เพื่อสนับสนุนการเติบโตของโปรแกรมแอฟฟิลิเอต YouTube Shopping ที่กำลังเติบโตในประเทศไทย YouTube ประเทศไทย ได้จัดงาน YouTube Beauty Accelerator Event เพื่อแบ่งปันเคล็ดลับและสร้างแรงบันดาลใจให้ครีเอเตอร์ทุกๆ คนได้เข้าร่วมโปรแกรมแอฟฟิลิเอต YouTube Shopping ผ่านการสร้างคอนเทนต์จากเรื่องใกล้ตัวอย่างการดูแลตัวเองในด้านต่างๆ พร้อมติดแท็กผลิตภัณฑ์ ซึ่งฟีเจอร์นี้ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ครีเอเตอร์ความสวยงามเท่านั้น แต่เปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์สายอื่นๆ สามารถวางกลยุทธ์และเข้าร่วมโปรแกรมแอฟฟิลิเอต YouTube Shopping ได้เช่นกัน โดยเน้นที่การเลือกผลิตภัณฑ์และผสานแอฟฟิลิเอตอย่างกลมกลืนโดยไม่ละทิ้งเอกลักษณ์ของช่อง
มุกพิม อนันตชัย หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรธุรกิจ YouTube ประเทศไทยและเวียดนาม กล่าวว่า
“YouTube ภูมิใจมากที่ได้เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์ได้แสดงไอเดียและถ่ายทอดแพชชั่นกับผู้ชมได้สัมผัส พร้อม กับการสร้างรายได้ และต่อยอดสู่อาชีพอย่างยั่งยืนผ่านหลากหลายช่องทาง รวมถึงผ่านโปรแกรมแอฟฟิลิเอต YouTube Shopping
จากผลสำรวจของ Kantar พบว่า 85% ของผู้ชมให้ความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์และแบรนด์เนื่องจากข้อมูลจากครีเอเตอร์ที่พวกเขาไว้วางใจ ซึ่งนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงร่วมมือกับ Shopee ในการเปิดตัวโปรแกรมแอฟฟิลิเอต YouTube Shopping ในไทย เพื่อเสริมศักยภาพให้ครีเอเตอร์สามารถสร้างความสัมพันธ์กับผู้ชมได้อย่างเหนียวแน่นยิ่งขึ้น และเพิ่มโอกาสในการสร้างรายในเวลาเดียวกัน ในมุมของผู้ชมเองก็ได้รับประสบการณ์ที่ดี เพราะสามารถค้นหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ผ่านครีเอเตอร์ที่เขาชอบ ซึ่งช่วยเชื่อมโยงเส้นทางของผู้บริโภค ตั้งแต่การค้นหาไปจนถึงการตัดสินใจซื้อได้อย่างรวดเร็ว
โดยหนึ่งในเทรนด์ของคอนเทนต์ที่มาแรงมากๆ บน YouTube คือเทรนด์เรื่องการดูแลตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย หน้าตา เสื้อผ้า ผม หรือสุขภาพจิตใจ ซึ่งไม่ได้จำกัดเพียงแค่ครีเอเตอร์สายความงามเท่านั้นที่จะติดแท็กสินค้าเหล่านี้ได้ แต่ครีเอเตอร์สายอื่นๆ ก็สามารถหยิบเรื่องราวเหล่านี้มาถ่ายทอดในแบบที่เป็นตัวเองได้อย่างสร้างสรรค์เช่นกัน”
ภายในงาน YouTube ได้รับเกียรติจากครีเอเตอร์ 3 ช่องดัง คือ อาชิตา ศิริภิญญานนท์ ช่อง Archita Station ชยธร กิติยาดิศัย ช่อง ingck และ ภัฎฎารินธ์ อิงคุลานนท์ ตู้ซ่อนหมี มาร่วมพูดคุยและแชร์ประสบการณ์ตรงกับการเริ่มต้นโปรแกรมแอฟฟิเลเอต YouTube Shopping มาตั้งแต่เปิดตัว พร้อมเล่าถึงการขยายการแท็กสินค้าไปหลายหมวดหมู่โดยที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของช่องไว้ได้อย่างมั่นคง อีกทั้งยังสามารถต่อยอดไปสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจได้อย่างน่าชื่นชม
อาชิตา ศิริภิญญานนท์ ช่อง Archita Station “จากกูรูสู่การเติบโต – เคล็ดลับสร้างรายได้จากความงาม” อาชิตา หรือ “อาชิ” คือหนึ่งในบิวตี้บล็อกเกอร์และครีเอเตอร์ผู้ทรงอิทธิผลของไทย ด้วยยอดผู้ติดตามมากถึง 1.49 ล้านคน เธอเป็นที่รู้จักในฐานะผู้บุกเบิกคอนเทนต์ด้านความงามที่โดดเด่นด้วยรีวิวผลิตภัณฑ์ความงามอย่างสกินแคร์และเครื่องสำอางที่ตรงไปตรงมา ลึกซึ้ง และน่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะเป็นการสอนแต่งหน้า แต่งตัว และไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย
อาชิตาวางตัวเองในฐานะกูรูด้านความงามผู้เชี่ยวชาญที่ถ่ายทอดประสบการณ์และคำแนะนำอย่างจริงใจ จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ติดตามจำนวนมาก โดยหนึ่งในคอนเทนต์ที่แฟนๆ รอคอยเป็นประจำคือซีรีส์ “Favourite of the Year” ซึ่งเป็นการรวบรวมไอเทมโปรดประจำปี เธอยังแท็กผลิตภัณฑ์หลากหลายรายการในวิดีโอเฉลี่ยเดือนละ 17 วิดีโอ โดยไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นสินค้าที่ได้รับการสนับสนุนเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงผลิตภัณฑ์จากแบรนด์เครื่องสำอางของอาชิตาเองด้วย
โดยตั้งแต่อาชิตาเข้าร่วมโปรแกรมแอฟฟิลิเอต YouTube Shopping ยอดขายรวม ก็พุ่งสูงขึ้นกว่า 10 เท่าในช่วงแคมเปญ ด้วยกลยุทธ์การรีวิวที่น่าสนใจและสอดคล้องกับแคมเปญของ Shopee อย่างมีชั้นเชิง โดยเฉพาะการนำเสนอ “ดีลพิเศษแบบจำกัดเวลา” ที่น่าดึงดูด อาชิตาจึงประสบความสำเร็จในการสร้างยอดขายอย่างมีนัยสำคัญ
ชยธร กิติยาดิศัย ช่อง ingck มีผู้ติดตามมากกว่า 7 แสนคน ชยธรนำเสนอคอนเทนต์ในช่องด้วยการรีวิวสินค้าหลากหลายประเภท เช่น ครีมกันแดด ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม และดูแลสิว โดยพูดถึงทั้งข้อดีข้อเสียอย่างตรงไปตรงมาเพื่อช่วยผู้ชมแก้ปัญหาความงามเฉพาะตัว ซึ่งก่อนหน้านี้ชยธรจะใส่ลิงก์สินค้าลงในกล่องคำอธิบายของทุกวิดีโอเป็นประจำอยู่แล้ว แต่หลังจากที่โปรแกรมแอฟฟิลิเอต YouTube Shopping เปิดตัว ชยธรก็ได้ปรับกลยุทธ์โดยการเน้นแท็กคำแนะนำสินค้าโดยตรงไปยังหน้าสินค้าบน Shopee พร้อมทั้งขยายหมวดหมู่สินค้านอกเหนือจากของตัวเองไปยังสินค้าข้ามหมวด เช่น ไดร์เป่าผม อาหารเสริม และผลิตภัณฑ์ความงามอื่นๆ และจากการเติบโตของยอดขายในไตรมาสนี้ การแท็กสินค้าด้วยความละเอียดในวิดีโอเก่าและใหม่หลายๆ ชิ้น ช่วยให้ชยธรเพิ่มยอดคลิกและยอดขายได้มากขึ้นจากจำนวนสินค้าที่ถูกแท็ก
ภัฎฎารินธ์ อิงคุลานนท์ ช่อง ตู้ซ่อนหมี เป็นช่องที่เน้นคอนเทนต์แนววาไรตี้ที่เต้มไปด้วยด้วยสีสันและพลังบวก ด้วยรูปแบบรายการที่หลากหลาย ทั้งเกมโชว์ และการตอบคำถามทายใจ ทายเพลง ทายภาพคนดัง หรือชาร์เลนจ์สนุกๆ มากมาย พร้อมเชิญแขกที่มาร่วมสร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันช่องมีผู้ติดตามกว่า 4 แสนคน และยังเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง
ความโดดเด่นของช่อง “ตู้ซ่อนหมี” ไม่ได้อยู่แค่ในความสนุกสนาน แต่ยังอยู่ที่พลังของคอนเทนต์ที่สามารถ “ฮีลใจ” ผู้ชมได้อย่างไม่รู้ตัว หลายเสียงจากคอมเมนต์สะท้อนให้เห็นว่าการได้รับชมคอนเทนต์ของตู้ซ่อนหมีช่วยคลายความรู้สึกแย่ๆ ทำให้ใจเบาขึ้น และกลับมามองโลกในมุมที่สดใสกว่าเดิม เพราะเชื่อว่า “ความสุขเริ่มต้นจากภายใน” ตู้ซ่อนหมีจึงไม่เพียงมอบความบันเทิง แต่ยังสร้างพื้นที่ปลอดภัยที่ช่วยให้ผู้ชมได้รักตัวเองมากขึ้น ดูแลใจตัวเองก่อนที่จะพลังนั้นสะท้อนออกมาสู่การดูแลตัวเองภายนอก ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ บุคลิก หรือแม้แต่การใช้ชีวิตประจำวัน
นอกจากนี้ การเชื่อมโยงอย่างจริงใจระหว่างช่องและผู้ชม คือจุดแข็งสำคัญที่ทำให้เมื่อมีการแนะนำผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์ใดๆ ผู้ชมจึงรู้สึกถึงความจริงใจ ไม่ใช่แค่การขาย แต่มันคือการแบ่งปันสิ่งดีๆ ที่อย่างส่งต่ออย่างแท้จริง
กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของช่อง Archita Station และ ingck อยู่ที่การสร้างสรรค์เนื้อหาวิดีโอที่สะท้อนชีวิตประจำวันของผู้ชมได้อย่างกลมกลืน โดยนำเสนอในรูปแบบคำแนะนำที่น่าสนใจ เช่น เนื้อหาที่ใช้ชื่อว่า Favourite of the Year, Best of 2024 และ Vlog ประจำวัน ที่มีการใช้ผลิตภัณฑ์ในแต่ละตอน ซึ่งได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจเป็นอย่างดี ครีเอเตอร์ได้ใช้ความเชี่ยวชาญและให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์แก่ผู้ชมผ่านการถ่ายทอดสดยังเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการสร้างความเชื่อมโยงกับผู้ชมอีกด้วย เช่นเดียวกับช่อง ตู้ซ่อนหมี ที่โดดเด่นด้วยการนำเสนออย่างจริงใจและเป็นตัวของตัวเอง จนทำให้การแนะนำผลิตภัณฑ์เป็นไปได้อย่างธรรมชาติ และสามารถสร้างความไว้วาวใจจนเกิดการตัดสินใจซื้อสินค้าได้อย่างแท้จริง
กลยุทธ์ของทั้ง 3 ช่องไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มยอดรับชมและรายได้เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้แบรนด์ยังสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ชมที่สนใจผลิตภัณฑ์อยู่แล้ว รวมถึงดึงดูดกลุ่มเป้าหมายใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การตัดสินใจซื้อที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
YouTube จึงไม่ใช่แค่แพลตฟอร์มสำหรับความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งข้อมูล ข่าวสาร และยังเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างความน่าเชื่อถือในเรื่องของผลิตภัณฑ์ให้กับแบรนด์อีกด้วย โดยจากตัวเลขเมื่อปีที่แล้ว ผู้คนทั่วโลกใช้เวลากว่า 3 หมื่นล้านชั่วโมง ในการรับชมวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับการช้อปปิ้งบน YouTube สะท้อนถึงบทบาทที่เติบโตของแพลตฟอร์มนี้ในโลกของอีคอมเมิร์ซอย่างต่อเนื่อง