สิงห์ เอสเตท ประกาศปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น จากผลกำไรโต 125%
27 Mar 2019

บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2561 โดยฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานวัน Opportunity Day ที่ตลาดหลักทรัพย์ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 7,539 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% จากปีก่อน

โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการโอนกรรมสิทธิ์ โครงการ ดิ เอส อโศก ให้แก่ลูกค้าเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 และรวมกับผลประกอบการจากกิจการโรงแรม เอาท์ริกเกอร์ จำนวน 6 โรงแรม ที่บริษัทฯ เข้าซื้อในระหว่างปีที่ผ่านมา ดังนั้นจึงทำให้ในปี 2561 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,287 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 125%

“รายได้รวมในปี 2561 ของบริษัทฯ มาจาก 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัย มีรายได้ 3,974 ล้านบาท, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าหรือธุรกิจคอมเมอร์เชียล มีรายได้ 674 ล้านบาท และธุรกิจโรงแรมบริษัทฯ มีรายได้ 2,576 ล้านบาท ซึ่งหากดูจากสัดส่วนรายได้ของแต่ละธุรกิจจะพบว่าเริ่มใกล้เคียงกับเป้าหมายของบริษัทฯ ที่ต้องการให้เกิดความสมดุลระหว่างรายได้ประจำ (Recurring Income) กับรายได้ไม่ประจำ (Nonrecurring income) ในอัตราส่วน 50:50”

ขณะที่ในปี 2562 สิงห์ เอสเตท ได้เตรียมจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.04 บาท คิดเป็นเงินปันผลทั้งสิ้นกว่า 274 ล้านบาท ในช่วงเดือนพฤษภาคม ส่วนแผนการดำเนินงาน สิงห์ เอสเตท ยังคงเดินหน้าพัฒนาใน 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจที่พักอาศัย ธุรกิจคอมเมอร์เชียล และธุรกิจโรงแรม ตอกย้ำการเป็น Premier Lifestyle Developer ที่มุ่งมั่นในการเป็น Global Holding Company ที่มีชื่อเสียงในระดับสากล

โดย “ธุรกิจที่พักอาศัย” ในปีนี้ได้เตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี โครงการล่าสุด บริเวณซอยรางน้ำ จำนวน 1 อาคาร ความสูง 35 ชั้น มูลค่าโครงการรวม 4,000 ล้านบาท ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างสำนักงานขาย และคาดว่าจะมีการเปิดตัวภายในกลางปีนี้

ด้าน “ธุรกิจคอมเมอร์เชียล” ได้เตรียมเปิดตัวโครงการ OASIS ซึ่งเป็นโครงการอาคารสํานักงานและพื้นที่ค้าปลีกให้เช่า มูลค่าการลงทุนรวม 3,695 ล้านบาท ความสูงทั้งสิ้น 36 ชั้น โดยมีพื้นที่ให้เช่าประมาณ 53,000 ตารางเมตร แบ่งออกเป็นพื้นที่สํานักงานและพื้นที่ค้าปลีก ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาดประมาณ 7 ไร่ ติดกับอาคารซันทาวเวอร์ส บนถนนวิภาวดีรังสิต โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2565

รวมถึงเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา สิงห์ เอสเตท ได้จัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เอส ไพรม์ โกรท หรือ S Prime Growth Leasehold Real Estate Investment Trust (SPRIME) ซึ่งเป็น REIT กองแรกของบริษัทคือ ที่ลงทุนในอาคารสำนักงานซันทาวเวอร์ส และได้นำหน่วยทรัสต์เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย และได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุนสถาบัน โดยมียอดจองซื้อมากกว่าจำนวนหน่วยทรัสต์ที่จัดสรรให้ (Oversubscribed) ถึงกว่า 5 เท่า

สำหรับ “ธุรกิจโรงแรม” เป็นอีกหนึ่งธุรกิจหลักที่สร้างรายได้สูงให้กับสิงห์ เอสเตท โดยในปีที่ผ่านมา กับพอร์ทปัจจุบันที่มีห้องพักรวม 4,271 ห้อง จากโรงแรมและรีสอร์ท 37 แห่งทั่วโลก (ยังไม่รวมโรงแรมในโครงการครอสโร้ดส์)

โดยปีนี้ สิงห์ เอสเตท ยังคงมองหาโรงแรมที่ตั้งอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกเข้ามาเติมเต็มพอร์ท รวมทั้งได้เตรียมพัฒนาเพื่อเพิ่มมูลค่าโรงแรมเอาท์ริกเกอร์ 3 แห่ง คือ โรงแรมเอาท์ริกเกอร์ ลากูน่า ภูเก็ต บีช รีสอร์ท (Outrigger Laguna Phuket Beach Resort), โรงแรมเอาท์ริกเกอร์ ฟีจี บีช รีสอร์ท ประเทศฟีจี(Outrigger Fiji Beach Resort) และโรงแรมแคสต์อะเวย์ ไอส์แลนด์ ประเทศฟีจี (Outrigger Castaway Island)

ที่สำคัญปีนี้ สิงห์ เอสเตท ยังได้เตรียมเปิดให้บริการเฟสแรกของโครงการ “ครอสโร้ดส์” แหล่งท่องเที่ยวที่ครบวงจรและใหญ่ที่สุดแห่งแรกในมัลดีฟส์ ซึ่งนับว่าเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของนักลงทุนไทยในสาธารณรัฐมัลดีฟส์

ประกอบด้วย เดอะ มารีน่า แอท ครอสโรดส์ พื้นที่สำหรับความบันเทิงและร้านค้าปลีกขนาด 11,000 ตารางเมตร มีร้านอาหารและร้านค้าชื่อดังมากมาย อาทิ Coffee bean & tea leaf, Sazanami, Ministry of Crab, Carne Diem Grill, Island Breeze และ Toddy โรงแรม ซาย ลากูน มัลดีฟส์ คูริโอ คอลเล็กชั่น บาย ฮิลตัน (SAii Lagoon Maldives, Curio Collection by Hilton) และโรงแรมฮาร์ด ร็อค โฮเทล มัลดีฟส์ (Hard Rock Hotel Maldives) โดยจะเปิดให้บริการในเดือนมิถุนายนนี้ 

“ในปี 2562 นี้ ยังคงเป็นอีกหนึ่งปีแห่งการรับรู้รายได้จากโครงการที่สร้างเสร็จ โดยบริษัทฯ จะรับรู้รายได้จากการโอนโครงการ ได้แก่ ดิ เอส อโศก (THE ESSE ASOKE), ดิ เอส แอท สิงห์ คอมเพล็กซ์ (THE ESSE AT SINGHA COMPLEX), สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส (SANTIBURI THE RESIDENCES), บันยันทรี เรสซิเดนซ์ ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ (BANYAN TREE RESIDENCES RIVERSIDE BANGKOK)

รวมทั้งการรับรู้รายได้เต็มปีจากอาคารสำนักงานสิงห์ คอมเพล็กซ์ (SINGHA COMPLEX),โรงแรมเอาท์ริกเกอร์ (Outrigger) 6 โรงแรม และเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการ “ครอสโร้ดส์ (CROSSROADS) สาธารณรัฐมัลดีฟส์ที่จะเปิดในช่วงกลางปี”

“ซึ่งจากเป้าหมายและแผนการดำเนินงานทั้งหมดของสิงห์ เอสเตท เราเชื่อว่าในปี 2562 ทุกคนจะได้เห็นถึงการเติบโตของสิงห์ เอสเตท ทั้งด้านสินทรัพย์และความแข็งแกร่งทางการเงิน นำมาสู่การสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในอนาคตอย่างแน่นอน” ฐิติมา กล่าวปิดท้าย

[อ่าน 1,359]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
SSRG เปิดตัวโครงการอสังหาฯ ยักษ์ใหญ่ในกัมพูชา
AP-SCG พันธมิตรขับเคลื่อนอุตสาหกรรมก่อสร้างสีเขียว
ICONCRAFT ชวนสัมผัสมนต์เสน่ห์งานคราฟต์ล้ำค่าจากช่างฝีมือไทย
AIS จับมือ Apple ให้บริการ AIS Care+ with AppleCare Services รายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
คปภ. ผนึกพลัง 4 สมาคม จัดเรตติ้งพฤติกรรม “ตัวแทน-นายหน้าประกันภัย” พร้อมแบ่งปันฐานข้อมูลเกี่ยวกับการฉ้อฉลประกันภัย
เคทีซี X โรงแรมสุโขทัย กรุงเทพ เปิดตัวสมาชิกบัตร เดอะ สุโขทัย วีซ่าแพลทินัม รับสิทธิ์ 2 ต่อ
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved