ในยุคที่ “การเดินทาง” ไม่ได้เป็นเพียงการพักผ่อนอีกต่อไป แต่คือการแสวงหาความหมายในชีวิต ล่าสุด Trip.com Group ผนึกกำลังกับ Google เผยรายงานระดับโลก “Why Travel?” เพื่อสำรวจแรงจูงใจและแนวโน้มการเดินทางของผู้คนทั่วโลก โดยอ้างอิงข้อมูลการจองจากเครือ Trip.com Group ผสานกับเทรนด์การค้นหาของ Google พบว่า นักท่องเที่ยวยุคใหม่กำลังมองหาประสบการณ์ที่สะท้อน “ตัวตน จุดมุ่งหมาย สุขภาพ ความสัมพันธ์ และเทคโนโลยี” ที่ช่วยให้ทุกทริปมีความหมายมากกว่าที่เคย
1. การเดินทางเพื่อแสดงออกถึงตัวตน (Travel as Expression)
โซเชียลมีเดียกลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในไทย อินโดนีเซีย และอินเดีย นักท่องเที่ยวกว่า 75% รับชมคอนเทนต์ไลฟ์สตรีมเกี่ยวกับการท่องเที่ยว และกว่า 40% มีแนวโน้มจองทริปผ่านลิงก์จากไลฟ์สตรีมโดยตรง สะท้อนว่า “แรงบันดาลใจ” และ “ความเป็นตัวเอง” กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางยุคใหม่
2. การเดินทางเพื่อจุดมุ่งหมายที่มีความหมาย (Travel with Purpose)
นักเดินทางยุคนี้ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมและพิธีกรรมดั้งเดิมอย่างลึกซึ้ง เช่น การค้นหา “พิธีชงชาญี่ปุ่น” ใน Google ที่เพิ่มขึ้นถึง 53% แสดงถึงความต้องการเดินทางเพื่อเติมเต็มประสบการณ์ทางจิตใจและความเข้าใจในรากวัฒนธรรม
3. การเดินทางเพื่อสุขภาพและการฟื้นฟู (Travel to Heal)
เทรนด์ Wellness Tourism ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งกิจกรรมออกกำลังกายและสปารีสอร์ท การค้นหา “กอล์ฟและรีสอร์ทสปา” เพิ่มขึ้น 300% และ “สกีและสปา” เพิ่มขึ้นถึง 250% แสดงให้เห็นว่านักเดินทางมองหาทริปที่ผสมผสานความผ่อนคลายกับการดูแลสุขภาพ
4. การเดินทางเพื่อเชื่อมโยงผู้คน (Travel to Connect)
การเดินทางกลายเป็นวิธีเชื่อมความสัมพันธ์ ทั้งในครอบครัวและคอมมูนิตี้ โดย 2 ใน 3 ของนักท่องเที่ยวพร้อมเดินทางข้ามประเทศเพื่อชมคอนเสิร์ตหรือร่วมกิจกรรมกีฬา ขณะเดียวกัน “Endurance Tourism” เช่น การวิ่ง ปั่นจักรยาน และการแข่งขัน Hyrox เพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า
5. การเดินทางแห่งอนาคตด้วยพลังของ AI (Travel of Tomorrow)
เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยวางแผนทริปมากขึ้น การค้นหา “ช่วยวางแผนการเดินทาง (Help planning my trip)” เพิ่มขึ้นถึง 190% โดย Google ยกตัวอย่างเครื่องมืออย่าง Gemini, AI Mode บน Search และ Google Translate ที่ช่วยให้การเดินทางราบรื่นและเข้าใจภาษาท้องถิ่นมากขึ้น
เฝิง หาน รองประธาน Trip.com Group กล่าวว่า
“การท่องเที่ยวในปี 2026 จะไม่ใช่เพียงการไปถึงจุดหมาย แต่คือการค้นหาความหมายผ่านการเดินทาง เราเห็นนักท่องเที่ยวบินข้ามโลกเพื่อร่วมมาราธอน ชิมอาหารท้องถิ่น หรือแม้แต่จองทริปผ่านโซเชียลมีเดีย”
ด้าน จอยส์ จาง จาก Google เสริมว่า
“AI กำลังเปลี่ยนวิธีคิดของนักเดินทาง เครื่องมือใหม่ของ Google ช่วยให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและพันธมิตรอย่าง Trip.com Group เข้าใจผู้บริโภคเชิงลึก และคว้าโอกาสใหม่ทางธุรกิจในปี 2026 และต่อเนื่อง”
Trip.com Group เตรียมพัฒนาแพ็กเกจ “ทัวร์คอนเสิร์ตแบบครบวงจร” และขยายเครื่องมือ AI อย่าง Trip.Planner เพื่อช่วยนักท่องเที่ยวสร้างทริปที่ตรงใจยิ่งขึ้น ในอนาคต “การเดินทาง” จะไม่ใช่แค่การไปถึงที่หมาย แต่คือ “การออกแบบประสบการณ์ชีวิต” ที่ผสานความต้องการ ความเป็นตัวเอง และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน
#TripdotcomGroup #Google #WhyTravel #TravelTrends2026 #MarketPlus #TravelWithPurpose #AITravel