“มาชิตะ” ระเบิดศึกสาหร่าย ยกเครื่องการตลาดใหม่ ปรับสูตร “0% ผงชูรส” ทั้ง 5 รสชาติ ออริจินัล, สไปซี่, สไปซี่บาร์บีคิวเกาหลี, ลาบ และต้มยำ
ธิติพร ธรรมาภิมุขกุล ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาด ธุรกิจนอนแอลกอฮอลล์ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า แนวทางการทำตลาดผลิตภัณฑ์สาหร่ายมาชิตะในปี 2562 ได้ให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ โดยการออกสินค้าใหม่ พร้อมปรับสูตรการผลิตของผลิตภัณฑ์ นอกจากจะเป็นการทำให้ตลาดมีความตื่นเต้น ยังนับเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทรนด์การรักสุขภาพ ยังคงมาแรงและขยายตัวมากขึ้น
“ล่าสุดมาชิตะถือเป็นแบรนด์เดียวในตลาดสาหร่ายที่ทุกสินค้าเป็นสูตร 0% ผงชูรส (Monosodium Glutamate) แต่ยังคงไว้ซึ่งความอร่อย โดยใช้สาหร่ายคุณภาพที่ได้มาตรฐาน เกรด A จากประเทศเกาหลี 100% และมาชิตะเป็นสาหร่ายไทยแบรนด์แรกที่ได้รับรางวัลการันตีความอร่อยระดับสากล จากสถาบันรับรองด้านรสชาติและคุณภาพอาหารนานาชาติ ITQI”
ทั้งนี้ ยังมีการปรับบรรจุภัณฑ์ (แพ็คเกจจิ้ง) สินค้าใหม่ทั้งหมด เพื่อให้มีสีสันโดดเด่น สะดุดตา สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง และกลยุทธ์ด้านแพ็คเกจจิ้ง ยังเป็นด่านแรกที่ช่วยดึงดูดผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย สร้างความประทับใจ (First impression) ได้ตั้งแต่บนชั้นวางสินค้า (เชลฟ์) หรือจุดจำหน่ายต่างๆ
อีกทั้ง แบรนด์มาชิตะเป็นต้นตำหรับแบรนด์สาหร่ายรายแรกของไทยที่มีศิลปิน K-POP จากเกาหลีมาใช้เป็นกลยุทธ์การทำตลาด เริ่มจาก “คยูฮยอน” ศิลปินจากค่ายเอสเอ็ม เอ็นเตอร์เทนเมนท์ มาจนถึง 5 หนุ่มจาก “NCT” บอยแบนด์ดาวรุ่งอันดับ 1 ของค่ายเดียวกัน
“ปีนี้ มาชิตะตอกย้ำกลยุทธ์ใช้ศิลปิน K-POP บริษัทได้เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ “พัคจีฮุน” (Park Jihoon) อดีตสมาชิกบอยแบนด์ “วอนนาวัน” (WANNA ONE) ศิลปินไอดอลดัง K-POP เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายหลักวัยรุ่นอายุ 12-18 ปี กลยุทธ์ดังกล่าวส่งผลให้แบรนด์มาชิตะมีการเติบโตหลายด้าน ที่สำคัญยังเป็นการตอกย้ำภาพผู้นำของมาชิตะ ในการใช้ศิลปินเกาหลีเป็นพรีเซ็นเตอร์ และช่วยสร้างการรับรู้ สร้างแบรนด์เอนเกจเมนท์กับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายในหมู่วัยรุ่นได้เป็นอย่างดี รวมถึงผลักดันยอดขายให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง”
นอกจากนี้ บริษัทยังทุ่มงบประมาณมากกว่า 50 ล้านบาท ในการจัดกิจกรรมการตลาด มีแคมเปญต่างๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น เช่น การจัดกิจกรรมบนโลกออนไลน์ทายพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ กระตุ้นให้ผู้บริโภคเข้ามามีส่วนร่วมกับแบรนด์ (Engagement) เปิดให้กลุ่มเป้าหมายแฟนคลับได้เข้ามาร่วมกิจกรรมกับแบรนด์และพรีเซ็นเตอร์คนใหม่อย่างใกล้ชิด และสื่อสารการตลาดสร้างการรับรู้สินค้าสูตรใหม่แบบไม่มีผงชูรสผ่านสื่ออย่างครบวงจรทั้ง Above the Line และ Below the Line
สำหรับมาชิตะแบบไม่มีผงชูรสจะทำตลาดผ่านช่องทางจำหน่ายร้านค้าทั่วไป (Traditional trade) และห้างค้าปลีกสมัยใหม่(Modern trade) ปัจจุบันสินค้าที่จำหน่ายอยู่ ประกอบด้วย สาหร่ายทอด 5 รสชาติ ได้แก่ รสออริจินัล รสสไปซี่ รสสไปซี่บาร์บีคิวเกาหลี รสลาบ รสต้มยำ
โดยมี 5 ขนาด ได้แก่ 3.6 กรัม ราคา 5 บาท, 12 กรัม 20 บาท, 30 กรัม 39 บาท, 42 กรัม 49 บาท และ 61.2 กรัม ราคา 79 บาท ส่วนประเภทอบสไตล์เกาหลีมี 3 รสชาติ ได้แก่ รสออริจินัล รสสไปซี่และรสต้มยำ มี 2 ขนาด คือ 5 กรัม ราคา 15 บาท และ15 กรัม ราคา 39 บาท
ส่วนภาพรวมตลาดสาหร่ายปี 2561 มีมูลค่าประมาณ 3,031 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 5% เมื่อแบ่งเป็นเซ็กเมนต์ สาหร่ายทอดเป็นตลาดใหญ่สุดมูลค่า 1,932 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 63.7% มีอัตราการเติบโต 2% กลุ่มสาหร่ายอบ 691 ล้านบาท สัดส่วน 22.8% เติบโต 3% กลุ่มสาหร่ายย่าง 386 ล้านบาท สัดส่วน 12.7% เติบโต 24.6% และกลุ่มสาหร่ายเทมปุระ 21 ล้านบาท สัดส่วน 0.7% เติบโต 134%
“การทำตลาดทั้งปี สาหร่ายมาชิตะมีเป้าหมายจะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดเป็น 20%”