“สิงห์ปาร์ค เชียงราย” ร่วมกับ คาเฟ่ อเมซอน ภายใต้ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดตัวเมนูใหม่ “ชาไทยพรีเมียม” ไม่ใส่สี เสิร์ฟที่ร้านคาเฟ่ อเมซอนทั่วประเทศ ดึงจุดเด่นใบชาอัสสัมหรือชาจังหวัดน่าน เกรดพรีเมียม ที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว พร้อมรสชาติเป็นเอกลักษณ์ ให้คอชาได้ดื่มด่ำทั่วประเทศ

พงษ์รัตน์ เหลืองธำรงเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สิงห์ปาร์ค เชียงราย จำกัด เปิดเผยว่า

สำหรับจุดเด่นของชาไทยพรีเมียม เป็นการคัดสรรใบชาอัสสัมคุณภาพสูง เฉพาะส่วนบนของยอดชาผ่านการเบลนด์สูตรพิเศษโดย Tea Master ผู้เชี่ยวชาญทางด้านชาที่มีความสามารถในการปรุงและพัฒนาสูตรชา จากศูนย์ปฏิบัติการหรือ Tea Lab สิงห์ปาร์ค เชียงราย ซึ่งกระบวนการผลิตชาไทยพรีเมียมทุกขั้นตอนมีความพิถีพิถัน ตั้งแต่การหมักชาด้วยวิธีดั้งเดิม ควบคุมปริมาณ เวลา อุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสม เพื่อให้ได้สีน้ำชาโทนน้ำตาลอมส้มธรรมชาติ พร้อมรสชาติหอมนุ่มโทนวนิลลา ที่แตกต่างจากชาไทยทั่วไป แต่ยังคงอัตลักษณ์ความเป็นไทยไว้อย่างครบถ้วน ที่สำคัญคือไม่มีการปรุงแต่งสีใดๆ ทั้งสิ้น

ไกรพิท เปรมมณี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจไลฟ์ สไตล์ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) เปิดเผยว่า

“ตลาดชาในประเทศไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ และมองหาทางเลือกใหม่ที่ดีต่อร่างกาย คาเฟ่ อเมซอน ในฐานะแบรนด์แฟรนไชส์คาเฟ่อันดับหนึ่งของประเทศ มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในทุกมิติ ซึ่งหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญคือการส่งมอบเครื่องดื่มที่มีคุณภาพ และโดนใจผู้บริโภค จึงได้ร่วมมือกับสิงห์ปาร์ค เชียงราย พัฒนาเมนู ‘ชาไทยพรีเมียม’ ที่ไม่ใส่สี แต่ยังคงเอกลักษณ์และรสชาติของชาไทยไว้อย่างครบถ้วน ที่สำคัญคือหอมละมุนยิ่งขึ้น ด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบชาคุณภาพสูง จากแหล่งปลูกธรรมชาติ พร้อมพัฒนาสูตรโดยผู้เชี่ยวชาญด้านชาโดยเฉพาะ เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องดื่มนี้จะเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์พิเศษที่มอบทั้งความอร่อยและความใส่ใจให้กับผู้บริโภคทุกกลุ่ม”

“สิงห์ปาร์ค เชียงราย” ตอกย้ำความเป็นผู้ผลิตชาคุณภาพแถวหน้าเมืองไทย ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเพาะปลูกชามาอย่างยาวนานในพื้นที่เชียงราย และต่อยอดไปยังจังหวัดน่าน ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกที่มีความอุดมสมบูรณ์ ทำให้ได้ใบชาที่มีคุณลักษณะพิเศษไม่เหมือนใคร

การปลูกชาอัสสัมยังเป็นอีกหนึ่งวิธีในการรักษาป่า เนื่องจากชาชนิดนี้มักเติบโตตามธรรมชาติใต้ต้นไม้ใหญ่ ซึ่งเท่ากับเป็นการลดการทำลายป่าไปในตัว นอกจากนี้ บริษัทยังได้ส่งทีมงานส่งเสริมธุรกิจเกษตรเข้าไปแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปลูก การดูแลและการตัดแต่ง เพื่อให้ใบชามีคุณภาพสมบูรณ์ที่สุด รวมถึงการรับซื้อใบชาสดจากชาวบ้าน เพื่อส่งเสริมรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนให้แก่คนในพื้นที่อีกด้วย