ทรู ร่วม UddC ใช้ Mobility Data ทำความเข้าใจวิถีชีวิต 4 เมืองใหญ่ในไทย
27 Mar 2025

“คนสร้างเมือง หรือ เมืองสร้างคน” ครั้งแรกในไทยที่ใช้ Mobility Data โดยทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมกับ UddC ทำความเข้าใจวิถีชีวิตผู้คน 4 เมืองใหญ่ใน 4 ภูมิภาคของไทย พร้อมชวนคิดนโยบายการใช้พื้นที่และเวลาในเมืองให้เหมาะกับชีวิตคนตามช่วงวัยและความต้องการ

 


“Dynamic Cities via Mobility Data หลากชีวิตในเมืองที่โลดแล่น” เป็นโครงการแรกของ Data Playground for Human Impacts ที่เปิดพื้นที่การทำงานของคนที่มีความสนใจร่วมกันในการใช้ Mobility Data เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกทางสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม

 

 

ทรู คอร์ปอเรชั่น นำข้อมูลการเคลื่อนที่ของประชากรผ่านการใช้งานโทรศัพท์มือถือ (Mobility Data) และข้อมูลการใช้งานแพลตฟอร์มบริการดิจิทัล ภายใต้มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมเปิดพื้นที่การทำงานร่วมกับหน่วยงานภาคการศึกษา ภาครัฐ และภาคประชาสังคม เพื่อจุดประกายความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการพัฒนาเมือง และนำไปสู่การนำเสนอนโยบายสาธารณะที่สอดรับกับพฤติกรรมของผู้คนในสังคม

ในวันนี้ ทรู เปิดโครงการความร่วมมือกับศูนย์พัฒนาและออกแบบเมือง (Urban Design and Development Center – UddC) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในโครงการ “Dynamic Cities via Mobility Data หลากชีวิตในเมืองที่โลดแล่น” โดยใช้ข้อมูล Mobility Data เพื่อทำความเข้าใจจังหวะชีวิตของผู้คนในเมือง สู่การตั้งคำถามใหม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างเมืองกับวิถีชีวิตของผู้คน อันจะนำไปสู่การออกแบบเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคน

 

 

จากการศึกษาครั้งนี้พบข้อมูลพฤติกรรมของผู้คนและเมืองที่น่าสนใจใน 3 มิติหลัก ดังนี้

1. มิติพื้นที่เมือง ข้อมูล Mobility Data ทำให้สามารถเห็นพื้นที่หลักที่ผู้คนใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างชัดเจน ได้แก่ พื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่ทำงาน และพื้นที่สำหรับกิจกรรมอื่น เช่น การพักผ่อน หรือพบปะสังสรรค์ การจำแนกพื้นที่ตามพฤติกรรมจริงในแต่ละเมือง เผยให้เห็นโครงสร้างการใช้ชีวิตของผู้คนในแต่ละภูมิภาคที่มีบริบทแตกต่างกัน ซึ่งช่วยเปิดมุมมองใหม่ในการวางผังและพัฒนาเมืองให้ตอบสนองกับการใช้ชีวิตจริงที่ซับซ้อน

2. มิติเวลา ข้อมูลสะท้อนให้เห็นความไม่เท่าเทียมกันของการใช้เวลาในแต่ละเมือง โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่ผู้คนต้องใช้เวลาเดินทางมาก ส่งผลให้เวลาสำหรับพักผ่อนหรือทำกิจกรรมนอกบ้านลดลง ข้อมูลแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างในการจัดสรรเวลา ซึ่งสามารถนำไปใช้ประเมินคุณภาพชีวิตและความคุ้มค่าของการใช้เวลาของคนในแต่ละพื้นที่

3. มิติพฤติกรรมคนเมือง เมื่อจำแนกตามช่วงวัย ข้อมูลเผยให้เห็นรูปแบบชีวิตที่แตกต่างกันในแต่ละเมือง เช่น วัยทำงานในกรุงเทพฯ มักเดินทางไกลเพื่อเข้าเมือง ขณะที่คนทำงานในเชียงใหม่หรือหาดใหญ่มักใช้ชีวิตอยู่ในละแวกบ้านมากกว่า ส่วนกลุ่มผู้สูงอายุมักใช้ชีวิตอยู่ภายในย่านที่คุ้นเคย ทั้งนี้ข้อมูลยังสะท้อนให้เห็นโอกาสในการออกแบบเมืองให้เป็นมิตรกับทุกวัย โดยเฉพาะในบริบทของสังคมสูงวัยที่กำลังขยายตัวมากขึ้น

 

 

Mobility Data สร้างความแตกต่างในการมองเมือง

ในฐานะผู้นำด้านโครงข่ายดิจิทัลและเทคโนโลยีของไทย ทรู คอร์ปอเรชั่น มองเห็นบทบาทของข้อมูลและเทคโนโลยีที่ก้าวไกลในการสร้างประโยชน์ให้สังคมได้มากกว่าการสื่อสาร  Mobility Data คือเครื่องมือที่ทรงพลังในการทำความเข้าใจเมืองยุคใหม่ เพราะสะท้อนพฤติกรรมของผู้คนแบบเรียลไทม์ เห็นการใช้ชีวิตในแต่ละพื้นที่และช่วงเวลาได้อย่างแม่นยำและครอบคลุม โครงการ ‘Dynamic Cities via Mobility Data หลากชีวิตในเมืองที่โลดแล่น’ คืออีกก้าวสำคัญของการนำศักยภาพเหล่านี้มาเชื่อมโยงกับภาคการพัฒนาเมืองอย่างแท้จริง

 

 

จักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า
“ทรูเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีและโครงข่ายที่ทันสมัย ไม่ควรหยุดอยู่แค่การสื่อสาร แต่ต้องสามารถสร้างประโยชน์ให้กับสังคมในภาพรวมได้ด้วย โครงการ ‘Dynamic Cities via Mobility Data หลากชีวิตในเมืองที่โลดแล่น’ สะท้อนถึงพลังของ Mobility Data ที่ช่วยให้เข้าใจวิธีที่ผู้คนใช้ชีวิตในเมือง และนี่คือจุดเริ่มต้นของการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเป็นเครื่องมือในการร่วมออกแบบเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคน เราพร้อมเป็นส่วนหนึ่งของการเชื่อมต่อเทคโนโลยีเข้ากับชีวิตเมือง และจะเดินหน้าต่อยอดความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนเมืองไทยสู่อนาคตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน”

 

 

ข้อมูลเชิงลึกของเมืองที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายสาธารณะ

อดิศักดิ์ กันทะเมืองลี้ รองผู้อำนวยการศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UddC) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมวิเคราะห์ข้อมูลโครงการนี้ กล่าวว่า “Mobility Data ช่วยให้เข้าใจเมืองในแบบที่ข้อมูลแบบดั้งเดิมไม่อาจระบุได้ โดยเฉพาะการสะท้อนพฤติกรรมของผู้คนแบบเรียลไทม์ พร้อมยกตัวอย่างข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากการศึกษาในครั้งนี้ ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดสู่การออกแบบเมืองที่เป็นมิตรสำหรับทุกคน และผลักดันให้เป็นนโยบายสาธารณะที่ตรงจุดมากขึ้น

“ข้อมูลจากการศึกษาครั้งนี้ทำให้เรามองเห็นภาพรวมการใช้ชีวิตของผู้คนในเมืองได้อย่างละเอียด เช่น พบว่าผู้คนในกรุงเทพมหานครมีภาระเวลาในการเดินทางมากกว่าจังหวัดอื่นๆ อย่างชัดเจน ส่งผลให้ช่วงเวลาหลังเลิกงานที่ควรเป็นเวลาส่วนตัวและพักผ่อนกลับถูกลดทอนไป ขณะที่ประชาชนในเชียงใหม่และขอนแก่นสามารถใช้ชีวิตภายในรัศมีใกล้บ้านได้มากกว่า แสดงถึงความใกล้ชิดระหว่างที่อยู่อาศัย การทำงาน และพื้นที่ใช้ชีวิต

“ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้สูงอายุยังใช้ชีวิตในย่านละแวกบ้านเป็นหลัก และแทบไม่ปรากฏในพื้นที่สาธารณะที่ไกลออกไป ซึ่งสะท้อนถึงข้อจำกัดเชิงโครงสร้างของเมืองที่ยังไม่เอื้อต่อการเข้าถึงและความปลอดภัยอย่างแท้จริง ในขณะที่ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์แล้ว หากรูปแบบการใช้ชีวิตและการเดินทางของกลุ่มวัยเกษียณอายุดำเนินต่อไปเช่นนี้ จะส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจ สังคม สุขภาวะอย่างไร นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงบทบาทของพื้นที่กลาง (Third Place) ที่ผู้คนใช้เพื่อสังสรรค์ พบปะ ทำกิจกรรม หรือพักจากชีวิตประจำวัน ซึ่งในบางเมืองยังมีจำนวนไม่เพียงพอ หรือมีเวลาการให้บริการที่ไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมจริง

“ข้อมูลเชิงพฤติกรรมเหล่านี้สามารถต่อยอดเป็นแนวทางในการกำหนดนโยบายสาธารณะที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการขยายเวลาเปิดสวนสาธารณะ การจัดระบบขนส่งสาธารณะในช่วงเวลาที่มีการใช้งานจริง หรือการวางแผนพื้นที่รองรับผู้สูงอายุในย่านที่มีการอยู่อาศัยหนาแน่น ไม่ใช่เพียงบนแผนที่หรือแนวคิดเชิงผังเมืองเท่านั้น เมืองที่ดีจึงไม่ควรออกแบบเพียงแค่พื้นที่ แต่ต้องออกแบบให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้คนด้วย” อดิศักดิ์กล่าว

[อ่าน 1,156]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทีทีบี ผนึก Databricks ต่อยอดความสำเร็จ ttb touch ด้วย Big Data และ AI
LINE สานต่อความร่วมมือ DGA เสริมความรู้บุคลากรใช้ LINE OA และ AI ผ่าน LINE Bot MCP Server
ชาญอิสสระ รุก 3 โปรเจ็กต์ระดับอัลตร้าลักชัวรี่ ทั้งกรุงเทพกรีฑา–ภูเก็ต มูลค่ากว่า 12,000 ลบ.
ฟูจิฟิล์ม เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่บนแอปสมาร์ตโฟน instax mini Link for Nintendo Switch
เดอะมอลล์ กรุ๊ป ร่วมงาน “พาณิชย์ลดราคา เทศกาลกินเจ 2568” นำเสนอเมนูเจต้นตำรับและวัตถุดิบคุณภาพครบครัน
SYNNEX จับมือ METRO ผนึกกำลัง 'Together Forward' สร้างอนาคตธุรกิจดิจิทัลในงาน THE FUTURE CONNECT
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved