ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ เดินหน้าพลิกโฉมการให้บริการสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการพัฒนาระบบจองตั๋วออนไลน์อัจฉริยะแบบครบวงจรครั้งแรก ร่วมกับ Welovebooking ภายใต้บริษัท แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เข้าชมทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งเด็ก เยาวชน ครอบครัว และประชาชนทั่วไป ให้ได้รับความสะดวกสบายในการจองตั๋วเข้าชมท้องฟ้าจำลอง และไม่พลาดชมการบรรยายดาว ที่เป็นไฮไลท์การเข้าชมห้องฉายท้องฟ้าจำลองกรุงเทพที่ทันสมัยแบบเสมือนจริง ซึ่งในการปรับเปลี่ยนครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับภาพลักษณ์ของท้องฟ้าจำลองกรุงเทพให้ทันสมัย ตอบรับกับยุคเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และช่วยให้การเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องง่ายขึ้น

โดยระบบใหม่นี้ไม่เพียงช่วยลดขั้นตอนการจองแบบเดิม แต่ยังสร้างความสะดวกสบาย วางแผนการเข้าชมล่วงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาบริการด้านอื่นๆ ในอนาคต เพื่อให้ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพยังคงเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทุกวัยต่อไป โดยท้องฟ้าจำลองกรุงเทพเตรียมเปิดให้บริการระบบจองตั๋วออนไลน์อย่างเป็นทางการในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 เพื่อยกระดับประสบการณ์การจองตั๋วเข้าชมให้สะดวกสบายและทันสมัยยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถจองตั๋วเข้าชมล่วงหน้าได้ทาง www.sciplanet.org

นายดิษพล มาตุอำพันวงศ์ รักษาการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเผยแพร่ทางการศึกษา ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ กล่าวว่า
“ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2507 และในปีนี้ได้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 61 แห่งการดำเนินงานอย่างมั่นคง ในฐานะแหล่งเรียนรู้ทางดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ด้วยพันธกิจในการส่งเสริมการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ ให้กับเยาวชนและประชาชนทั่วไปอย่างเท่าเทียม เพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้เรียนในยุคดิจิทัล ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพจึงได้มีการพัฒนาการจัดแสดงนิทรรศการให้ทันสมัยยิ่งขึ้น โดยใช้ระบบดิจิทัลขั้นสูง เพื่อก้าวสู่ศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น VR (Virtual Reality) จำลองโลกเสมือนที่ผู้ชมสามารถสัมผัสประสบการณ์การสำรวจอวกาศได้อย่างใกล้ชิด,AR (Augmented Reality) การเพิ่มข้อมูลเสมือนลงในสภาพแวดล้อมจริง ทำให้การเรียนรู้สนุกและเข้าใจง่ายยิ่งขึ้น,Interactive Multimedia คือสื่อที่ผู้ชมสามารถมีปฏิสัมพันธ์ได้ เช่น เกมเพื่อการศึกษา ระบบตอบโต้แบบเรียลไทม์ ฯลฯ

ทั้งหมดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจ และกระตุ้นการเรียนรู้ในแบบที่เข้าถึงผู้ชมทุกช่วงวัย โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาวิทยาศาสตร์ของชาติในอนาคต นอกจากนิทรรศการเกี่ยวกับดาราศาสตร์และจักรวาลแล้ว ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพยังได้จัดนิทรรศการด้านสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลก โดยจะช่วยปลูกฝังจิตสำนึกและความรับผิดชอบต่อโลกให้กับเยาวชนไทยอย่างยั่งยืน และหนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือการบรรยายดวงดาวภายในห้องฉายท้องฟ้าจำลองที่ทันสมัย รองรับผู้เข้าชมได้ถึง 280 ที่นั่งต่อรอบ ผู้ชมจะได้สัมผัสประสบการณ์เสมือนกำลังเฝ้ามองท้องฟ้ายามค่ำคืน ด้วยภาพเคลื่อนไหวสมจริงและเสียงบรรยายที่เข้าใจง่าย เหมาะกับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียนและเยาวชน ในการเปิดประสบการณ์การชมท้องฟ้าเสมือนจริง  เพื่อให้การเข้าชมนิทรรศการและการบรรยายดาวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพได้พัฒนาระบบจองตั๋วออนไลน์ เต็มรูปแบบที่ผู้เข้าชมสามารถเลือกวัน เวลา และรอบการแสดงได้ตามต้องการ พร้อมทั้งชำระเงินและรับบัตร QR Code เพื่อใช้ยืนยันสิทธิ์หน้างาน ลดปัญหาการต่อคิวยาว หรือพลาดชมเนื่องจากตั๋วเต็ม นอกจากนี้ระบบจองตั๋วยังช่วยให้สามารถวางแผนล่วงหน้าได้อย่างสะดวก

โดยระบบจองออนไลน์นี้เป็นความร่วมมือกับ Welovebooking ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านระบบบริหารการจองที่มีความเสถียร ปลอดภัย และสามารถปรับแต่งฟีเจอร์ได้ตามลักษณะงานของแต่ละองค์กร ทีมงานของบริษัทให้การดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมให้คำปรึกษาเชิงเทคนิคอย่างต่อเนื่อง ทำให้ท้องฟ้าจำลองสามารถเปลี่ยนผ่านจากระบบออฟไลน์ไปสู่ระบบดิจิทัลได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ โดยข้อมูลที่ได้รับจากระบบจองออนไลน์ยังช่วยให้ท้องฟ้าจำลองสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมผู้เข้าชมได้อย่างเป็นระบบ เช่น ช่วงเวลาเข้าชมที่ได้รับความนิยม กลุ่มอายุของผู้ใช้บริการ หรือประเภทกิจกรรมที่มีผู้สนใจมากที่สุด ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปต่อยอดในการวางแผนและพัฒนานิทรรศการ กิจกรรม และประสบการณ์การเรียนรู้ให้ตอบโจทย์ผู้เข้าชมได้มากขึ้น
 

ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพขอเชิญชวนทุกท่านสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในการเข้าชม โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางมาซื้อบัตรหน้างานอีกต่อไป เริ่มตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป สามารถจองบัตรเข้าชมล่วงหน้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านเว็บไซต์ทางการของท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ www.sciplanet.org  ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย โดยท้องฟ้าจำลองกรุงเทพยังมีแผนพัฒนาให้ระบบจองตั๋วออนไลน์รองรับกิจกรรมต่าง ๆ ในอนาคต เช่น การจองเวิร์ก ช็อปเฉพาะทาง, ค่ายวิทยาศาสตร์สำหรับเยาวชน, และการจองเข้าชมแบบกลุ่มสำหรับโรงเรียนหรือหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้ทุกกลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงการเรียนรู้ได้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพมากที่สุด”

ดร.วิโรจน์ ศิริรัตนรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าว
“Welovebooking ภายใต้บริษัท แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในภารกิจสำคัญของท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีบทบาทสำคัญในการจุดประกายความรู้ให้แก่เยาวชนและประชาชนทั่วประเทศ ในฐานะพันธมิตรทางเทคโนโลยี Welovebooking ขอแสดงความยินดีอย่างยิ่งกับการเปิดตัวระบบจองตั๋วออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบของท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการยกระดับการบริการสู่ยุคดิจิทัล เราเชื่อมั่นว่าระบบนี้จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่สะดวก ทันสมัย และตอบโจทย์ผู้ใช้บริการได้มากยิ่งขึ้น

ทั้งยังสะท้อนถึงวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของท้องฟ้าจำลอง ที่มุ่งมั่นพัฒนาการเรียนรู้ให้เข้าถึงได้ง่ายและมีคุณภาพในทุกมิติ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทีมงานของ Welovebooking ได้ทำงานร่วมกับท้องฟ้าจำลองกรุงเทพอย่างใกล้ชิด เพื่อออกแบบระบบที่เหมาะสมกับลักษณะการให้บริการเฉพาะด้าน เราภูมิใจที่ได้เห็นผลลัพธ์ของความร่วมมือในครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม และได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ใช้งาน Welovebooking ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาและปรับปรุงระบบให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมสนับสนุนท้องฟ้าจำลองกรุงเทพในทุกแผนการขยายบริการในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการจองกิจกรรม ค่ายวิทยาศาสตร์ หรือบริการเสริมอื่น ๆ ที่จะช่วยยกระดับการเรียนรู้ของประชาชนในยุคใหม่

ขอขอบคุณทีมผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพที่ให้ความไว้วางใจในระบบของเรา และขอยืนยันว่าทีมงาน Welovebooking ทุกคนจะเดินหน้าพัฒนาด้วยความเป็นมืออาชีพ พร้อมให้บริการอย่างดีที่สุด เพื่อรองรับการเติบโตของแหล่งเรียนรู้แห่งนี้ในอนาคตอย่างยั่งยืน”