ไฮเนเก้น ”พลิกมุมใหม่” เจาะกลุ่มมิลเลนเนียล
22 Feb 2019

ไฮเนเก้น แบรนด์เครื่องดื่มชั้นนำระดับโลกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดเบียร์พรีเมียมเดินเกมการตลาดเผยแนวคิดและความเชื่อใหม่ของแบรนด์ (Brand Belief) เกี่ยวกับ “การพลิกมุมใหม่ หรือ Fresh Perspective” ที่สัมพันธ์กับมุมมองของคนรุ่นใหม่ในการใช้ชีวิตของเขาในสังคมปัจจุบัน หวังเจาะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคอนเนคกับชาวมิลเลนเนียลให้มากขึ้น ผ่านกลยุทธ์การสื่อสารในทุกแคมเปญการตลาดในปี 2562

โดยจะปล่อยกิจกรรมทางการตลาดสร้างแบรนด์ทัชพอยต์ตลอดปี รวมทั้งดีไซน์ของแพคเกจใหม่ที่น่าดึงดูดและโดดเด่นมากยิ่งขึ้น และการสื่อสารออนไลน์แบบ always-on ไปจนถึงประสบการณ์ทางด้านดนตรีหรืออีเวนต์ที่เหนือระดับตามแบบฉบับของไฮเนเก้น หวังสร้างการรับรู้และจดจำในตราสินค้า รวมไปถึงการรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดเบียร์พรีเมียมกับกลุ่มคนมิลเลนเนียล ซึ่งตั้งเป้าการเติบโตในปี 2562 ที่ 9%

อีลิน โลห์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดกลุ่มบริษัท ทีเอพี เผยว่า “สำหรับไฮเนเก้น เราเชื่อว่ามุมมองการใช้ชีวิตเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในยุคนี้ เพราะเมื่อคุณเปิดแนวคิดของคุณ พลิกมามองในมุมใหม่ที่เป็นบวก คุณก็จะเห็นมุมที่แตกต่างและสามารถสนุกกับชีวิตได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน

โดยแนวคิดและความเชื่อใหม่ของไฮเนเก้นจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและความรู้สึกที่ดีจากการเห็นมุมมองใหม่ๆ ที่เข้าถึงทุกคนได้ เป็นการเปิดมุมมองและความเชื่อเดิมที่ทุกคนอาจจะรู้ดีอยู่แล้ว มาถ่ายทอด สื่อสาร พร้อมตีความในมุมมองใหม่เพื่อสะท้อนแนวคิดในแบบฉบับของแบรนด์ไฮเนเก้น ที่จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจและใช้ชีวิตในปัจจุบันได้อย่างสนุกและมีความสุขมากขึ้น”

ปัจจุบันนี้ คนยุคมิลเลนเนียล (อายุระหว่าง 23-38 ปี) เป็นกลุ่มคนที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม โดยพวกเขามีความรู้สึกว่าต้องทนกับแรงกดดัน ทั้งในการใช้ชีวิตและการทำงานที่ค่อนข้างสูง พวกเขารู้สึกถึงความเครียดที่ได้รับจากปัจจัยต่างๆ

และด้วยเหตุนี้เองแบรนด์ไฮเนเก้นจึงได้เผยแนวคิดของแบรนด์กับความเชื่อใหม่ที่จะเจาะเข้าถึงกลุ่มคนผู้บริโภคยุคมิลเลนเนียลให้ได้เข้าใจและตอบโจทย์กับพวกเขา โดยไฮเนเก้นเลือกหยิบยกมุมมองที่จะสื่อสารออกไปยังกลุ่มคนผู้บริโภคยุคมิลเลนเนียล ด้วยประเด็นในหลากหลายแง่มุมซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับพวกเขา อาทิ การเดินทางในชีวิตประจำวัน, การทำงาน, การสังสรรค์ในวาระต่างๆ ซึ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสามัญที่เกิดขึ้นในชีวิตรอบๆ ตัวแต่ละวันของผู้คนในยุคนี้ โดยสามารถถ่ายทอดมุมมองและพลิกให้กลายเป็นความสนุกสนานขึ้นมาได้

ประเด็นสื่อสารหลักเกี่ยวกับแนวคิดและความเชื่อใหม่ของแบรนด์นี้ ถูกตีโจทย์ออกมาผ่านกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์แพคเกจใหม่ที่มีความโดดเด่น สะดุดตามากขึ้น หรือแม้กระทั่งกิจกรรมออนไลน์ใน Owned media แบบ always-on ที่ยังคงตอกย้ำการสื่อสารเพื่อสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ในคอนเทนต์ต่างๆ ทางออนไลน์ที่เกี่ยวกับการพลิกความคิดให้มองในด้านบวก

โดยตั้งเป้ายอด Engagement กลุ่มเป้าหมายให้ขยับขึ้น 10% จากปีก่อน รวมไปถึงงานเทศกาลดนตรีหรือการสนับสนุนอีเวนต์ต่างๆ ที่จะยังคงมอบประสบการณ์เหนือระดับให้กับกลุ่มผู้บริโภคของแบรนด์อย่างเช่นเคย

สำหรับมิวสิคมาร์เก็ตติ้ง ในปี 2562 ไฮเนเก้นยังทำหน้าที่เป็น Music Marketing Expertise ที่มีความเข้าใจในองค์ประกอบทางดนตรีที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงเทรนด์ของตลาด และความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริงโดยยังคงสานต่อความเป็นพรีเมียมแบรนด์ด้วยจุดแข็งที่มีอย่าง Global Standard in Music Platform พร้อมเครือข่ายระดับโลกในการเป็นผู้นำสนับสนุนงานระดับเวิลด์คลาสต่างๆ พร้อมศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับสากลที่สอดคล้องกับแบรนด์ดีเอ็นเอ

โดยในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ ไฮเนเก้นยังคงเป็นผู้สนับสนุนหลักของงานเทศกาลดนตรียักษ์ใหญ่ระดับประเทศอย่าง S2O ที่จะนำเอา “มุมมองใหม่” (Fresh Perspective) เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสารการตลาด ซึ่งจะต่อยอดจากกลยุทธ์มิวสิคมาร์เก็ตติ้งในปีก่อนอย่าง “Heineken® Star Hive” เป็นการตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านมิวสิค อีเวนต์และการสนับสนุนศิลปินนานาชาติในงานดนตรีสำคัญๆ ที่มีบุคลิกสอดคล้องกับแนวคิดและความเชื่อใหม่ของแบรนด์ไฮเนเก้น

ในปีที่ผ่านมา Consumer Engagement ของแบรนด์ไฮเนเก้นจัดเกิดขึ้นทั้งในรูปแบบกิจกรรมออนไลน์และ On-Ground Experience จากกิจกรรมมิวสิคมาร์เก็ตติ้งสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายเฉลี่ยต่อแคมเปญได้มากถึง 3-4 ล้านคนในแง่การรับรู้กิจกรรมทางออนไลน์ (Inclusive growth) ทำให้ไฮเนเก้นเข้าถึงคนได้กว่า 13 ล้านคนในภาพรวมทุกกิจกรรมที่จัดขึ้นตลอดปี

ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มคนมิลเลนเนียลกว่า 90% ส่งผลให้ Brand Equity Score ของ Heineken® มีคะแนน 7.7 (จากคะแนนเต็ม 10) หมายถึงการรับรู้ของผู้บริโภคที่มีต่อคุณภาพแบรนด์ และตราสินค้าไฮเนเก้นอยู่ในเกณฑ์ดี และยังคงรักษาความเป็น Premium Brand Use Most Often ได้ด้วยความน่าดึงดูดของแพคเกจจิ้งและด้านคุณภาพ

สำหรับแนวคิดและความเชื่อใหม่ของแบรนด์ที่จะได้รับการถ่ายทอดผ่านกลยุทธ์การสื่อสารในปี 2562 นี้ ไฮเนเก้นคาดว่าจะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตามเป้าหมายเดิมที่ 17 ล้านคน และคาดว่าการส่งผลให้คะแนนภาพรวมของแบรนด์ดีขึ้นจากเดิม รวมไปถึงอัตราการเติบโตเป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้

ปัจจุบันตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทเบียร์มีมูลค่า 139,000 ล้านบาท (ณ สิ้นปี 2561) แบ่งเป็นเซกเมนต์เมนสตรีม 130,600 ล้านบาท เซกเมนต์พรีเมียม 6,400 ล้านบาท ที่เหลือคือเซฟวิ่ง รวมถึงเบียร์อิมพอร์ต โดยแบรนด์ไฮเนเก้นยังคงเป็นผู้นำตลาดในเซกเมนต์พรีเมียมด้วยส่วนแบ่งตลาด 95.1% และ 4.2% ของตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยรวม

“เราเชื่อมั่นว่า แนวคิดและความเชื่อใหม่ของแบรนด์ไฮเนเก้นที่จะถ่ายทอดผ่านแคมเปญการตลาดต่างๆ จะเข้าถึงและโดนใจกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น จะช่วยขยายฐานแบรนด์เลิฟในกลุ่มมิลเลนเนียล เสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ เพิ่มความนิยมของแบรนด์ไฮเนเก้น รวมทั้งกระตุ้นให้ทั้งตลาดเบียร์มีสีสันได้ในปี 2562 นี้” ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดกลุ่มบริษัท ทีเอพี กล่าวสรุป


อีลิน โลห์

ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ จำกัด (ทีเอพี) ในเดือนตุลาคม 2561 จากเดิมที่เคยดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาดให้ไฮเนเก้น และบียอนด์ เบียร์ ให้กับไฮเนเก้น มาเลเซีย เบอร์ฮาด โดยสร้างผลงานไว้อย่างมากมาย

ปัจจุบัน อีลินได้มาเป็นหัวเรือผู้นำทีมการตลาดและเทรดมาร์เก็ตติ้งภายใต้สังกัดการพาณิชย์ของกลุ่มบริษัททีเอพี โดยเธอจะมาเสริมทัพความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพของการบริหารนำทีมการตลาดของกลุ่มบริษัททีเอพี ให้เติบโตไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ในการเป็นผู้นำของกลุ่มเบียร์พรีเมียมเซ็กเมนต์ ต่อเนื่องไปจนถึงการเติบโตของแบรนด์เมนสตรีมในตลาดประเทศไทยได้อย่างแข็งแกร่ง ด้วยแบรนด์ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายในพอร์ทของกลุ่มบริษัททีเอพี

อีลิน เข้ามาร่วมงานกับไฮเนเก้น มาเลเซีย เบอร์ฮาด ในเดือนมกราคม 2554 โดยเธอได้รวมทีมงานคุณภาพเข้ามา และประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อนไฮเนเก้น มาเลเซีย สามารถขยับจากตลาดที่ “กำลังพัฒนา” ให้กลายเป็น “ดาวเด่น” ได้ กลายเป็นตัวอย่างแนวปฏิบัติที่ดีให้แก่ตลาดต่างๆ ในภูมิภาค กรุยทางการเปิดตัวขวด K2 ในเอเชีย และยกระดับแบรนด์ด้วยมิวสิกมาร์เก็ตติ้งอย่างต่อเนื่อง

นอกจาก “ไฮเนเก้น” จะมีการเติบโตทางธุรกิจที่แข็งแกร่งแล้ว แบรนด์ยังได้รับการยอมรับด้วยการคว้ารางวัลสูงสุดระดับโกลด์จาก “Putra Brand Awards” ในกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถึง 4 ปีซ้อน

ทางด้านการบริหารแบรนด์ “บียอนด์ เบียร์” อีลินประสบความสำเร็จในการนำกลุ่มผลิตภัณฑ์ไซเดอร์เข้าไปในตลาดมาเลเซียได้สำเร็จจากการเปิดตัวแบรนด์ใหม่อย่าง “แอปเปิลฟ็อกซ์” และสามารถสร้างฐานการผลิต สตรองโบว์ ในประเทศมาเลเซียได้ ทำให้ได้เป็นผู้นำของกลุ่มตลาดผลิตภัณฑ์ไซเดอร์ ซึ่งมีส่วนแบ่ง 52% ณ สิ้นปี 2560

[อ่าน 1,844]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“สตีเบล เอลทรอน” ชวนคนไทยเพิ่มความสดชื่นรับซัมเมอร์ ยกขบวนเครื่องกรองน้ำดื่ม 5 รุ่นท็อป ชูเทคโนโลยีล้ำสมัยคุณภาพระดับเยอรมนี
ทีเอ็มบีธนชาต รายงานกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 1 ปี 2567 ที่ 5,334 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
เซ็นทรัลพัฒนา ส่งท้ายสงกรานต์ ‘FWD Music Live Fest 3’ ที่เซ็นทรัลเวิลด์ และวันไหลสงกรานต์เซ็นทรัลทั่วไทย
โครงการเพื่อสตรีของคาร์เทียร์ ประกาศรายชื่อผู้เข้ารอบ 33 คน ประจำปี 2024
TikTok จัด TikTok LIVE Creator Network Conference ปักหมุดดัน TikTok Live ขยายศักยภาพเศรษฐกิจดิจิทัลไทยและระดับภูมิภาค
แอ็กซ์ จัดงานเปิดตัวใหม่! AXE Fine Fragrance Collection เสิร์ฟความหอมพรีเมียมเกินขั้น ติดทนนานเกินคาด
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved