ซิตี้แบงก์ ประเทศไทย เปิด 6 เทรนด์สำคัญที่ภาคธุรกิจทั่วโลก—including ไทย—ต้องจับตาและปรับตัว พร้อมแนะโซลูชันการเงินที่ช่วยให้ธุรกิจยังสามารถ “คว้าโอกาสได้ แม้ท่ามกลางวิกฤต”
จากบทวิเคราะห์ Global Trade in Transition: Tariffs Reshape Supply Chains, Strategy, and Financing ของซิตี้ พบว่าไม่เพียงแต่จีนและเวียดนามที่ได้รับผลกระทบจากกำแพงภาษีใหม่ ประเทศในห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก—รวมถึงไทย—ต่างเผชิญแรงกดดันต้นทุนที่สูงขึ้น ทั้งในภาคยานยนต์ เทคโนโลยี เกษตร และโลจิสติกส์
องค์กรจึงต้องปรับเกมด้วย 6 แนวทางสำคัญ ได้แก่
ลงทุน FDI ในสหรัฐฯ
ขยายฐานการผลิตไปยังสหรัฐ เพื่อลดความเสี่ยงด้านภาษีนำเข้าและต้นทุนขนส่ง
ย้ายฐานการผลิตบางส่วนไปประเทศที่ภาษีต่ำ
แต่ต้องประเมินความเสี่ยงระยะยาว เพราะระดับภาษีมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงได้ตลอด
เพิ่มกำลังการผลิตในโรงงานเดิม
ใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานเดิมให้เต็มที่ ลดการลงทุนก้อนใหญ่
กระจายซัพพลายเออร์
ลดการพึ่งพาแหล่งเดียว เพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดซื้อวัตถุดิบ
เร่งสต็อกสินค้าในคลัง
สำรองสินค้าไว้ล่วงหน้า ลดความเสี่ยงการขาดตลาดหากภาษีเพิ่มขึ้น
รัดเข็มขัด รักษาสภาพคล่อง
เตรียมรับแรงกดดันจากต้นทุนที่สูงขึ้น และความผันผวนของยอดขาย
แม้ภาพรวมจะเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่นางสาว นฤมล จิวังกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย ชี้ว่า "องค์กรที่มีพันธมิตรทางการเงินที่เข้าใจความเปลี่ยนแปลง สามารถบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังสามารถมองเห็นโอกาสในการเติบโตในตลาดใหม่"
ซิตี้แบงก์จึงเสนอเครื่องมือทางการเงินเพื่อช่วยบริหารกระแสเงินสดและบริหารความเสี่ยง อาทิ
Payables Finance และ Accounts Receivable
ช่วยบริหารเจ้าหนี้-ลูกหนี้ เพิ่มสภาพคล่อง ลดภาระเงินสดก้อนใหญ่
Letters of Credit (LC)
ลดความเสี่ยงในการชำระเงิน รับประกันการค้าในภาวะที่ตลาดผันผวน
Trade & Working Capital Loans
สินเชื่อเพื่อการค้าระหว่างประเทศ ช่วยให้ธุรกิจมีทุนหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง
ด้วยเครือข่ายของซิตี้ที่ครอบคลุมกว่า 180 ประเทศ ธนาคารจึงสามารถเชื่อมโยงธุรกิจไทยกับตลาดโลกได้อย่างไร้รอยต่อ พร้อมให้ข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยให้ตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้แม่นยำขึ้น
ซิตี้แบงก์มองว่า ในวิกฤตย่อมมีโอกาสสำหรับองค์กรที่พร้อมปรับตัว ไม่ว่าจะเป็นการย้ายฐานการผลิตบางส่วนเพื่อเลี่ยงภาษี การสำรองสินค้าเพื่อบริหารต้นทุน หรือแม้กระทั่งการขยายไปสู่ตลาดใหม่ที่ได้รับประโยชน์จากโครงสร้างภาษีใหม่
ในสถานการณ์เช่นนี้ องค์กรที่มี แผนบริหารสภาพคล่องและกลยุทธ์ทางการเงินที่ยืดหยุ่น จะเป็นผู้ได้เปรียบ และสามารถสร้างการเติบโตสวนกระแสโลกได้จริง
“สงครามภาษี” รอบใหม่ เปลี่ยนเกมธุรกิจโลกอย่างถาวร องค์กรที่เพียง “ตั้งรับ” อาจไม่พอ แต่ต้องรู้จัก “ปรับตัวเชิงรุก” ใช้เครื่องมือทางการเงินช่วยเสริมสภาพคล่อง บริหารความเสี่ยง และวางกลยุทธ์การลงทุนอย่างยืดหยุ่น ซึ่งซิตี้แบงก์พร้อมเป็นพันธมิตรทางการเงินที่ช่วยองค์กรไทยก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปสู่โอกาสใหม่บนเวทีโลก