งานครั้งนี้ไม่เพียงสร้างแรงบันดาลใจให้คนวัย 40+ เท่านั้น แต่ยังเปิดพื้นที่ให้คนทุกวัยเรียนรู้ต่อยอดศักยภาพอย่างต่อเนื่อง นางสาวกานติมา เลอเลิศยุติธรรม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านธุรกิจองค์กร เอไอเอส เน้นย้ำว่า การสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และเป็นพลังสำคัญในการเปลี่ยน “ภาระ” ให้กลายเป็น “พลัง” ขับเคลื่อนสังคมไทยสู่อนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน
“ภารกิจคิดเผื่อ” พลังแห่งความร่วมมือเพื่ออนาคตสังคมไทย
นางสาวกานติมา เลอเลิศยุติธรรม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านธุรกิจองค์กร เอไอเอส กล่าวว่า
งานนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีแห่งการเรียนรู้ครบวงจร ที่มุ่งส่งต่อแรงบันดาลใจและทักษะดิจิทัลให้คนไทยพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง
“เรามองว่าการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ใช่เพียงการอบรมความรู้ แต่คือการเปิดพื้นที่ให้คนไทยทุกวัยได้เรียนรู้ เตรียมพร้อม และต่อยอดโอกาสในชีวิตอย่างต่อเนื่อง”
กิจกรรมไฮไลต์ในปีนี้คือ JUMP THAILAND Hackathon 2025 เวทีประกวดนวัตกรรมภายใต้โจทย์ “เทคโนโลยียุค AI เพื่อเพิ่มศักยภาพให้ผู้สูงอายุและคนพิการมีงานทำและรายได้อย่างยั่งยืน” ซึ่งจัดขึ้นร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้รับความสนใจจากเยาวชนทั่วประเทศกว่า 1,100 คน จาก 295 ทีม 55 สถาบัน
เมื่อทีม “อุ่นใจอาสา” ของเอไอเอสเข้ามาช่วยเสริมด้วยความรู้ด้านเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มสมัยใหม่ จึงเกิดเป็น 10 ผลงานนวัตกรรมต้นแบบที่สามารถนำไปใช้ได้จริง เช่น อุปกรณ์ IoT สำหรับผู้สูงอายุทำงานประมงได้สะดวกขึ้น, เทคโนโลยีช่วยคนพิการทางการได้ยินไลฟ์ขายของ หรือเครื่องมือฝึกนวดแผนไทยสำหรับคนตาบอด
ทีมชนะเลิศ ได้แก่ Teletubbies จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี คว้าถ้วยพระราชทานฯ และเงินรางวัลรวม 120,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 ทีม “ตัวจี๊ดพร้อมจั๊มพ์” จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และรองชนะเลิศอันดับ 2 ทีม “Eye Touch” จากจุฬาฯ และเกษตรศาสตร์ ซึ่งทั้งหมดสะท้อนศักยภาพของเยาวชนไทยในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสังคม
ทั้งนี้สำหรับผู้สนใจสามารถชมผลงานนวัตกรรมกรรมของน้องๆ นิสิต นักศึกษา ทั้ง 10 ทีม ของโครงการ JUMP THAILAND Hackathon 2025 ได้ที่ www.jumpthailand.com และ Facebook: Jump Thailand
“JUMP THAILAND ไม่ใช่แค่การแข่งขัน แต่คือเวทีที่พิสูจน์ว่า เมื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงศักยภาพ ความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ก็เกิดขึ้นได้จริง” --นางสาวกานติมากล่าวทิ้งท้าย
AIS ACADEMY for THAIs มากกว่าการเรียนรู้ คือการเปลี่ยนชีวิต
นางสาวกานติมา กล่าวเพิ่มว่า เป้าหมายของ AIS Academy ไม่ใช่เพียงสร้างองค์ความรู้ แต่คือ “การเปลี่ยนมุมมองชีวิต” ของคนไทย โดยเฉพาะวัย 40+ ที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยเกษียณ
“เราอยากให้คนตระหนักและเตรียมพร้อม ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ การเงิน หรือจิตใจ เพราะเมื่อถึงวัยอิสระ เราไม่อยากให้ใครรู้สึกว่าเป็นภาระของครอบครัวหรือสังคม แต่กลับกลายเป็นพลังสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนประเทศได้”
กิจกรรม Life Fest 40+ – เติมพลังชีวิตในทุกมิติ
ภายในงานแบ่งออกเป็นหลายโซนสำคัญ เช่น
ทุกกิจกรรมจึงไม่เพียงสร้างแรงบันดาลใจ แต่ยังเปิดมุมมองใหม่ว่า “เทคโนโลยีดิจิทัล” คือพลังที่เปลี่ยนชีวิตได้จริง
ความยั่งยืนที่เกิดจากหัวใจของคนไทยทุกคน
ปัจจุบัน AIS ACADEMY for THAIs มีสมาชิกกลุ่มผู้เรียนรู้ทั่วประเทศกว่า 100,000 คน โดยแต่ละปีจะจัดกิจกรรมในภูมิภาคต่างๆ เช่น ขอนแก่นและเชียงใหม่ พร้อมต่อยอดองค์ความรู้ผ่านช่องทางออนไลน์ทั้ง TikTok และ YouTube เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้
นางสาวกานติมา กล่าวทิ้งท้ายว่า “เรามีความตั้งใจจริงที่จะเห็นคนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะองค์กรจะเติบโตได้ สังคมต้องไม่หยุดโต”
จากเวทีเรียนรู้ของคนวัย 40+ สู่การแข่งขัน Hackathon ของคนรุ่นใหม่ AIS ACADEMY for THAIs จึงกลายเป็นต้นแบบของการสร้างระบบนิเวศแห่งการเรียนรู้ ที่เปิดโอกาสให้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเยาวชน คนทำงาน หรือผู้สูงวัย ได้พัฒนาศักยภาพของตัวเอง เพื่อร่วมกันสร้างสังคมไทยที่แข็งแรง มั่นคง และยั่งยืนอย่างแท้จริง