“ครัวคุณต๋อย EXPO” ต่อยอดร้านอาหารไทยสู่ครัวโลก
25 Feb 2019

เข้าสู่ขวบปีที่ 2 แล้วที่ “ตูน พัทธยศ ลิมปพัทธ์” บุตรชายคนโตของ “ต๋อย ไตรภพ” พิธีกรชื่อดังมากฝีมือ ผันสภาพจากหนุ่มแบงก์มาช่วยงานคุณพ่ออย่างเต็มตัว พร้อมนั่งเก้าอี้ในตำแหน่ง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บอร์น โปรเจค จำกัด ในกลุ่มบริษัท บอร์น แอนด์ แอสโซซิเอทด์ จำกัด ผู้ผลิตและดำเนินรายการโทรทัศน์ประเภทแนะนำอาหารประเภทปกิณกะบันเทิง “ครัวคุณต๋อย”

งานแรกที่ “ตูน พัทธยศ ลิมปพัทธ์” รับผิดชอบอย่างเต็มตัวคือ การจัดงานเทศกาลอาหาร “ครัวคุณต๋อย รักษ์ขนมไทย” เมื่อช่วงปลายปี 2560 ตามมาด้วย “ครัวคุณต๋อย EXPO Season 3” ในช่วงต้นปี 2561 การจัดงาน “ครัวคุณต๋อย EXPO Season 4” ซึ่งจัดขึ้นไปหมาดๆ ระหว่างวันที่ 21-24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ อิมแพ็ค ฟอรัม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี จึงถือเป็นสนามวัดฝีมือครั้งสำคัญของเขาอีกคำรบหนึ่ง

จากประสบการณ์การจัดงานเทศกาลอาหารที่ผ่านมา ทำให้เขาเริ่มมีแนวคิดสร้างสรรค์บรรยากาศงานให้มีความแปลกใหม่มากขึ้น นอกเหนือจากการออกบูธของร้านอาหารชื่อดังกว่า 200 ร้านแล้ว คือการจัดพื้นที่ Live Exhibition เพื่อนำเสนอเรื่องราวตำนานอาหารไทยจากสูตรต้นตำรับชาววังที่ประณีตและพิถีพิถัน ควบคู่ไปกับการบรรเลงเพลงไทยเดิม หรือการขับเสภาบทพระราชนิพนธ์

ทำให้ผู้ร่วมงานได้ซึมซับเนื้อหาในรูปแบบการนำเสนอที่แปลกใหม่เกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นมาของอาหารไทยที่ตกทอดและส่งต่อภูมิปัญญาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงแนวทางสานต่อสู่อนาคต ตลอดจนเมนูหายากและวัตถุดิบสุดพิเศษจากทั่วทุกมุมโลก นอกจากนี้ยังมี เมนูอาหารนานาชาติ ที่คัดสรรมานำเสนอในลักษณะร้านเดียวแบบเดียวเมนูเดียวไม่ซ้ำใครมากกว่า 20 ร้าน

นอกจากนั้น ยังมีการนำเสนอ เมนูอาหารฟิวชั่น จากการทำเมนูอาหารไทยดั้งเดิมด้วยมือสู่การพัฒนาเป็นเมนูฟิวชั่น โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์พัฒนาให้เป็นเมนูอาหารตะวันออกรสจัดจ้านผสมผสานเข้ากับความกลมกล่อมของอาหารสไตล์ตะวันตก ขณะเดียวกันยังได้เชิญนักวางแผนการตลาดชื่อดังมาร่วมให้คำแนะนำเคล็ดลับการทำอาหารให้ลูกค้าติดใจสำหรับผู้สนใจนำไปต่อยอดธุรกิจในลักษณะ “ทำเองก็ง่าย ทำขายก็รวย”

“ตูน พัทธยศ ลิมปพัทธ์” ขยายความถึงแนวคิดการจัดงานในลักษณะดังกล่าวว่า การจัดงานเทศกาลในลักษณะเก่าๆ เพียงมีการออกบูธร้านอาหารให้ผู้มาร่วมงานได้ชม ชิม และช็อป เริ่มมีความน่าสนใจน้อยลง จึงต้องพยายามนำเสนอลูกเล่นใหม่ๆ ให้ผู้มาร่วมงานมีความประทับใจมากขึ้น ซึ่งความพิเศษและแตกต่างจริงๆ ของงาน “ครัวคุณต๋อย EXPO” คือมีร้านอาหารจำนวนมากจากทั่วประเทศที่ไม่เคยไปออกบูธตามงานอื่นมาก่อนแต่ยินดีที่จะมาร่วมงานกับเรา

ขณะที่ร้านอาหารทั่วไปหากไม่เคยมาออกรายการโทรทัศน์ “ครัวคุณต๋อย” หรือมีคุณภาพไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดไว้ก็ไม่สามารถที่จะมาร่วมงานกับเราได้ จึงรับประกันได้ว่าผู้มาร่วมงานได้จะพบกับเมนูอาหารสุดพิเศษที่มีทั้งความอร่อยและคุณภาพ โดยเฉพาะอาหารไทยแปลกๆ ที่มีกรรมวิธีและขั้นตอนในการทำอย่างพิถีพิถันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำพริก แกง หรือขนมหวานโบราณ

เขายังบอกด้วยว่า ความมุ่งหวังของการจัดงาน “ครัวคุณต๋อย EXPO” ในอนาคตคือต้องการมีส่วนร่วมในการยกระดับอาหารไทยสู่ครัวโลก พร้อมกับการนำไปจัดในต่างประเทศ แต่เบื้องต้นจำเป็นต้องมีพัฒนารูปแบบการจัดงานที่สามารถดึงดูดความสนใจจากชาวต่างชาติให้มาร่วมชมเพิ่มมากขึ้น พร้อมกันนั้นยังต้องสร้างการรับรู้ขยายออกไปยังต่างประเทศว่า อาหารไทยไม่ได้มีเพียงต้มยำกุ้ง ผัดไทย แกงมัสมั่น ข้าวผัดกะเพรา หรือข้าวไข่เจียวเท่านั้น แต่ยังมีอาหารไทยอื่นๆ อีกมากมายที่ชาวต่างชาติอาจไม่เคยรับรู้ หรือเคยชิมมาก่อน

“ในขณะที่รัฐบาลมีนโยบายครัวไทยสู่ครัวโลก แต่ในช่วงที่ผ่านมากลับให้ความสำคัญกับอาหารไทยไม่มากเท่าที่ควร หรืออาจจะพูดได้ว่า อาหารไทยเป็นเหมือนของตาย จะกินก็ต่อเมื่อไม่รู้จะกินอะไร แต่ถ้าเป็นโอกาสพิเศษกลับเลือกที่จะกินอาหารอิตาเลียน ฝรั่งเศส หรือญี่ปุ่นแทน ทั้งๆ ที่อาหารไทยบางชนิดกว่าจะทำเสร็จต้องใช้เวลาและความประณีตสูง ทำให้อาหารไทยบางประเภทมีราคาสูง

ผลที่ตามมาคือไม่มีคนซื้อและทำให้อาหารไทยบางอย่างแทบจะสูญหายไปแล้ว ทั้งๆ ที่ในมุมมองของผมเห็นว่า ของดีของถูกไม่มีในโลก ในเมื่อการทำอาหารไทยบางอย่างมีขั้นตอนที่ซับซ้อนก็ถือเป็นเรื่องชอบธรรมที่ต้องมีราคาสูง เพราะเท่ากับเป็นการให้เกียรติผู้ทำด้วย” 

เขาฉายภาพต่ออีกว่า ในทำนองกลับกันเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการร้านอาหารประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ญี่ปุ่น ร้านอาหารบางแห่งไม่เคยมีการรีวิว ไม่เคยลดราคา ไม่เคยขายออนไลน์ แต่ยังคงมีชาวต่างชาติเดินทางไปชิมอย่างหนาแน่น ทั้งๆ ที่มีราคาสูง เช่น ซูชิคำละ 500 บาท เป็นต้น นั่นเป็นเพราะเขาเลือกใช้วัตถุดิบและรักษาคุณภาพจากรุ่นสู่รุ่นมาอย่างยาวนานนับ 30-40 ปี ผู้ประกอบการไทยจึงควรยึดเป็นแนวทางในการรักษาคุณค่าและเพิ่มมูลค่าให้อาหารไทยเป็นที่ยอมรับทั้งของคนไทยและชาวต่างชาติให้มากขึ้น

การจัดงาน “ครัวคุณต๋อย EXPO” ตามแนวทางของ “ตูน พัทธยศ ลิมปพัทธ์” จึงมุ่งเน้นพัฒนาผู้ประกอบการร้านอาหารเป็นสำคัญ โดยมีทีมงานคอยแนะนำการจัดบูธและหน้าร้านพร้อมให้ความรู้ด้านการตลาดเพิ่มเติมเพื่อสร้างความสนใจให้มาชมงานได้หยุดแวะชม ชิม และช็อป เนื่องจากที่ผ่านมามีข้อสังเกตว่าร้านอาหารบางร้านมีรายการอาหารที่อร่อยและขึ้นชื่อมากมาย แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรในการสร้างการรับรู้ในวงกว้างสู่ผู้บริโภค เพราะการจัดดิสเพลย์หน้าร้านขาดจุดเด่นที่น่าสนใจ เช่น จัดวางอาหารมาก หรือน้อยเกินไป หรือตั้งใจกับการขายหน้าร้านและคาดหวังกับยอดขายในช่วงเวลาการจัดงานเท่านั้น 

“เราพยายามทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการที่มาร่วมงานว่า การมาออกบูธในงานไม่ควรคาดหวังเพียงยอดขายเฉพาะช่วงเวลาการจัดงานเท่านั้น เพราะจุดสำคัญคือโอกาสในการสร้างการรับรู้ให้ผู้มาร่วมงานกว่า 4-5 แสนคนได้รู้จักแบรนด์และสินค้าของเรา นั่นหมายถึงมูลค่าที่จะเกิดขึ้นหลังจากจบงานที่จะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนั้น ยังควรใช้เวลาเดินชมการออกบูธของผู้ประกอบการรายอื่นๆ เพื่อนำจุดเด่นและจุดด้อยมาปรับปรุงพัฒนาแบรนด์และสินค้าของเราเพิ่มขึ้น เพราะการจัดงานครั้งนี้ถือเป็นการรวบรวมร้านอาหารกว่า 200 แห่ง พร้อมเมนูอาหาร 500-600 รายการมารวมอยู่ในพื้นที่เดียวกันซึ่งถือเป็นโอกาสพิเศษที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้งนัก”

เขาบอกด้วยว่า เสน่ห์อีกหนึ่งอย่างของการจัดงาน “ครัวคุณต๋อย EXPO” คือเจ้าของร้านจะมาร่วมออกร้านและเป็นผู้ขายเอง ทั้งยังจะมีความช่วยเหลือเกื้อกูลระหว่างกันในเรื่องต่างๆ แม้แต่การขาย ทำให้บรรยากาศของงานเปี่ยมไปด้วยไมตรีและมิตรภาพ

ขณะที่ผู้มาร่วมงานส่วนใหญ่มีอายุ 35 ปีขึ้นไปและมีการซื้อต่อครั้งประมาณ 1,000 บาท แต่ในช่วงหลังเริ่มมีกลุ่มคนรุ่นใหม่ทั้งนักเรียน นักศึกษา และวัยทำงานตอนต้นเริ่มมาร่วมชมงานมากขึ้นแต่ยังไม่มีการตัดสินใจซื้อในทันที จึงเป็น “โจทย์ใหญ่” ที่ผู้ประกอบการและตัวเขาจำเป็นต้องหาวิธีและช่องทางในการดึงกำลังซื้อจากผู้ร่วมงานกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น

“เราเข้าใจดีว่าในแง่ของผู้มาร่วมงานที่มีการรวบรวมร้านอาหารชื่อดังทั่วประเทศกว่า 200 ร้านมารวมอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ไม่มีทางที่จะซื้ออาหารกลับบ้านได้มากกว่า 20 ร้าน แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้คือมอบความสุขและความประทับใจให้ผู้มาร่วมงานได้รับรู้ถึงความหลากหลายและอิ่มเอมในคุณค่าของอาหารไทย”

ก้าวต่อไปของ “ครัวคุณต๋อย EXPO” จึงน่าติดตามว่า “ตูน พัทธยศ ลิมปพัทธ์” จะรังสรรค์รูปแบบการจัดงานอย่างไรเพื่อให้ “อาหารไทยสู่ครัวโลก” และจะเป็นไปตามแนวทาง “ฝันที่เป็นจริง” ได้หรือไม่ ?

[อ่าน 1,771]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฉลองเทศกาลอีสเตอร์ ที่โรงแรมอนันตรา กรุงเทพฯ
ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ จับมือ 2 พันธมิตรรถเช่ารายใหญ่ มุ่งสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวเหนือระดับ
“คาเฟ่ ชิลลี่” ชวนเปิดประสบการณ์ อีสาน โซล ฟู้ด สาขาล่าสุด ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
Bacardi Thailand ร่วมพันธมิตร UOB LIVE ศูนย์รวมความบันเทิงล้ำสมัย ยกระดับประสบการณ์ครบวงจร
ICONSIAM ชวนปักหมุดเช็คลิสต์ร้านคาเฟ่ในเดือนแห่งความรัก
คิง เพาเวอร์ ชวนลิ้มชิมรสอาหารมงคลการันตี Michelin Guide
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved