จากรายงานล่าสุดโดยกรมอนามัย พบว่าแนวโน้ม “เด็กไทยตัวเตี้ย” เพิ่มสูงขึ้นถึง 12.9% ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจาก การบริโภคนมต่ำกว่ามาตรฐาน ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อพัฒนาการการเจริญเติบโตของเด็กไทยในระยะยาว
พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า “ปัจจุบันคนไทยดื่มนมเฉลี่ยเพียง 23.1 ลิตรต่อคนต่อปี หรือคิดเป็น 2 แก้วต่อสัปดาห์ ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 31.0 ลิตรต่อคนต่อปี และต่ำกว่าหลายประเทศในเอเชียและยุโรป เช่น ไต้หวัน (80.5 ลิตรต่อคนต่อปี), ญี่ปุ่นและสิงคโปร์ (36 ลิตร), เดนมาร์ก (52 ลิตร), แคนาดา (56.8 ลิตร)”
จากตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึง พฤติกรรมบริโภคนมของคนไทยที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลต่อปัญหาด้านสุขภาพในระยะยาว ทั้งเรื่อง การเจริญเติบโตของเด็ก ความแข็งแรงของกระดูก รวมถึง ความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนและมะเร็งลำไส้ใหญ่เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ
เสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง
เพิ่มโอกาสในการเจริญเติบโตและความสูง ของเด็ก
ลดความเสี่ยง กระดูกพรุนในผู้สูงอายุ
ลดโอกาสเสี่ยง มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อจำกัดของผู้บริโภคบางกลุ่ม เช่น เด็กที่แพ้นมวัว หรือผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ กลุ่มเครื่องดื่มนมทางเลือกจึงกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ในตลาด
ล่าสุด แบรนด์ 137 ดีกรี® ได้เปิดตัว นมอัลมอนด์สูตร DHA ที่เน้นเจาะกลุ่มครอบครัวที่ให้ความสำคัญต่อโภชนาการและการเจริญเติบโตของเด็ก โดยนมอัลมอนด์สูตรนี้ให้
โอเมก้า 3,6,9 จากพืช
แคลเซียมสูงเทียบเท่านมวัว (30%)
โปรตีนจากอัลมอนด์และวิตามินอี
ไม่มีน้ำตาลทราย ไม่มีวัตถุกันเสีย
รางวัล “THAIFEX - Anuga tasteInnovation Show 2024”
ถือเป็นอีกหนึ่ง “ทางเลือกใหม่” สำหรับพ่อแม่และผู้ปกครองที่ต้องการดูแลสุขภาพลูกในระยะยาว และเหมาะสำหรับเด็กที่มีภาวะ แพ้นมวัว
การบริโภคนมวันละ 2 แก้วต่อวัน ควบคู่กับอาหารครบ 5 หมู่ ยังคงเป็นแนวทางสำคัญในการเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กไทย ลดความเสี่ยงเด็กตัวเตี้ย และเตรียมความพร้อมสู่การมีสุขภาพแข็งแรงในอนาคต ทั้งนี้ การเลือกบริโภคนมในรูปแบบที่เหมาะสมและหลากหลาย ก็ถือเป็นอีกแนวทางที่ช่วยให้เด็กและเยาวชนไทยมีตัวเลือกมากขึ้นในการดูแลสุขภาพตัวเองอย่างยั่งยืน