บ้านปูเผยความคืบหน้าทุกกลุ่มธุรกิจในไตรมาส 1 ปี 68 เน้นความยืดหยุ่นท่ามกลางความท้าทายในทุกมิติ
15 May 2025

 

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เผยความคืบหน้าล่าสุดจากการขับเคลื่อนธุรกิจตามกลยุทธ์ Energy Symphonics ในไตรมาส 1/2568 จัดตั้งบริษัทร่วมทุนขยายธุรกิจดักจับและกักเก็บคาร์บอน (CCUS) ในสหรัฐอเมริกา เริ่มก่อสร้างโซลาร์ฟาร์มแห่งใหม่ในจีน รุกคืบธุรกิจโซลาร์หลังคาในเวียดนาม และขยายการลงทุนในระบบกักเก็บพลังงานในญี่ปุ่น ทั้งนี้ ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่ผันผวนและปัจจัยภายนอกที่ท้าทายในทุกมิติ ทั้งสภาวะเศรษฐกิจโลกที่เปราะบางและประเด็นความขัดแย้งของนโยบายการค้าระหว่างประเทศ บริษัทฯ มุ่งบริหารพอร์ตพลังงานด้วยความยืดหยุ่นพร้อมต่อทุกสภาวะ (Resilience) โดยมีปัจจัยสำคัญที่เอื้อต่อการเติบโตระยะยาว ได้แก่ ความสามารถในการปรับตัวต่อทุกความท้าทายที่มีผลต่ออุตสาหกรรมพลังงาน การสร้างการเติบโตด้วยแพลตฟอร์มพลังงานที่หลากหลาย การดำเนินธุรกิจอยู่ในระดับโลก และการจัดสรรเงินลงทุนและขยายการเติบโตที่สามารถบริหารความเสี่ยงได้

 

สินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

“ในไตรมาสที่ผ่านมา บ้านปูเดินหน้าตามแผนของกลยุทธ์ Energy Symphonics เห็นได้จากความคืบหน้าของทุกกลุ่มธุรกิจที่มุ่งสร้างกระแสเงินสดและตอบโจทย์การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แม้ความไม่แน่นอนของตลาดโลกจะส่งแรงกดดันต่อธุรกิจพลังงาน แต่ด้วยการบริหารธุรกิจด้วยความยืดหยุ่นทั่วทั้งองค์กร ทำให้เราสามารถประเมินสถานการณ์และปรับแผนตามสภาวะต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่น ประกอบกับการที่เรามีฐานธุรกิจในประเทศสำคัญในเอเชีย-แปซิฟิกและสหรัฐอเมริกา ทำให้มีข้อได้เปรียบในการเชื่อมโยงโอกาสจากตลาดแต่ละพื้นที่ บริหารความเสี่ยงได้ตรงจุด คุมต้นทุนได้รัดกุม เป้าหมายคือรักษากระแสเงินสดเและสร้างความมั่นคงทางการเงินอย่างต่อเนื่อง”

 

สำหรับไฮไลท์ผลการดำเนินงานของ 3 กลุ่มธุรกิจหลักในไตรมาส 1/2568 มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

 

กลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน ธุรกิจเหมือง สามารถควบคุมต้นทุนอย่างต่อเนื่องและเข้มงวด และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน แม้ราคาขายและปริมาณขายลดลงจากความต้องการถ่านหินที่ชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ ธุรกิจเหมืองในมองโกเลียสามารถผลิตและจำหน่ายถ่านหินส่งออกไปที่จีนได้ 0.3 ล้านตัน เป็นครั้งแรกในไตรมาสนี้ ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ เน้นการบริหารประสิทธิภาพการผลิตควบคู่กับการใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อบริหารความเสี่ยงด้านราคาเพื่อรักษาความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่อง และล่าสุด BKV dCarbon Ventures ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BKV ได้ประกาศจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเชิงกลยุทธ์ (JV) ร่วมกับกองทุน CI Energy Transition Fund I ภายใต้การบริหารของ Copenhagen Infrastructure Partners (CIP) จากประเทศเดนมาร์ก เพื่อร่วมกันออกแบบ พัฒนา และดำเนินธุรกิจ CCUS ในสหรัฐอเมริกา เป็นก้าวสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจ CCUS

