“ดุสิตธานี” ตั้งชนินทธ์ โทณวณิก ควบกรุ๊ปซีอีโอ สานต่อภารกิจใหญ่ หลังศุภจีรับตำแหน่ง รมว.พาณิชย์
13 Sep 2025


"ดุสิตธานี" ส่งไม้ต่อผู้นำคนใหม่ มั่นใจรากฐานแข็งแกร่ง พร้อมปลดล็อกกำไรครั้งประวัติศาสตร์ ชนินทธ์ โทณวณิก ขึ้นควบกรุ๊ปซีอีโอ สานต่อภารกิจใหญ่ หลังคุณศุภจี  สุธรรมพันธุ์ ตอบรับนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีพาณิชย์

 

 

การเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของ ดุสิตธานี (DUSIT) กำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด เมื่อคณะกรรมการดุสิตธานี มีมติแต่งตั้ง นายชนินทธ์ โทณวณิก รักษาการประธานกรรมการ ขึ้นนั่งควบตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม (Group CEO) ต่อจาก นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ที่ขอเกษียณก่อนครบวาระ เพื่อรับบทบาทใหม่ในฐานะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล

แม้เป็นการเปลี่ยนผู้นำระดับสูงในจังหวะหัวเลี้ยวหัวต่อ แต่ฝ่ายบริหารย้ำว่า “ทุกอย่างยังเดินหน้าตามรากฐานเดิมที่ถูกวางไว้อย่างมั่นคง” ทั้งโครงการลงทุนขนาดใหญ่และแผนการพลิกผลประกอบการเข้าสู่บวกในปี 2569

 

ความเชื่อมั่นและรากฐานของดุสิตธานี

นายชนินทธ์ โทณวณิก รักษาการประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี กล่าวว่า “บริษัทรู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจที่ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ได้รับโอกาสอันสำคัญในการทำงานเพื่อประเทศชาติ พร้อมขอบคุณในความทุ่มเทและวิสัยทัศน์ที่ได้วางรากฐานให้กลุ่มดุสิตธานีเติบโตอย่างแข็งแกร่งตลอดที่ผ่านมา เราพร้อมต้อนรับการกลับมาเสมอ และขออวยพรให้เธอประสบความสำเร็จในภารกิจอันทรงเกียรติ เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชนอย่างยั่งยืน”

 

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ กล่าวว่า “ตลอดเกือบ 10 ปีที่ดำรงตำแหน่งซีอีโอดุสิตธานี ถือเป็นเกียรติที่ได้มีส่วนผลักดันแบรนด์ไทยสู่เวทีโลก ดิฉันขอขอบคุณผู้ถือหุ้น กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกค้า และคู่ค้าที่ร่วมฝ่าฟันวิกฤติและสร้างการเติบโตให้บริษัทอย่างแข็งแกร่ง แผนการดำเนินธุรกิจในทุกเสาหลัก ทั้งโรงแรม การศึกษา อาหาร อสังหาริมทรัพย์ รวมถึงโครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค มูลค่ากว่า 46,000 ล้านบาท ยังคงเดินหน้าตามรากฐานที่วางไว้อย่างมั่นคง ทีมบุคลากรคุณภาพจะเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนต่อไป

สิ่งที่ดิฉันส่งต่อให้ผู้บริหารและพนักงาน คือการเติบโตที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของดุสิตธานี ไม่ว่าปัจจัยท้าทายใดๆ โครงสร้างองค์กร ธุรกิจ และการเงินจะรองรับได้อย่างมั่นคง ดิฉันเชื่อมั่นว่าดุสิตธานีจะยืนหยัดเป็นแบรนด์ไทยระดับโลกได้อย่างยั่งยืน”

 



 

จากขาดทุนสะสม…สู่ปีแห่ง “กำไรที่รอปลดล็อก”

ในเชิงตัวเลข ดุสิตธานี ยังมีความท้าทาย โดยบันทึกผลขาดทุนสะสมกว่า 1,000 ล้านบาท และงดจ่ายปันผลตลอด 5 ปีที่ผ่านมา แต่ในทางกลับกัน รายได้รวมเพิ่มสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จาก 5,370 ล้านบาท (ปี 2557) สู่ 11,204 ล้านบาท (ปี 2567) และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง

จุดเปลี่ยนสำคัญที่จะสะท้อนชัดในปี 2569 คือ การโอนโครงการ Dusit Residences มูลค่ากว่า 16,000 ล้านบาท ซึ่งขายไปแล้วกว่า 90% คาดว่าปี 2569 จะเป็นปีแห่งการโอนหนาแน่น คิดเป็นกว่า 80% ของยูนิตทั้งหมดราว 400 ยูนิต ขณะเดียวกัน ธุรกิจโรงแรมกว่า 50 แห่งทั่วโลกก็จะทยอยสร้างรายได้เสริม

 

ชนินทธ์ โทณวณิก กล่าวว่า “สิ่งที่เราเผชิญในช่วงโควิด-19 หรือการลงทุนโครงการใหญ่ ไม่ได้ทำให้ดุสิตธานีอ่อนแอ แต่กลับทำให้เราแข็งแรงขึ้น วันนี้การโอนยูนิตและการเปิดโรงแรมใหม่กำลังจะสร้างรายได้ก้อนใหญ่ ทำให้เรามั่นใจว่าผลประกอบการปี 2569 จะเป็นจุดเริ่มต้นของกำไรครั้งประวัติศาสตร์ขององค์กร”

 

 

ขยายจาก 2 ธุรกิจ…สู่โครงสร้างใหม่ 5 ธุรกิจหลัก

กว่า 10 ปีที่ผ่านมา ดุสิตธานี ไม่ได้เป็นเพียงเครือโรงแรม แต่ขยายพอร์ตธุรกิจสู่ 5 ธุรกิจหลัก ได้แก่

  • ธุรกิจโรงแรมและวิลล่า : จาก 27 แห่ง ขยายสู่ 297 แห่ง ครอบคลุม 18 ประเทศ
  • ธุรกิจการศึกษา : โรงเรียนสอนการโรงแรมและพัฒนาบุคลากร ป้อนคนสู่ตลาดโลก
  • ธุรกิจอาหาร : โรงแรมไทยรายแรกที่ได้ มิชลินสตาร์
  • ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ : โครงการ Dusit Central Park มูลค่า 46,000 ล้านบาท
  • ธุรกิจใหม่ Sport & Learning Integration : พื้นที่กีฬาผสมการเรียนรู้ ตอบโจทย์ทุกเจเนอเรชัน

ผู้บริหารกล่าวว่า “เราสร้าง Balance ของพอร์ตธุรกิจให้หลากหลาย ลดการพึ่งพาโรงแรมเพียงอย่างเดียว เพื่อให้โครงสร้างแข็งแรงพอรับแรงกระแทกจากวิกฤตในอนาคต”

 

 

ความเชื่อมั่นนักลงทุน–รางวัลการันตีระดับโลก

แม้ตัวเลขกำไรสุทธิยังไม่กลับมา แต่ ดุสิตธานี ยังคงได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ BBB- แนวโน้มคงที่ โดย ทริสเรทติ้ง และคว้ารางวัลระดับนานาชาติ เช่น Michelin Key และ Travel + Leisure Luxury Awards สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและการยอมรับในเวทีโลก

บริษัทให้ความสำคัญกับบุคลากรกว่า 20,000 คนทั่วโลก โดยช่วงโควิด-19 ไม่เคยมีนโยบายปลดพนักงาน แต่กลับลงทุนต่อเนื่องใน “ทุนมนุษย์” เพื่อให้พร้อมฟื้นตัวเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย

 

 

การเปลี่ยนผ่านจาก ศุภจี สู่ ชนินทธ์ จึงไม่ใช่การเริ่มต้นใหม่ แต่เป็น การส่งไม้ต่อบนรากฐานที่แข็งแรง เพื่อก้าวสู่ระยะต่อไปของการเติบโต ไม่เพียงในแง่รายได้และกำไร แต่รวมถึง คุณค่าที่ส่งต่อสู่สังคม และการยืนหยัดในฐานะแบรนด์ไทยที่เป็นที่ยอมรับบนเวทีโลก

 

ดุสิตธานีพิสูจน์ให้เห็นว่า “ความท้าทายทางการเงิน” ไม่ได้สะท้อนความเป็นจริงของศักยภาพองค์กร หากแต่เป็นเพียงช่วงรอยต่อก่อนการเติบโตครั้งใหม่ ภายใต้รากฐานที่แข็งแรง การลงทุนเชิงกลยุทธ์ และการสร้างคนที่พร้อมขับเคลื่อนแบรนด์ไทยสู่เวทีโลก

นี่คือช่วงเวลาที่ดุสิตธานีกำลังจะเปลี่ยน “ภาระขาดทุน” ให้กลายเป็น “พลังเติบโต”

 


ลิงค์ข่าวที่เกี่ยวข้อง : https://www.marketplus.in.th/content/detail.php?id=35454


ลิงค์ข่าวที่เกี่ยวข้อง : https://www.marketplus.in.th/content/detail.php?id=35218


 

[อ่าน 297]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไอคอนสยาม x HEYONE เนรมิต “HEYDAY PLAYLAND” Pop-up คาแรกเตอร์ใหญ่สุดริมเจ้าพระยา ถึง 9 ต.ค. 68
The 1 Point Festival 2025 กลับมายิ่งใหญ่ แจก 100 ล้านคะแนน พร้อมลุ้นทองทั่วประเทศ
เอเซอร์ เปิดตัวศูนย์บริการ “HSNT พระราม 3” โฉมใหม่
Solo Dining ครั้งแรก! บาร์บีคิวพลาซ่า สาขาเซ็นทรัล พาร์ค ได้ใจคนเมืองเกินคาด
TOA ผนึกบริษัทบริหารอาคารชั้นนำทั่วไทย จัดสัมมนาใหญ่ ยกระดับความปลอดภัย-ฟื้นฟูอาคารจากภัยพิบัติ
ATLAS ผนึก PTG ปั๊มแลนด์มาร์กใหม่ “PT Max Rest” ยกระดับสถานีบริการน้ำมันพีที และก๊าซ LPG
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved