จากจุดเริ่มต้นในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ในตลาดกลุ่มลักชูรี ตั้งแต่แบรนด์บ้านเดี่ยวระดับอัลตราลักชูรี สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส (Santiburi The Residences) ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง มาจนถึงโครงการระดับพรีเมียมลักชูรี สริน ราชพฤกษ์-สาย 1 (S’RIN Ratchaphruek-Sai 1) ที่สิงห์ เอสเตท ได้รับความไว้วางใจ ด้วยยอดการจองเกินกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ แม้จะเป็นครั้งแรก
ที่เข้ามาพัฒนาโครงการในกรุงเทพฯ โซนตะวันตก จึงเป็นที่มาของการพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง “สริน พรานนก-กาญจนา” (S’RIN Prannok-Kanchana) โครงการบ้านเดี่ยวบนที่ดิน 56 ไร่ จำนวน 81 หลัง ขนาดที่ดิน 125-287 ตร.ว. มีพื้นที่ใช้สอยให้เลือกถึง 3 ขนาด ราคาเริ่มต้นที่ 45 ล้านบาท ที่ไม่เพียงโดดเด่นในด้านของดีไซน์เท่านั้น แต่แนวคิดเบื้องหลังของการพัฒนาโครงการ ยังมีความน่าสนใจมากมาย ทั้งในแง่ของสุนทรียภาพของการอยู่อาศัยที่สร้างแรงบันดาลใจ และส่งเสริมพลังขับเคลื่อนชีวิต ตลอดจนศิลปะการเชื่อมโยงทุกความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว

“Prime Location” จากกลยุทธ์หลักสู่การพัฒนาโครงการบนถนนตัดใหม่

โซนกรุงเทพฯ ตะวันตกกำลังเป็นที่จับตามองในวงการอสังหาริมทรัพย์ ด้วยศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถนนพระเทพตัดใหม่ หรือ ถนนพรานนก-พุทธมณฑล สาย 4 เป็นโครงการก่อสร้างถนนตัดใหม่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (ฝั่งธนบุรี) โดยต่อขยาย ถนนพรานนก จากสามแยกไฟฉาย ไปบรรจบถนนพุทธมณฑล สาย 4 กลายเป็นถนนหลักที่สำคัญ อีกหนึ่งเส้นทางเมื่อประเมินจากราคาที่ดินที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นบทพิสูจน์ว่าที่ดินริมถนนพระเทพตัดใหม่เป็นที่ต้องการและกำลังจะได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วแน่นอน การเลือกทำเลสำหรับโครงการ “สริน พรานนก-กาญจนา” จึงสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ของสิงห์ เอสเตท ซึ่งจากการวิเคราะห์ตลาดอย่างละเอียดพบว่า กลุ่มลูกค้าเป้าหมายในพื้นที่นี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจที่มีกำลังซื้อสูง มีครอบครัวขยายหรือครอบครัวใหญ่ ต้องการที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ขนาดของบ้าน และพื้นที่ใช้สอยอย่างสมบูรณ์นั่นเอง

“Infinite Living” บ้านเป็นพื้นที่รองรับทุกความต้องการในชีวิต เพื่อการเติบโตอย่างไม่สิ้นสุด

โครงการ “สริน พรานนก-กาญจนา” ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย อย่างตรงจุด ด้วยการผสมผสานระหว่างความสง่างามและฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน บนที่ดินขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับธรรมชาติและพื้นที่สีเขียว สามารถรองรับความต้องการของสมาชิกในครอบครัวที่มีหลากหลายเจเนอเรชัน ซึ่งโครงการ สริน พรานนก-กาญจนา ได้นิยามให้บ้านไม่เพียงแต่เป็นที่อยู่อาศัยแต่ยังเป็นพื้นที่แห่งการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยการออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านให้รองรับการทำกิจกรรมร่วมกันของสมาชิกในบ้าน

“Mediterranean Revival” ความงามนิรันดร์ที่ถูกส่งมอบจากรุ่นสู่รุ่น

ด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อความต้องการของการอยู่อาศัยในที่อยู่อาศัยระดับลักชูรี โครงการ “สริน พรานนก-กาญจนา” ได้พัฒนาโครงการอย่างประณีต และใส่ใจทุกรายละเอียด โดยนำอินไซต์พฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย มาประยุกต์รวมกับแนวคิดในการออกแบบสถาปัตยกรรม “Mediterranean Revival” ที่นำเอากลิ่นอายดีไซน์บ้านแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมาใช้ในโครงการ เป็นการสร้างบรรยากาศที่สวยงาม อบอุ่น ในขณะเดียวกันก็เปี่ยมไปด้วยความสง่างาม ตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของครอบครัวใหญ่ ที่มีสมาชิกหลายเจเนอเรชัน ให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลระหว่างพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่ส่วนตัวสำหรับทุกคนในครอบครัว

ย้ำจุดแข็งด้วยความร่วมมือกับแบรนด์เฟอร์นิเจอร์หรูระดับโลก

จาก Mediterranean Revival ที่ให้การใช้ชีวิตในบ้านกลมกลืนไปกับธรรมชาติ ด้วยการออกแบบแปลนบ้านในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของสิงห์ เอสเตท สร้างพื้นที่ส่วนกลางและส่วนตัวที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตสำหรับสมาชิกทุกเจเนอเรชัน ซึ่งถูกถ่ายทอดความสวยงาม ผ่านบรรยากาศภายในโครงการ ไปจนถึงดีไซน์ของบ้านที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นเมื่อได้ร่วมมือกับ Quattro Design คัดสรร Eichholtz แบรนด์เฟอร์นิเจอร์หรูระดับโลก มาผสมผสานความงามของสถาปัตยกรรมภายนอกเข้ากับการตกแต่งภายในได้อย่างลงตัว จากแนวคิด “Craft to Last” ของสิงห์ เอสเตท ที่ให้ความสำคัญกับความประณีตในทุกรายละเอียดของการพัฒนาโครงการ ที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นจุดยืนร่วมกันกับแบรนด์ Eichholtz ที่สะท้อนความใส่ใจ ประณีต พิถีพิถัน ในการส่งมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่มีระดับ เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของการเป็น “Mastering The Luxury” ของสิงห์ เอสเตทเช่นกัน

ภายใต้วิสัยทัศน์ “Entrusted and Value Enricher” มุ่งสร้างคุณค่าและการเติบโตอย่างยั่งยืน การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) (SET: S) บริษัทผู้พัฒนาและลงทุน
ในอสังหาริมทรัพย์ระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน จึงยึดมั่นหลักการพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างใส่ใจ ทุกรายละเอียดเพื่อคุณค่าแห่งการอยู่อาศัยที่สามารถส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดนั่นเอง