นายอรรณพ ศิริติกุล Country Director ของ Google Cloud ประเทศไทย กล่าวว่า การโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ยังเป็นภัยไซเบอร์อันดับต้น ๆ ที่สร้างความเสียหายให้กับองค์กรทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่มีอัตราการตรวจจับได้ด้วยตนเองต่ำ ระบบใหม่นี้จึงถูกออกแบบเพื่อ “สร้างเกราะป้องกันอีกชั้น” ช่วยผู้ใช้และองค์กรตรวจจับความผิดปกติของไฟล์ได้อัตโนมัติ ก่อนที่ไวรัสจะเข้ารหัสและทำลายข้อมูลสำคัญ
AI ของ Google Drive จะเรียนรู้จากตัวอย่างแรนซัมแวร์นับล้านรูปแบบ เพื่อวิเคราะห์และตรวจจับพฤติกรรมที่บ่งชี้ถึงการโจมตี เช่น การเข้ารหัสไฟล์จำนวนมากในเวลาอันสั้น เมื่อระบบตรวจพบกิจกรรมต้องสงสัย จะ หยุดการซิงก์ไฟล์กับระบบคลาวด์โดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟล์ที่ติดไวรัสแพร่กระจายไปยังอุปกรณ์อื่น
จากนั้น ผู้ใช้จะได้รับการแจ้งเตือนพร้อมคำแนะนำในการกู้คืนไฟล์ที่ถูกเข้ารหัส ซึ่งสามารถทำได้ผ่านหน้าเว็บของ Google Drive อย่างง่ายดาย ต่างจากการใช้เครื่องมือกู้คืนแบบเดิมที่ต้องอาศัยขั้นตอนซับซ้อนและค่าใช้จ่ายสูง
ระบบใหม่นี้ยังมอบข้อมูลแจ้งเตือนให้ผู้ดูแลระบบในคอนโซลของ Google Workspace เพื่อให้สามารถติดตาม ตรวจสอบ และควบคุมการป้องกันภัยได้อย่างรอบด้าน โดยความสามารถทั้งหมดจะเปิดใช้งาน อัตโนมัติในลูกค้า Google Workspace โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
Google ระบุว่าการอัปเดตนี้เป็นหนึ่งในมาตรการรักษาความปลอดภัยระดับองค์กรที่รวมอยู่ใน Google Drive และ Workspace ซึ่งครอบคลุมกว่า 11 ล้านองค์กรทั่วโลก และมีผู้ใช้งานมากกว่า 3 พันล้านคน
เทคโนโลยีดังกล่าวเริ่มเปิดให้ใช้งานแล้วในเวอร์ชันเบต้าแบบเปิดสำหรับ Windows และ macOS โดยคาดว่าจะช่วยลดผลกระทบจากแรนซัมแวร์ในภาคธุรกิจ การศึกษา และหน่วยงานภาครัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเปิดตัวระบบ AI ป้องกันแรนซัมแวร์ของ Google Drive ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับความปลอดภัยของข้อมูลในยุคที่ภัยไซเบอร์ทวีความซับซ้อนมากขึ้น ไม่เพียงช่วยให้องค์กรป้องกันการสูญเสียข้อมูล แต่ยังตอกย้ำบทบาทของ Google ในฐานะผู้นำด้านความปลอดภัยบนคลาวด์ระดับโลก