 

กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน ธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อน โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมในจีนมีรายได้เพิ่มเติมจากการขาย Carbon Emission Allowance (CEA) สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของโรงไฟฟ้าและยังทำกำไรด้วยแรงหนุนจากความต้องการไฟฟ้าและไอน้ำตามฤดูกาล และการลดต้นทุนต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เริ่มก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งใหม่ Jinhu Qianfeng ในมณฑลเจียงซู ประเทศจีน มีกำลังผลิต 120  เมกะวัตต์ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในเดือนธันวาคม 2568

 

กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน ลงนามร่วมพัฒนาโครงการระบบกักเก็บพลังงาน ‘Kamigumi–Tokyo BESS’ โดย Banpu Japan K.K. ร่วมทุนกับ Kamigumi Co., Ltd. ขนาด  8 เมกะวัตต์ชั่วโมง คาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 2/2571 ด้านธุรกิจซื้อขายไฟฟ้าได้พัฒนาเทคโนโลยีวิเคราะห์การซื้อขายพลังงานด้วยระบบ AI  และความร่วมมือกับแพลตฟอร์มชั้นนำอย่าง Enspired และ Global Engineering เพื่อเสริมแกร่งธุรกิจในระยะยาว นอกจากนั้น ในประเทศเวียดนาม บ้านปู เน็กซ์ และ SolarBK ได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อเร่งขยายธุรกิจโซลาร์หลังคา เน้นลูกค้ากลุ่มโรงงาน นิคมอุตสาหกรรม และศูนย์ข้อมูล (Data Center) ด้าน e-Mobility ได้เปิดตัวบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ชื่อ “PrimeMobility” เพื่อให้บริการเช่ารถ EV เชิงพาณิชย์แบบครบวงจร โดยร่วมกับพันธมิตรจากประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ Marubeni และ Fuyo Lease Group

 

 

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2568 มีรายได้จากการขายรวม 1,284 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 43,584 ล้านบาท) กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) รวม 268 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 9,100 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม บริษัทรายงานผลขาดทุนสุทธิ 14.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 483 ล้านบาท) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากการแข็งค่าของเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ บ้านปูพร้อมยกระดับการดำเนินงานของทุกกลุ่มธุรกิจ และบริหารพอร์ตพลังงานที่หลากหลายด้วยความยืดหยุ่น และยังคงมุ่งมั่นเป็นผู้นำในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบพลังงานแห่งอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน

 


ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.banpu.com และ https://www.facebook.com/Banpuofficialth

**คำนวณโดยอ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยปี 2567 ที่ USD 1: THB 33.9542

[อ่าน 1,032]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
LINE BK ครบรอบ 5 ปี ก้าวสู่ “Everyday Financial Partner” อยู่เคียงข้างคนไทยทุกวิกฤต เดินหน้าสู่แพลตฟอร์มการเงินครบวงจรกว่า 8 ล้านผู้ใช้
เดอะมอลล์ กรุ๊ป เสริมพลัง ‘คนละครึ่งพลัส’ จุดพลังการจับจ่าย หนุนค้าปลีกปลายปีเติบโตต่อเนื่อง
“โชกุบุสซึ” ผนึก “PIPATCHARA” พลิกฝาขวดใช้แล้ว สู่แฟชั่นรักษ์โลก แคมเปญ “Go Green Go Glam” รวมพลังแบรนด์ไทยสร้างสไตล์ความยั่งยืน
Freedom World จับมือ GulpBKK เตรียมจัดงาน Ginventure 
ชวนค้นพบโลกแห่งเครื่องดื่มสุดครีเอทีฟส่งท้ายปี

“Sawanu Travel” สร้างมาตรฐานใหม่ท่องทะเลอันดามันกับทัวร์เรือระดับพรีเมียม
BDMS Wellness Clinic x Sri panwa คว้า 2 รางวัลใหญ่จาก ททท. ตอกย้ำศักยภาพไทยสู่ “Wellness Hub of the World”
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved