เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยรายใหญ่ของไทย จับมือกับ ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA ผู้นำด้านนวัตกรรมสีและวัสดุก่อสร้างรักษ์โลก เดินหน้าภารกิจสู่ Net Zero ร่วมกันยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ผ่านบ้านยุคใหม่ที่คำนึงถึงสุขภาพ ผสานแนวคิด Green Living และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

พันธกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม–สุขภาพ

นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง เปิดเผยว่า บริษัทให้ความสำคัญต่อการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเลือกสรรวัสดุและอุปกรณ์ก่อสร้างที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อโลก พร้อมผนึกกำลังกับ TOA เพื่อสร้างบ้านที่ดูแลผู้อยู่อาศัยอย่างครบวงจร ตั้งแต่กระบวนการออกแบบจนถึงการใช้งานจริง เพื่อส่งต่อประโยชน์โดยตรงให้กับครอบครัวไทย ทั้งเรื่องสุขภาพ ความปลอดภัย และคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน

TOA เดินเกม ESG “7-GREEN”

ด้าน นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TOA ระบุว่า ปัจจุบันกระแส Green Living ได้รับความสำคัญทั้งในไทยและต่างประเทศ TOA จึงเดินหน้าภายใต้พันธกิจ พิชิต Net Zero และกลยุทธ์ 7-GREEN ครอบคลุมตั้งแต่การวิจัย พัฒนา ผลิต ขนส่ง ไปจนถึงการใช้งานจริง โดยมุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรม

ปัจจุบัน TOA ได้รับการรับรอง ฉลากลดโลกร้อน (Carbon Footprint Reduction) มากที่สุดในอุตสาหกรรม รวมกว่า 133 ผลิตภัณฑ์ ทั้งสีทาอาคารและแผ่นยิปซัม และในปีนี้เพียงปีเดียวมีการรับรองใหม่ถึง 91 ผลิตภัณฑ์ สะท้อนบทบาทผู้นำด้านนวัตกรรมสีรักษ์โลกที่จับต้องได้

นวัตกรรมสี–ลดร้อน ประหยัดไฟ ปลอดภัยต่อสุขภาพ

หนึ่งในผลิตภัณฑ์เด่นที่ใช้ในโครงการของเอ็น.ซี. คือ สีทาผนังภายนอก TOA ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Super UV Block ช่วยสะท้อนความร้อนได้มากกว่า 95% ลดอุณหภูมิผนังได้กว่า 5 องศาเซลเซียส ช่วยลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศและประหยัดค่าไฟ นอกจากนี้ยังเป็น สีปลอดสารปรอทและตะกั่ว มีคุณสมบัติ Ultra Low VOCs และสามารถทำลายเชื้อโคโรนาไวรัสได้มากกว่า 99.6% ภายใน 30 นาที ตอบโจทย์ทั้งสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้อยู่อาศัย

การจับมือกันครั้งนี้ระหว่าง เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง และ TOA ไม่ได้เป็นเพียงการพัฒนาที่อยู่อาศัย แต่เป็นการสร้าง พันธมิตรสีเขียว (Green Partnership) ที่มุ่งขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของทั้งอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และวัสดุก่อสร้าง นำพาไปสู่สังคมที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า

นี่คือ โมเดลธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ที่สะท้อนการผนึกพลังขององค์กรไทยในการสร้างบ้านที่ไม่ใช่แค่ “ที่อยู่อาศัย” แต่คือการอยู่ร่วมกับโลกอย่างสมดุลและยั่งยืน