นายกรกช สงวนปิยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WAVE BCG เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับการขึ้นทะเบียนหน่วยตรวจรับรองอย่างเป็นทางการ พร้อมบุคลากรที่ผ่านการรับรองเป็น Auditor ตามมาตรฐาน Green Hotel Plus สามารถให้บริการครบวงจร ตั้งแต่การเป็นที่ปรึกษา จัดทำแผนงาน ไปจนถึงตรวจประเมินและชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผ่านกลไกคาร์บอนเครดิตและใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (RECs)
“เป้าหมายของเราชัดเจน คือการผลักดันให้โรงแรมและรีสอร์ตในภูเก็ตไม่น้อยกว่า 600 แห่ง ผ่านการรับรอง Green Hotel Plus ภายในไตรมาสแรกของปี 2569 เพื่อเตรียมความพร้อมต้อนรับการเป็นเจ้าภาพจัดประชุม Global Sustainable Tourism Conference 2026” นายกรกช กล่าว
มาตรฐาน Green Hotel Plus ไม่เพียงยกระดับภาพลักษณ์ด้านสิ่งแวดล้อมของสถานประกอบการ แต่ยังช่วยลดต้นทุนด้วยการใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์แนวทางการดำเนินธุรกิจที่ต้องสอดคล้องกับข้อกำหนดความยั่งยืนของสหภาพยุโรป (EU) ที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งถือเป็นแรงกดดันสำคัญให้ผู้ประกอบการโรงแรมไทยต้องเร่งปรับตัว
นายกรกชย้ำว่า การขับเคลื่อนโรงแรมสู่ Green Hotel Plus ไม่สามารถสำเร็จได้เพียงลำพังผู้ประกอบการ แต่ต้องได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและสถาบันการเงิน เพื่อช่วยลดอุปสรรคและต้นทุนในการปรับตัว โดย WAVE BCG จะเริ่มจากโครงการนำร่องในภูเก็ต เช่น Phuket Sandbox ก่อนขยายสู่จังหวัดท่องเที่ยวหลักและเมืองรองทั่วประเทศ
การได้รับการรับรอง Green Hotel Plus จะช่วยให้ธุรกิจโรงแรมไทยรักษาขีดความสามารถการแข่งขัน และตอบสนองต่อกระแสการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่เติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการและเสริมความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยอย่างยั่งยืน