
โทมัส วิลสัน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่า
ธุรกิจยูนิตลิงค์ของอลิอันซ์ อยุธยาได้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) สูงถึง 71% และมียอดเบี้ยประกันภัยปีแรกกว่า 259 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 ขณะที่สัดส่วนยอดขายยูนิตลิงค์ในพอร์ทช่องทางตัวแทน เพิ่มขึ้นจาก 4% เป็น 10% ภายในเวลาสามปีที่ผ่านมา
ซึ่งถือเป็นพัฒนาการที่สะท้อนถึงศักยภาพและความแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์นี้ของ อลิอันซ์ อยุธยาอย่างแท้จริง โดยปัจจัยสำคัญที่ผลักดันความสำเร็จของเรา คือการเติบโตและพัฒนาศักยภาพของตัวแทนให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงินมืออาชีพอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันเรามีตัวแทนที่ได้รับใบอนุญาต IC มากถึงกว่า 1,656 คน จากการลงทุนในด้านความรู้ การฝึกอบรม และระบบสนับสนุนที่ช่วยให้ที่ปรึกษาทางการเงินของเราสามารถให้คำแนะนำที่มีคุณภาพและสอดคล้องกับเป้าหมายของลูกค้าแต่ละราย รวมทั้งการมีผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ในสถานการณ์เศรษฐกิจที่ท้าทาย

“อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ คือ การมีกองทุนที่หลากหลาย ตอบโจทย์การจัดพอร์ตที่สมดุลกับระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมของลูกค้าแต่ละรายด้วยผลิตภัณฑ์ยูนิตลิงค์ วันนี้ จึงถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสอันดี ที่อลิอันซ์ อยุธยา ได้เปิดตัว 5 กองทุนใหม่ ผ่านความร่วมมือกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนชั้นนำของประเทศ ได้แก่ บลจ.ไทยพาณิชย์, บลจ.ยูโอบี บลจ.กรุงศรี และบลจ.พรินซิเพิล เพื่อเพิ่มทางเลือกการลงทุนที่ครอบคลุมในหลากหลายสินทรัพย์
โดย 5 กองทุนใหม่ ได้แก่

กองทุนตราสารหนี้ทั่วโลก
กองทุนหุ้นต่างประเทศ
กองทุนทอง
● SCBGOLD (SCB Gold Fund) ลงทุนใน SPDR Gold Trust ซึ่งถือทองคำแท่งจริง เหมาะสำหรับการกระจายความเสี่ยงพอร์ตในช่วงเศรษฐกิจผันผวน โดยราคาทองมักปรับขึ้นเมื่อดอกเบี้ยลดลงหรือเงินเฟ้อสูง
การเพิ่มกองทุนใหม่ ครั้งนี้ สะท้อนถึงจุดแข็งของอลิอันซ์ อยุธยาในการสร้างพอร์ตการลงทุนที่สมดุล หลากหลาย และเชื่อมโยงกับตลาดทั่วโลก เพื่อให้ลูกค้าสามารถออกแบบแผนยูนิตลิงค์ได้ตามเป้าหมายและระดับความเสี่ยงของตนเองอย่างแท้จริง





