ธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower (CKP) เปิดเผยว่า
ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 และครึ่งปีแรกของปี 2568 บริษัทและบริษัทย่อยมีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน (Core Net Profit) ในงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 จำนวน 416.3 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 509.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 548.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตนี้ มาจากปริมาณน้ำที่ไหลผ่านโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี ซึ่งมีปริมาณเฉลี่ยสูงกว่าปีก่อน ประกอบกับต้นทุนทางการเงินของบริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด (XPCL) ที่ลดลงตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยโลก ทำให้บริษัทรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมสูงขึ้นอย่างมาก
นอกจากนี้ ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอ่างเก็บน้ำของโรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำงึม 2 (NN2) ก็สูงกว่าปีก่อนถึง 45.2% ส่งผลให้ NN2 สามารถผลิตและขายไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้น แม้ว่ารายได้จากค่าไฟฟ้าจะลดลงเล็กน้อยเนื่องจากการแข็งค่าของเงินบาท
สำหรับแนวโน้มในครึ่งปีหลัง นายธนวัฒน์มั่นใจว่า ผลการดำเนินงานจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากคาดการณ์ว่าในไตรมาส 3 จะมีปริมาณน้ำไหลเข้าโรงไฟฟ้าพลังน้ำทั้งสองแห่งเพิ่มมากขึ้นตามฤดูกาล
ขณะเดียวกัน การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ และของประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา จะช่วยลดต้นทุนดอกเบี้ยโดยรวมของบริษัท ด้านความคืบหน้าของโครงการไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง (LPCL) ก็เป็นไปตามแผน โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2568 การก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วกว่า 53%
ในส่วนของฐานะทางการเงิน CKPower ยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวมอยู่ที่ระดับต่ำเพียง 0.56 เท่า สะท้อนให้เห็นถึงสถานะทางการเงินที่มั่นคงและความสามารถในการบริหารจัดการสภาพคล่องอย่างมีประสิทธิภาพ
CKPower ยังคงมุ่งมั่นที่จะเพิ่มสัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ทั้งพลังงานน้ำและพลังงานแสงอาทิตย์ ควบคู่ไปกับการพัฒนานวัตกรรมเพื่อลดการใช้พลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้า เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593
เกี่ยวกับ CKPower (CKP) CKPower เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในภูมิภาค มีโรงไฟฟ้าหลากหลายประเภท รวม 18 แห่ง คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งรวม 3,640 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังน้ำ 3 แห่ง, โรงไฟฟ้าระบบโคเจนเนอเรชั่น 2 แห่ง และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 13 แห่ง