เอสซีจี โดยศาณิต เกษสุวรรณ ผู้อำนวยการ-ธุรกิจสัมพันธ์และพัฒนาอย่างยั่งยืน ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ร่วมกับลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ภาคีเครือข่าย และจิตอาสา ดำเนินกิจกรรม “เฉลิมราชย์ราชา จิตอาสารักษ์น้ำ” จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “เฉลิมราชย์ราชา” เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในมหามงคลสมัยที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร จะทรงประกอบการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
โดยได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ชุมชน และเครือข่ายจิตอาสา ปลูกต้นไม้จากภูผาสู่มหานที ภายใต้กิจกรรม “เฉลิมราชย์ราชา จิตอาสารักษ์น้ำ” จังหวัดตรัง ด้วยการปลูกหญ้าทะเล 2,000 ต้น ในพื้นที่ 2 ไร่ และปลูกป่าโกงกางอีก 300 ต้น ในพื้นที่ 2 ไร่ ณ ชุมชนบ้านมดตะนอย ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง
จากเดิมที่ได้ร่วมกับชุมชนตั้งแต่ปี 2559 ในการปลูกหญ้าทะเลไปแล้วกว่า 14,000 ต้น ในพื้นที่ 15 ไร่ และปลูกป่าชายเลนไปแล้วกว่า 1,400 ต้น ในพื้นที่ 15 ไร่ โดยใช้พันธุ์หญ้าทะเลจากการเพาะพันธุ์ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงปลากระชัง บ้านพรุจูด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง
และในปี 2562 นี้ เมื่อชุมชนเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของพันธุ์หญ้าทะเลและป่าโกงกาง จึงเริ่มเพาะพันธุ์ขึ้นเองจากภูมิปัญญาชุมชน ผนวกกับองค์ความรู้ที่ได้มาจากการศึกษาดูงานที่มูลนิธิอันดามัน กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงปลากระชังบ้านพรุจูด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง
นอกจากนี้ เอสซีจียังได้ร่วมกับชุมชนบ้านมดตะนอย และหน่วยงานจากภาครัฐ ดูแลระบบนิเวศและอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง ด้วยการวางบ้านปลาที่หล่อขึ้นจากนวัตกรรมปูนเอสซีจี (ปูนคนใต้) ที่มีคุณสมบัติแข็งแรง และทนต่อซัลเฟตและคลอไรด์จากน้ำทะเล เพิ่มอีก 20 หลัง จากเดิมที่วางไปแล้วจำนวน 320 หลัง ตั้งแต่ปี 2560 เพื่อใช้เป็นแหล่งอนุบาลสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล โดยมีภาคการศึกษาเป็นเครือข่ายที่จะช่วยวัดผลสำเร็จของโครงการอนุรักษ์ชายฝั่งอย่างยั่งยืน
เอสซีจียังคงมุ่งมั่นสร้างเครือข่ายจิตอาสาทั่วประเทศ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของชุมชนและภาคีเครือข่ายเป็นหัวใจสำคัญ พร้อมเชิญชวนทุกภาคส่วนให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “เฉลิมราชย์ราชา” ผ่านการดำเนิน 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ กิจกรรม “เฉลิมราชย์ราชา จิตอาสาบรรเทาภัยแล้ง” กิจกรรม “เฉลิมราชย์ราชา จิตอาสารักษ์น้ำ” และกิจกรรม “เฉลิมราชย์ราชา จิตอาสาพัฒนาโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชทั่วไทย”
เพื่อสร้างพลังที่เข้มแข็ง อันจะนำไปสู่การผลักดันสังคม และชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และสามารถพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งช่วยขับเคลื่อนประเทศให้เกิดความยั่งยืน และสร้างโลกที่น่าอยู่สำหรับคนรุ่นต่อไป