เมื่อวันที่ 11-13 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา คณะผู้บริหารระดับสูงของบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM นำโดยคุณทองอุไร ลิ้มปิติ ประธานกรรมการ และ ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมสำนักงานจังหวัดขอนแก่น เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากพนักงาน แก้ไขปัญหาในการทำงาน และกำหนดทิศทางธุรกิจร่วมกัน ภายใต้ค่านิยม "TOUCH" ที่พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร ได้ให้แนวทางในการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด “Resilience and Transformation” หรือ "ความยืดหยุ่นพร้อมการปรับเปลี่ยน" โดยมุ่งเน้นเสริมความแข็งแกร่งใน 3 ด้านหลัก ดังนี้:
1. ธุรกิจ (Business): พลิกโฉมเพื่อสร้างผลกำไร
BAM มุ่งเน้นการสร้างพันธมิตรด้าน NPA (สินทรัพย์รอการขาย) ด้วยกลยุทธ์ “หมุนเร็ว แบ่งกำไร” เพื่อเปลี่ยนทรัพย์ที่ไม่ได้ใช้งานให้กลายเป็นทรัพย์ที่สร้างกำไร และเป็นทางเลือกใหม่สำหรับนักลงทุน นอกจากนี้ ยังเร่งพัฒนา "TDR Factory" หรือ "โรงงานแก้หนี้" เพื่อปรับปรุงกระบวนการแก้หนี้ให้เป็นระบบ จัดกลุ่มลูกหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ และเสริมทัพด้วย "FA Center" ที่เปรียบเสมือน "หมอหนี้" ช่วยเหลือลูกหนี้ชั้นดีให้กลับมาดำเนินธุรกิจได้
2. กระบวนการ / เทคโนโลยีสารสนเทศ (Process / IT): ลงทุนเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด BAM ได้ลงทุนพัฒนา AI Digital Transformation (BAM D) เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจมากยิ่งขึ้น รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการทำงานให้กระชับและรวดเร็วขึ้น พร้อมกำหนดมาตรฐานการให้บริการ (SLA) เพื่อลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น
3. บุคลากร (People): สร้างความเชื่อมั่นและพัฒนาศักยภาพ
BAM ให้ความสำคัญกับการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้น มุ่งเน้นการบริการที่ตอบโจทย์ทั้งลูกหนี้และลูกค้า พร้อมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการด้วยระบบ Flexi (BAM Care) ที่ยืดหยุ่น
ในช่วงที่ผ่านมา BAM ได้ร่วมมือกับพันธมิตรด้านอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง เพื่อเร่งระบายทรัพย์ NPA โดยมีเป้าหมายที่จะได้รับเงินสดเข้ามาได้เร็วขึ้น และลดระยะเวลาการถือครองสินทรัพย์จาก 8 ปี ให้เหลือเพียง 3.5 - 4.2 ปี
ดร.รักษ์ ยังได้กล่าวถึงเป้าหมายในการสร้าง "TDR Factory" หรือ "โรงงานแก้หนี้" ที่จะใช้ AI และระบบ Automation ในการสร้างเงื่อนไขการปรับโครงสร้างหนี้ที่รัดกุม ตรงจุด รวดเร็ว และลดการใช้วิจารณญาณในการแก้หนี้ นอกจากนี้ BAM ยังพร้อมร่วมมือกับพันธมิตรจัดตั้ง "FA Center" ที่จะดูแลลูกหนี้ชั้นดี และหารือกับบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (NCB) เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ AMC ชั้นดีให้กลับคืนสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
ในส่วนของการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าและลูกหนี้ BAM ได้พัฒนา BAM Choice Application ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยสามารถจองซื้อทรัพย์ ตรวจสอบยอดหนี้ ชำระหนี้ และประนอมหนี้ได้ในแอปเดียว รวมถึงเมนู BAM Select ที่ช่วยให้ลูกค้าค้นหาทรัพย์ได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น
BAM ยังให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตที่ดีของพนักงาน โดยได้จัดทำโครงการความร่วมมือกับโรงพยาบาลชั้นนำ เพื่อให้พนักงานสามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลโดยไม่ต้องสำรองจ่าย และเปิดช่องทาง "BAM Voice" เพื่อให้พนักงานสามารถสื่อสารกับผู้บริหารระดับสูงได้อย่างปลอดภัย ภายใต้ค่านิยม "TOUCH" ที่ประกอบด้วย Trust (ไว้ใจ), Openmind (เปิดใจ), Unity (รวมใจ), Customer Centric (ใส่ใจ) และ High Performance (ทุ่มสุดใจ)
นอกจากการเตรียมความพร้อมทางธุรกิจแล้ว การลงพื้นที่ในครั้งนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข ภายใต้แนวคิด "เราไม่ใช่ทีมเดียวกัน เพียงเพราะเราทำงานที่เดียวกัน พวกเราเป็นทีม ก็เพราะเราเคารพ เชื่อใจ ห่วงใยซึ่งกันและกัน" ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ BAM ที่จะก้าวไปสู่เป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น หลังจากที่สามารถทำรายได้ทะลุหมื่นล้านแรกไปแล้ว และพร้อมที่จะทะยานสู่หมื่นล้านที่ 2 อย่างมั่นคง.