ท่ามกลางสมรภูมิธุรกิจโรงแรมที่แข่งขันดุเดือด “โคโค โกลบอล ฮอสพิทอลลิตี้ (KGH)” บริษัทรับบริหารจัดการโรงแรมที่ก่อตั้งโดยนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นในไทย กลับเติบโตแบบก้าวกระโดดในเวลาเพียงหนึ่งทศวรรษ ด้วยกลยุทธ์บริหารจากส่วนกลาง (Centralized Operation) ผสานบริการแบบญี่ปุ่นและอัธยาศัยไมตรีแบบไทย กลายเป็นโมเดลที่เจ้าของโรงแรมขนาดกลางแห่เข้ามาใช้บริการแบบปากต่อปาก
KGH ปักหมุด “จุดเปลี่ยน” ครั้งใหม่ของธุรกิจ ด้วยการเปิดตัว 3 บริการเสริม ช่วยเจ้าของโรงแรมยกระดับการขาย การตลาด และการบริหาร พร้อมเร่งขยายพอร์ตโรงแรมแตะ 1,000 แห่งใน 10 ประเทศ ครอบคลุม 6 ทวีป ภายในปี 2578
“เราไม่ได้แค่บริหารโรงแรม แต่คือพาร์ตเนอร์ธุรกิจ ที่ทำให้เจ้าของสามารถโฟกัสสิ่งที่เขารัก โดยไม่ต้องกังวลเรื่องต้นทุนและการจัดการ”
— เรย์ มัทสึดะ ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร KGH
โมเดล Kaizen จากญี่ปุ่น สู่ผลลัพธ์เหนือมาตรฐาน
KGH ใช้แนวคิด Kaizen ซึ่งเน้นการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เข้ากับระบบ Centralized Operation ที่มี “สำนักงานใหญ่” เป็นศูนย์กลางในการดูแลงานเบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบัญชี การตลาด บริหารรายได้ จัดซื้อ และทรัพยากรบุคคล ทำให้สามารถลดพนักงานประจำโรงแรมได้อย่างมาก แต่ยังคงคุณภาพบริการที่ดีเยี่ยม
ตัวอย่างที่ชัดเจน เช่น โรงแรม 75 ห้องในเชียงราย ใช้พนักงานเพียง 17 คน แต่ยังบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย KGH สนับสนุนงานเบื้องหลังทั้งหมดจากส่วนกลาง นอกจากนี้ ยังมี “KokoHub” ระบบจัดซื้อและกระจายสินค้าแบบรวมศูนย์ ที่ช่วยลดต้นทุนสินค้าผ่านอำนาจต่อรองและการสั่งแบบเป็นล็อตใหญ่ เพิ่มอำนาจการแข่งขันให้กับโรงแรมในเครือ
ผลลัพธ์คือ โรงแรมที่ KGH เข้าบริหารมี อัตรากำไรเฉลี่ย (Profit Margin) สูงถึง 57% เทียบกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมเพียง 25–35% และอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืน (ADR) เติบโตแบบก้าวกระโดด เช่น โคโคเทล เทวา ทองหล่อ ที่ ADR เพิ่มจาก 694 บาทในปี 2563 เป็น 1,434 บาทในปี 2567
เจาะ 3 บริการใหม่ – สร้างมูลค่าเสริมให้เจ้าของโรงแรม
เพื่อรองรับความต้องการของเจ้าของโรงแรมที่อยากเติบโตอย่างมืออาชีพ KGH เปิดตัว 3 บริการใหม่ที่ออกแบบให้ตอบโจทย์ยุคดิจิทัล ได้แก่:
1. บริการสนับสนุนการขายออนไลน์ (Online Sales & Revenue Management) ช่วยจัดการ OTA, บริหารราคาห้องพักแบบไดนามิก และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงแข่งขัน
2. บริการสนับสนุนการตลาดออนไลน์ (Digital Marketing Support) วางแผนโปรโมชั่น ทำโฆษณาออนไลน์ บริหารเว็บไซต์ และโซเชียลมีเดีย เชื่อมต่อกับบริการขายออนไลน์แบบไร้รอยต่อ
3. บริการบริหารโรงแรม (General Management Service) ส่ง GM มืออาชีพเข้าบริหารโรงแรมโดยตรง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานแบบมืออาชีพ
วิสัยทัศน์ 2578: 1,000 โรงแรม ใน 10 ประเทศ 6 ทวีป
KGH ตั้งเป้ารุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะฟิลิปปินส์ ซึ่งเริ่มปักธงแล้ว และจะตามด้วยประเทศอื่น ๆ อย่างญี่ปุ่น เวียดนาม อินโดนีเซีย รวมถึงยุโรปและอเมริกาใต้ โดยเป้าหมายคือการขยายเครือข่ายบริหารโรงแรม 1,000 แห่งภายในปี 2578
ข้อมูลล่าสุด (พ.ค. 2568) KGH บริหารโรงแรมแล้ว 41 แห่ง รวมกว่า 2,500 ห้อง ในประเทศไทย ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์ แบ่งเป็นโรงแรมในเครือแบรนด์ของ KGH และโรงแรมอิสระที่ให้ KGH บริหาร
แบรนด์โรงแรมในเครือ KGH
1. Kokotel – ไลฟ์สไตล์แบรนด์แบบญี่ปุ่นมินิมัล ตอบโจทย์นักเดินทางกลุ่มครอบครัวและเพื่อน เน้นคอนเซ็ปต์ “Kokotel as Entertainment”
2. VIVTEL – พรีเมียมไลฟ์สไตล์ เน้นคู่รักและคนรุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิด ‘Sleepover to Oversleep’
3. โรงแรมอิสระ (Independent Brands) – โรงแรมของเจ้าของที่ยังคงเอกลักษณ์เดิมไว้ แต่ได้รับการเสริมด้วยระบบบริหารระดับมืออาชีพจาก KGH
ยุทธศาสตร์สร้างทีม-สร้างคน พร้อมเติบโตไปด้วยกัน
อีกหนึ่งจุดแข็งของ KGH คือการให้ความสำคัญกับ “บุคลากร” โดยออกแบบเส้นทางอาชีพที่ชัดเจน พัฒนาทักษะพนักงานให้เติบโตจากฟรอนต์ไลน์ สู่ผู้บริหารโรงแรม พร้อมวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นความร่วมมือและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามแนวทาง “ไคเซ็น”
“KGH ไม่ใช่แค่บริษัทรับจ้างบริหารโรงแรม แต่คือพันธมิตรระยะยาว ที่เติบโตไปด้วยกันทั้งเจ้าของโรงแรม แขกผู้เข้าพัก และพนักงานของเราเอง”
— ภวัติ เพียรเพ็ญศิริวงศ์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจและการออกแบบแบรนด์
ตัวเลขที่น่าจับตา (Q2/2025)
เมื่อ ‘การบริหารโรงแรม’ กลายเป็นธุรกิจที่โตได้แบบยั่งยืน
ในขณะที่เจ้าของโรงแรมจำนวนมากเผชิญความท้าทาย ทั้งด้านต้นทุน การบริหาร และการแข่งขันจากแพลตฟอร์มดิจิทัล “KGH” คือทางเลือกใหม่ที่พิสูจน์แล้วว่า การบริหารอย่างมืออาชีพ คือหัวใจของการเติบโตอย่างยั่งยืนในยุคนี้
KGH ไม่ได้เพียงแค่มองประเทศไทย แต่กำลังใช้ไทยเป็นเวทีสู่ระดับโลก เปลี่ยนแบรนด์บริหารโรงแรมสัญชาติญี่ปุ่น-ไทย ให้กลายเป็น Global Hospitality Operator ที่แข็งแกร่ง และพร้อมเชื่อมต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวในทุกมุมโลก