
พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า “การที่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ได้เล็งเห็นความสำคัญของกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนและในพื้นที่ห่างไกลบ้าน การสนับสนุนในครั้งนี้ไม่เพียงเสริมความคล่องตัวในการปฏิบัติหน้าที่ แต่ยังเป็นการส่งต่อกำลังใจอันล้ำค่าให้แก่ผู้เสียสละที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจปกป้องผืนแผ่นดินไทย เป็นเครื่องสะท้อนถึงน้ำใจจากภาคเอกชนที่ร่วมยืนเคียงข้างกองทัพไทยในภารกิจเพื่อความมั่นคงของชาติอย่างแท้จริง ความร่วมมือในลักษณะนี้คือพลังที่ทำให้สังคมไทยแข็งแกร่งและงดงามยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมจะดำเนินการจัดสรรระบบสื่อสารดังกล่าวให้กับกองบัญชาการกองทัพไทยและเหล่าทัพ เพื่อนำไปมอบแก่กำลังพลในพื้นที่ชายแดนต่อไป พร้อมยืนยันว่า กำลังพลทุกนายจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่น เพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศและความสงบสุขของประชาชนไทย”
นายวรุณเทพ วัชราภรณ์ หัวหน้าฝ่ายงานรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “เอไอเอส ในฐานะผู้ให้บริการโครงข่ายอัจฉริยะ ตระหนักถึงความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน ซึ่งต้องห่างไกลครอบครัวเพื่อพิทักษ์อธิปไตยและความสงบสุขของชาติ ตลอดมาเรามุ่งมั่นสนับสนุนทุกภารกิจของกระทรวงกลาโหม โดยขยายโครงข่ายให้รองรับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ พร้อมสนับสนุนระบบสื่อสารแก่กำลังพล 30,000 นาย ภายใต้แนวคิด “เอไอเอสเชื่อมกำลังใจ แด่ทหารไทยในแนวหน้า” เพื่อให้กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนและในพื้นที่ห่างไกลบ้านได้รับพลังใจจากทุกข้อความและทุกสายสนทนา ผ่านเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อมั่นคงไร้รอยต่อจากเอไอเอส
ทั้งนี้ เอไอเอสจะเดินหน้าเคียงข้างกระทรวงกลาโหมอย่างต่อเนื่อง ยกระดับโครงข่ายให้ครอบคลุมและมั่นคงยิ่งขึ้น เสริมสวัสดิการสื่อสารสำหรับกำลังพล และขยายโอกาสดิจิทัลสู่พื้นที่ห่างไกล เพื่อให้กำลังพลและครอบครัวอุ่นใจบนเครือข่ายคุณภาพที่ครอบคลุมที่สุดของประเทศ พร้อมร่วมยกระดับมาตรฐานความมั่นคงและคุณภาพชีวิตของคนไทยอย่างยั่งยืน”





