ออริจิ้น โกยยอดขาย Q1/68 กว่า 8,027 ล้านบาท หนุน Backlog 45,389 ล้านบาท Q2/68 จ่อโอนเพิ่มอีก 2 โครงการ
08 Apr 2025

 

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ กวาดยอดขายไตรมาส 1/2568 กว่า 8,027 ล้านบาท ไตรมาส 2/2568 จ่อโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มอีก 2 โครงการ ตุน Backlog แล้วกว่า 1,700 ล้านบาท หนุน Backlog 45,389 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ 5 ปี

 

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า ในไตรมาส 1/2568 บริษัทฯ สามารถทำยอดขายได้กว่า 8,027 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียม ประมาณ 85% และยอดขายจากโครงการบ้านจัดสรร ประมาณ 15%


พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI 

 

จากยอดขายดังกล่าว แบ่งเป็นยอดขายจากกลุ่มโครงการพร้อมอยู่ (Ready to move) ประมาณ 56% และยอดขายจากกลุ่มโครงการที่เปิดขายใหม่ (New Launch) และอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง (Ongoing) รวมกันประมาณ 44% โดยมีโครงการเปิดใหม่ 1 โครงการ คือ โครงการ SO ORIGIN SUKHUMVIT 105  คอนโด LOW-RISE 8 ชั้น จำนวน 913 ยูนิต มูลค่ารวม 2,600 ล้านบาท ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ ในรอบ VVIP และ Online Booking

นอกจากนั้นยังเป็นการทุบประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ภายในงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 47 ที่จัดขึ้น ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 20 - 23 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยสามารถทำยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,200 ล้านบาท สะท้อนถึงความต้องการที่อยู่อาศัยและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ออริจิ้น

ขณะเดียวกันก็ได้ แรงสนับสนุนจากประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย การผ่อนปรนมาตรการเกณฑ์ LTV (Loan to value ratio ) ที่กำหนดให้เพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกันเป็น 100% สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (บ้าน) ทั้งกรณี บ้านราคาต่ำ 10 ล้านบาท สัญญาที่ 2 และบ้านราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป สัญญาที่ 1 การผ่อนคลายนี้ให้เป็นการชั่วคราวสำหรับสัญญาเงินกู้ที่ทำสัญญาตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ถึง วันที่ 30 มิถุนายน 2569 ซึ่งเป็นแรงกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ

 

ยอดขายดังกล่าวช่วยหนุนยอด Backlog 45,389 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ 5 ปี โดยไตรมาส 2/2568 นี้ มีโครงการที่จะเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ จำนวน 2 โครงการ ประกอบด้วย Origin Plug & Play Srinakarin (ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ ศรีนครินทร์) และ โครงการ The Hampton Suites Rayong( เดอะ แฮมป์ตัน สวีท ระยอง) โดยมี Backlog แล้วกว่า 1,785 ล้านบาท

 

สำหรับธุรกิจโรงแรม  บริษัทมีธุรกิจโรงแรมที่เปิดดำเนินการแล้ว 9 แห่ง และ อีก 3 แห่งจะเปิดใหม่ในปี 2568 นี้ โดย 2 แห่งเป็นการ Re-opening โรงแรมที่ acquire มาเมื่อปี 2566 ในแหล่งท่องเที่ยวหลักอย่างภูเก็ตและเชียงใหม่ และอีก 1 แห่งในกรุงเทพฯ

ส่วนธุรกิจคลังสินค้า (Warehouse) ปัจจุบันมี 9 แห่งในทำเลยุทธ์ศาสตร์สำคัญ ได้แก่ ทำเลรังสิต, บางนา กม.22, บางนา กม.19, บางนา กม.23, แหลมฉบัง, พานทอง และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) รวมพื้นที่กว่า 400,000 ตารางเมตร มีอัตราการเช่าสูงถึง 97.6% ตั้งเป้าขยายเพิ่มเป็น 1 ล้านตารางเมตร ในอีก 5 ปี ข้างหน้า

 

ทั้งนี้ การดำเนินธุรกิจของ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จะเดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรภายใต้กลยุทธ์ “Resilience Leads To Sustainable Growth” สร้างความยืดหยุ่นในการบริหารองค์กร พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลง สู่การเป็นผู้นำและการเติบโตอย่างยั่งยืนบนโอกาสใหม่ เพื่อสร้างความสมดุลในระยะยาวอย่างมีเสถียรภาพทั้งด้านธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

 

“อย่างไรก็ตามบริษัทคาดว่าความกังวลใจจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวจะเป็นโดยระยะสั้น เนื่องจากความเข้าใจเกี่ยวกับเหตุแผ่นดินไหวเป็นเรื่องใหม่สำหรับประเทศไทย และความเสียหายที่เกิดขึ้น ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำมากในส่วนของความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน เนื่องจาก ตามกฎหมายควบคุมอาคารของกรุงเทพมหานคร ได้มีการออกข้อกำหนดเกี่ยวกับการเสริมโครงสร้างเพื่อรับแรงแผ่นดินไหวมาตั้งแต่ปี 2550 แล้วนั้น

ซึ่งอาคารสามารถขยับตัวในช่วงการเกิดแผ่นดินไหวได้อย่างปลอดภัย บริษัทจึงเห็นว่า หลังจากผู้บริโภคได้คลายความวิตกกังวลและได้รับข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยของอาคารสูงในการรับผลกระทบแผ่นดินไหวที่ถูกต้องแล้ว คาดว่าผู้บริโภคจะกลับมามีความมั่นใจในการซื้อที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดในไม่ช้า โดยในส่วนของที่อยู่อาศัยประเภทบ้านจัดสรรที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในครั้งนี้ จะส่งผลให้มีความต้องการซื้อเพิ่มขึ้น” นายพีระพงศ์ กล่าว

 

และทางบริษัทมีความตั้งใจดูแลความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยทุกท่าน โดยจัดให้มี "ศูนย์ช่วยเหลือลูกค้าฉุกเฉิน โทร 1498"  เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกบ้านออริจิ้นในทุกโครงการ เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพและการบริการที่ดีที่สุด

 

 

สำหรับ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ภายใต้ 4 กลุ่มธุรกิจ

1.กลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 166 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 4/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) เป็นต้น รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้นกว่า 254,967 ล้านบาท โดยกลุ่มโครงการบ้านจัดสรร หรือที่อยู่อาศัยแนวราบ ดำเนินการภายใต้บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เน้นกลุ่มบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ส่วนกลุ่มโครงการแนวสูงหรือคอนโดมิเนียม ดำเนินการภายใต้บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ORIGIN VERTICAL

2.กลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก

3.กลุ่มธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ

4.กลุ่มธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) เป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร

[อ่าน 124]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กรุงไทย–แอกซ่า ประกันชีวิต จัดงาน “2025 AGENCY LEADER MIDYEAR PLAN” เปิดเกมรุก สู่ชัยชนะ
บิ๊กซีจับมือ Simplus จัดแฟนมีท “Butterbear” ดึงคาแรคเตอร์หมีสุดคิ้วท์เอาใจสายครอบครัว
เอไอเอ ครองอันดับ 1 บริษัทที่มีสมาชิกสโมสรล้านเหรียญโต๊ะกลม (MDRT) มากที่สุดในโลก 11 ปีติดต่อกัน
ทิพยประกันภัย ต้อนรับ คณะเยาวชน-ผู้ปกครอง โครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่ 2568
ไอคอนสยาม จับมือ กรุงเทพมหานคร และภาคีภาครัฐ-เอกชน เปิดโครงการ “BKK Food Bank @ICONSIAM"
Bravo BKK ร่วมกับภาครัฐและเอกชน ถวายเทียนพรรษา ณ วัดอุทัยธาราม
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved