หุ้นกู้ชุดใหม่นี้เสนอขายจำนวน 4 ชุด อายุระหว่าง 4-10 ปี โดยคาดว่าจะเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม 1 และ 4 สิงหาคม 2568 ผ่านธนาคารพาณิชย์และบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำ 7 แห่ง อาทิ ธนาคารกรุงเทพ กสิกรไทย ไทยพาณิชย์ ซีไอเอ็มบี ไทย ยูโอบี รวมถึง บล.เกียรตินาคินภัทร และ บล.เอเซีย พลัส มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท
หุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ “A+” จากทริสเรทติ้ง สะท้อนสถานะผู้นำตลาดโทรคมนาคม ความแข็งแกร่งทางการเงิน และผลจากการควบรวมกิจการกับดีแทค ซึ่งเริ่มส่งผลเชิงบวกต่อประสิทธิภาพการดำเนินงาน
นางสาวยุภา ลีวงศ์เจริญ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า
ไตรมาสแรกของปี 2568 บริษัทสามารถพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 1,600 ล้านบาท และมีกำไรจากการดำเนินงานปกติ (Normalized Net Profit) ที่ 4,300 ล้านบาท สะท้อนความคืบหน้าจากการควบรวมกิจการ การควบคุมต้นทุน และการใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะ AI
“ความสำเร็จนี้เกิดจากวินัยทางการเงิน การบูรณาการโครงสร้างองค์กร และการเสริมศักยภาพบุคลากร ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน” นางสาวยุภากล่าว
ทรูวางยุทธศาสตร์การเติบโตปี 2568 ไว้ 3 ด้าน ได้แก่
ด้านลูกค้า: รวมระบบทรู-ดีแทคให้เป็นหนึ่งเดียว พัฒนาเครือข่ายทันสมัยครอบคลุมทั่วประเทศ
ด้านเทคโนโลยี: ผลักดันการเข้าถึง AI สำหรับคนไทยทุกกลุ่ม และพัฒนาเมืองอัจฉริยะ
ด้านบุคลากร: ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และสร้างความร่วมมือกับพันธมิตร
ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้กล่าวว่า จากแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลง (ล่าสุดอยู่ที่ 1.75%) การลงทุนในหุ้นกู้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูง เช่นของทรู ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการล็อกผลตอบแทนระยะยาวอย่างมั่นคง
ทั้งนี้ รายละเอียดอัตราดอกเบี้ยแต่ละชุดมีดังนี้:
ชุด | อายุ | อัตราดอกเบี้ยคงที่ (ต่อปี) |
---|---|---|
1 | 4 ปี | [3.20 – 3.30]% |
2 | 5 ปี | [3.40 – 3.50]% |
3 | 7 ปี | [3.50 – 3.65]% |
4 | 10 ปี | [3.70 – 3.85]% (ไถ่ถอนได้หลังปีที่ 5) |
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลกับสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งยังไม่สมบูรณ์ นักลงทุนสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th