ไทยยูเนี่ยน โกยรายได้ไตรมาส 3/2568 แตะ 3.4 หมื่นลบ. รับกำไรสุทธิปรับปรุง 1,516 ลบ.
03 Nov 2025

 

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,304 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า สะท้อนความสามารถในการทำกำไรต่อเนื่อง แม้ภาวะเศรษฐกิจโลกยังคงมีความท้าทาย โดยมียอดขายรวมอยู่ที่ 34,501 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตของยอดขายแบบ organic sales ได้รับแรงหนุนจากกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแช่แข็ง ขณะที่กำไรสุทธิต่อหุ้นเติบโตเพิ่มขึ้น 12.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน นอกจากนี้ ไทยยูเนี่ยนยังมีกระแสเงินสดแข็งแกร่งต่อเนื่องที่ 4,127 ล้านบาท ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568

 

 

ธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

“ผลประกอบการไตรมาส 3 แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการปรับตัวของไทยยูเนี่ยน ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน เรายังคงเห็นสัญญาณการเติบโต ปริมาณการขายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่งในระดับ 19% สะท้อนว่าเรากำลังดำเนินกลยุทธ์ไปในทิศทางที่ถูกต้อง ทั้งในด้านการเพิ่มความคล่องตัวของการดำเนินงาน การเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลัก และการต่อยอดศักยภาพการแข่งขันของแบรนด์ในพอร์ตทั้งหมดของบริษัท”

 

ในไตรมาส 3 บริษัทมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 6,549 ล้านบาท ปรับตัวลดลงเล็กน้อยเนื่องจากกำไรขั้นต้นในไตรมาส 3 ของปี 2567 นั้นอยู่ในระดับสูงเป็นพิเศษ โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งมีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการบริหารพอร์ตผลิตภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพและต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์น้ำที่ลดลง ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทนั้นอยู่ที่ 19% ซึ่งอยู่ในกรอบเป้าหมายที่ 18.5–19.5%

กำไรสุทธิปรับปรุง (ไม่รวมค่าใช้จ่ายด้าน Transformation) อยู่ที่ 1,516 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิตามที่ประกาศนั้นอยู่ที่ 1,304 ล้านบาท โดยได้รับแรงหนุนจากต้นทุนทางการเงินและภาษีที่ลดลง ซึ่งช่วยบรรเทาแรงกดดันต่ออัตรากำไรและสะท้อนความสามารถของบริษัทในการรับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก

โครงการด้าน Transformation ของบริษัท ซึ่งได้แก่ โปรเจกต์ Sonar และ โปรเจกต์ Tailwind ยังคงเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนกลยุทธ์เพื่อมุ่งสู่ปี 2573 โดยค่าใช้จ่ายจากโครงการดังกล่าวยังส่งผลต่อกำไรในระยะสั้น แต่ไทยยูเนี่ยนคาดว่าค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะทยอยลดลงตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป นอกจากนี้ ไทยยูเนี่ยนยังเดินหน้าปรับโครงสร้างการบริหารงานเพื่อเพิ่มความคล่องตัวและประสิทธิภาพการบริหารจัดการต้นทุนในกระบวนการผลิต การจัดซื้อ และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร โดยตั้งเป้าลดค่าใช้จ่ายสุทธิ 118 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2570

ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจหลักของไทยยูเนี่ยนยังคงแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัว แม้ต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูป ยอดขายลดลง 3.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยน ขณะที่ปริมาณการขายยังทรงตัว

ในส่วนของกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแช่แข็ง ยอดขายเติบโต 5.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงสุดในรอบ 7 ไตรมาสที่ 13.8% ด้วยแรงหนุนจากยอดขายที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในหลายด้าน โดยเฉพาะในกลุ่มอาหารสัตว์น้ำที่ทั้งยอดขายและปริมาณการขายนั้นเติบโต

สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง ยอดขายเติบโต 6.2% ในสกุลเงินบาท และเติบโต 14.2% ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับปีก่อน ด้วยแรงหนุนจากยอดขายในสหรัฐฯ และยุโรปที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

 

สถานะทางการเงินแข็งแกร่ง ระดับ “A+” สะท้อนความเชื่อมั่นต่อเนื่อง

ฐานะการเงินของไทยยูเนี่ยนยังคงแข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Net Interest-Bearing Debt to Equity) อยู่ที่ 1.1 เท่า และมีอัตราหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA อยู่ในระดับที่ 4.7 เท่า สะท้อนความแข็งแกร่งทางการเงินและความสามารถในการปรับตัวของบริษัท ในการขับเคลื่อนการเติบโตสู่อนาคต ทั้งนี้ บริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากทริสเรทติ้งที่ระดับ “A+” ด้วยแนวโน้ม “Stable”

ในปี 2568 ไทยยูเนี่ยนยังสามารถระดมทุนด้าน Blue Finance หรือการบริหารจัดการการเงินเพื่อการทำงานด้านการอนุรักษ์ท้องทะเล มูลค่ารวมกว่า 24,000 ล้านบาท โดยนับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการออกหุ้นกู้แบบผสมผสานระหว่าง Blue Bond และ Sustainability-Linked Bond ภายในธุรกรรมเดียวกัน ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม ด้วยยอดจองซื้อทะลุเป้าถึง 3.68 เท่า ส่งผลให้ไทยยูเนี่ยนสามารถระดมทุนจากแหล่งเงินทุนที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืนได้เกินเป้าหมายปี 2568 ซึ่งกำหนดไว้ที่ 75% ของเงินกู้ยืมระยะยาว และพร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมาย 100% ภายในปี 2573

 

ธีรพงศ์ กล่าวเสริมว่า “เราเดินหน้าสู่การปิดปี 2568 ด้วยความแข็งแกร่ง พร้อมวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับความสำเร็จในปี 2569 ไทยยูเนี่ยนมุ่งลดความซับซ้อนของกระบวนการต่างๆ เพิ่มความคล่องตัวและความรวดเร็วในการทำงาน เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำของโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและโภชนาการเพื่อสุขภาพจากท้องทะเล (Marine Health and Nutrition)”

[อ่าน 163]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“เซ้นส์ มอร์” ผนึก “ช้อปปี้” ปั้นโมเดล Sportainmerce ดึงคนไทยเชียร์เจ้าซีเกมส์ ลุ้นโชคกว่า 35 ล้าน
“ไชยชนก” นำทัพ ดีอี จับมือ Google Cloud เสิร์ฟ Google AI Pro ให้นักศึกษาใช้ฟรี!
คอลแลบข้ามวงการ! จระเข้ คอร์ปอเรชั่น แท็กทีม Renim Project เปลี่ยน “กาวยาแนว” เป็นงานอาร์ตสุดไวรัล
กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ผนึกทรู คอร์ปอเรชั่น เสริมแกร่งมาตรการดูแลความปลอดภัยเชิงรุก
ทีทีบี ผนึก แสนสิริ ออก “สินเชื่อบ้านรักษ์โลก” ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 2.75% ต่อปี
NetApp นำร่องนวัตกรรมใหม่ ผสานระบบตรวจจับการละเมิดข้อมูลในอุตสาหกรรมการจัดเก็บข้อมูลระดับองค์กร
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved