย นำทีมพลังตัวแทนร่วมบริจาคโลหิต เนื่องในวันประกันชีวิตแห่งชาติ
ยูอาร์ซี รับประกาศนียบัตรเครื่องหมายรับรอง “คาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร” มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน
บิ๊กซี ร่วมกับ วิสาหกิจชุมชนเกษตรบ้านควาย ลงนาม MOU ส่งเสริมการจัดซื้อผลผลิตเกษตรกรภาคกลาง สู่ตลาดค้าปลีกอย่างยั่งยืน
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved