ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จับมือ พันธมิตรธุรกิจ ยกระดับการอยู่อาศัยภายใต้แนวคิด “LALIN Living Ecosystem” สู่ประสบการณ์ใหม่ของชีวิตในสังคมคุณภาพ
02 Nov 2025

 

ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ต่อยอดกลยุทธ์การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบภายใต้วิสัยทัศน์  “บ้านที่คิดมาจากชีวิตจริง” ด้วยการผสานความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจชั้นนำจากหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์อยู่อาศัยแบบครบวงจร ตอบโจทย์ทั้งความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และคุณภาพชีวิตของลูกบ้าน ผ่านการบูรณาการระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) เข้ากับระบบบริหารประสบการณ์ลูกค้า (CEM) อย่างเป็นเอกภาพ ภายใต้แนวคิด “LALIN Living Ecosystem” ระบบนิเวศการอยู่อาศัยที่มุ่งยกระดับมาตรฐานการใช้ชีวิตให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

 

 

นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ (LALIN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี’ เปิดเผยว่า

“การร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจของ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้าง ‘สังคมคุณภาพแห่งการอยู่อาศัย’ ที่ยั่งยืนให้แก่ลูกบ้าน เราให้ความสำคัญในการคัดสรรพันธมิตรบนพื้นฐานของความเชี่ยวชาญ มาตรฐาน และความสอดคล้องด้านวิสัยทัศน์ที่มีร่วมกัน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยตั้งแต่วันแรกที่ย้ายเข้าอยู่จนถึงทุกช่วงของการใช้ชีวิตในภายในโครงการโดยบริษัทฯให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบ CRM (Customer Relationship Management) และ CEM (Customer Experience Management) เพราะเชื่อมั่นว่า 2 กลยุทธ์นี้ คือ

‘หัวใจ’ ของการเข้าใจลูกค้าเชิงลึกและสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน โดยมองว่า CRM เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์และบริหารข้อมูลและพฤติกรรมของลูกค้าอย่างเป็นระบบ ขณะที่ CEM คือกระบวนการสร้างประสบการณ์ที่ดี และต่อเนื่องในทุกจุดสัมผัสของแบรนด์ ทั้งสองกลยุทธ์จึงเป็นฐานข้อมูลและกลไกสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้ตรงตามความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น

การเชื่อมโยงกลยุทธ์ CRM และ CEM เข้ากับเครือข่ายพันธมิตร จึงเป็นการสร้างระบบนิเวศธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบใหม่ ที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่   การขายที่อยู่อาศัย แต่ขยายไปถึงการสร้างความสัมพันธ์และคุณค่าในระยะยาว ซึ่งเป็นสิ่งที่ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ดำเนินการมาตลอด เพื่อส่งมอบการดูแล ความเข้าใจความต้องการ และเติบโตไปพร้อมกันกับลูกค้าในทุกช่วงเวลา

 

โดยกลยุทธ์ความร่วมมือในครั้งนี้ของ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ มุ่งสร้างระบบนิเวศการอยู่อาศัยแบบครบวงจร (Integrated Living Ecosystem) ผ่านการเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตรหลักจากหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นให้แก่ลูกบ้านอย่างครบครัน อาทิ กลุ่มSmart Living & Technology Partners ที่ร่วมส่งมอบเทคโนโลยีสมาร์ทโฮมและบริการดิจิทัลภายในบ้าน เช่น แอปพลิเคชัน MonoMax ที่เติมเต็มความบันเทิงและช่วงเวลาผ่อนคลายของครอบครัว

ขณะเดียวกันยังมีกลุ่ม Lifestyle & Health Partners ที่มอบสิทธิพิเศษด้านสุขภาพจากโรงพยาบาลชั้นนำ อาทิ โรงพยาบาลเปาโล และ โรงพยาบาลพญาไท เพื่อสนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อยู่อาศัย

นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม Home Care & Maintenance Partners ที่ให้บริการวัสดุและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านจากแบรนด์ ชั้นนำ ได้แก่ HomePro, MegaHome, Index Living Mall และ NocNoc รวมถึงกลุ่ม Automotive & Mobility Partners อย่าง B-Quik ที่ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการดูแลและซ่อมบำรุงรถยนต์

และกลุ่ม Shopping & Travel Partners ประกอบด้วย Tops Online, King Power, Pet and Me, Sprinkle และ Gother ที่มอบสิทธิพิเศษในโลกแห่งการช้อปปิ้งและการท่องเที่ยวให้แก่ลูกบ้านของ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ภายใต้แนวคิด “From Home Ownership to Living Experience” ที่มุ่งขยายคุณค่าจากการเป็นเพียงเจ้าของบ้าน ไปสู่การเป็นส่วนหนึ่งของสังคมคุณภาพที่ได้รับการดูแลอย่างรอบด้าน ทั้งก่อนซื้อ ระหว่างอยู่อาศัย และหลังการขาย

 

ทั้งนี้ ภายใต้การขับเคลื่อนแนวคิด LALIN Living Ecosystem บริษัทฯ ตั้งเป้าในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็งและยืดหยุ่น เพื่อรองรับพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตมากยิ่งขึ้น โดยจะเดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์ม CRM-CEM ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าแบบ 360 องศา เพื่อเชื่อมต่อบริการและสิทธิประโยชน์ในอนาคตอย่างต่อเนื่อง

“ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยุคใหม่ต้องไม่หยุดอยู่ที่การส่งมอบบ้าน แต่ต้องส่งมอบ ‘คุณค่าของการใช้ชีวิต’ เราจึงตั้งใจสร้างระบบนิเวศที่ทำให้ลูกบ้านรู้สึกถึงความใส่ใจในทุกวัน การพัฒนากลยุทธ์ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของการยกระดับองค์กรสู่ยุค Data-Driven Real Estate อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการต่อยอดระบบข้อมูล CRM ให้เชื่อมโยงกับพันธมิตรทุกกลุ่ม เพื่อสร้างฐานข้อมูลเชิงพฤติกรรม (Behavioral Analytics) ที่มีความแม่นยำและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อพัฒนาบริการและสิทธิประโยชน์แบบ Personalization ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มอย่างตรงตามต้องการ นับเป็นการพลิกบทบาทจาก “การขายบ้าน” สู่ “การสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัย” ที่มีคุณค่ายิ่งขึ้น” นายชูรัชฏ์ กล่าวสรุป

 


สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ www.lalinproperty.com

หรือ โทร.1778 ทั้งนี้เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

[อ่าน 151]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กิฟท์ เฟอร์ทิลิตี้ ตอกย้ำความเป็นผู้นำ คว้ารางวัลระดับสากลและในประเทศ ชูธงมุ่งเน้นพัฒนามาตรฐานการดูแลรักษาผู้มีบุตรยากสู่ระดับโลก
เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง เปิดแคมเปญ “Super Save บ้านประหยัดพลังงาน” ชูแนวคิด Smart Eco Home บ้านลดค่าไฟ–อยู่สบาย–รักษ์โลก
ผู้ถือหุ้น “แม็คกรุ๊ป” ไฟเขียวจ่ายปันผลปี 68 หุ้นละ 0.96 บาท จ่ายเต็มแม็กซ์เกือบ 100% ของกำไรสุทธิ
BAM จัดพิธีร่วมน้อมถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
เซ็นทาราร่วมโครงการ “เที่ยวดี มีคืน” มอบสิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุด 30,000 บาท เมื่อใช้บริการห้องพักและห้องอาหารเซ็นทาราทั่วไทย
ร้าน ButterMe Bakery ปักหมุด & แชร์โลเกชั่น ร้านเล็กๆ แต่ไม่ลับสไตล์โฮมเมด…สดใหม่ทุกวัน ย่านอ้อมน้อย
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved