WeTV ประเทศไทย ประกาศแผนกลยุทธ์ธุรกิจปี 2026 ภายใต้แนวคิดการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยกลยุทธ์เน้นที่ “3C” ได้แก่ Content – Connect – Co Create ในงาน “WeTV Always More 2026” โดยมีเป้าหมายในการส่งมอบความบันเทิงคุณภาพสูง พัฒนาประสบการณ์การรับชมแบบครบวงจร และเสริมความแข็งแกร่ง ให้กับระบบนิเวศ (ecosystem) ของ WeTV เพื่อย้ำบทบาทผู้นำแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิงระดับพรีเมียมของเอเชีย พร้อมเปิดตัว “ติง อวี่ซี” นักแสดงชื่อดังจากประเทศจีน ในฐานะโกลบอลแอมบาสเดอร์คนใหม่ของ WeTV ซึ่งสะท้อนถึง การเติบโตของแพลตฟอร์มในฐานะสะพานเชื่อมคอนเทนต์และผู้ชมระหว่างไทยและจีนได้อย่างสมบูรณ์แบบ.

ณัฐพร รุ่งขจรกลิ่น ผู้จัดการ WeTV ประจำประเทศไทย บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า

“ในปี 2025 WeTV ประเทศไทยยังคงครองตำแหน่งผู้นำตลาดสตรีมมิง โดยมียอดดาวน์โหลดกว่า 55 ล้านครั้ง เป็นอันดับ 1 ในกลุ่มบริการแบบโฆษณา (AVOD) และอันดับ 2 สำหรับบริการสมัครสมาชิก (SVOD) โดยมีอัตราการสมัครสมาชิกแบบชำระเงินเพิ่มขึ้น 40% และรายได้จากสมาชิกเติบโตถึง 45% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ผู้ใช้งานใช้เวลาเฉลี่ยบนแพลตฟอร์มราว 100 นาทีต่อวัน ส่งผลให้ WeTV ติดอันดับท็อป 2 แพลตฟอร์ม OTT ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในด้านระยะเวลาการรับชมรายเดือนต่อผู้ใช้หนึ่งคน”

พฤติกรรมของผู้รับชมยังคงสะท้อนถึงความนิยมอย่างต่อเนื่องทั้งคอนเทนต์จีนและไทย โดยยอดสมัคร WeTV VIP (สมาชิกแบบชำระเงิน 50% มาจากผู้ชมซีรีส์จีน และมียอดสมาชิก WeTV VIP เพิ่มขึ้น 54% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ยอดสมัคร WeTV VIP จากผู้ชมคอนเทนต์ไทยอยู่ที่ 30% นำโดยความนิยมในซีรีส์แนว Boy’s Love (BL) และ Girl’s Love (GL) ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลเหล่านี้ยืนยันบทบาทของ WeTV ในฐานะแพลตฟอร์มสตรีมมิงชั้นนำสำหรับแฟนซีรีส์เอเชียคุณภาพในประเทศไทยและทั่วภูมิภาค

สำหรับปี 2026 WeTV ยังคงเร่งขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่:

1. Content Excellence

WeTV จะเดินหน้าผลิตและคัดสรรคอนเทนต์ซีรีส์จีนระดับโลกมากกว่า 500 เรื่อง ครอบคลุมหลากหลายประเภท อาทิ C-Series
C-Miniseries C-Anime C-Variety และ C-Shorts พร้อมต่อยอดความนิยมของ Boy’s Love Original Series อย่างน้อย 6 เรื่อง และ Girl’s Love Exclusive Content อย่างน้อย 8 เรื่อง เพื่อผลักดันให้ WeTV เป็น “The Biggest Hub of Girl’s Love Content” ในประเทศไทย นอกจากนี้ ยังเตรียมร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ผ่าน Licensing และ Revenue Sharing Model เพื่อขยายตลาดคอนเทนต์คุณภาพสู่ตลาดโลก รวมถึงเตรียมคัดสรร Mass Content ทั้งรายการวาไรตี้และละครซีรีส์ที่มีโทนเรื่องราวใกล้ชิดคนไทย เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับผู้ชม

2. Connect Through Experience

WeTV ตั้งเป้ายกระดับการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ผ่านฟีเจอร์ใหม่ในแอปพลิเคชัน และจัดกิจกรรม O2O (Online to Offline) ที่เปิดโอกาสให้แฟน ๆ ได้ใกล้ชิดกับศิลปินและคอนเทนต์ที่ชื่นชอบมากยิ่งขึ้น รวมถึงจัดกิจกรรมแฟนมีตติงกับศิลปินจีนในประเทศไทย ทริปพิเศษสำหรับแฟนคลับไปประเทศจีน และกิจกรรมกับคอมมูนิตีแฟนคอนเทนต์ BL และ GL เพื่อสร้างความผูกพันระหว่างแฟนคลับและส่งเสริมการมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง

3. Co Create to Shared Success

WeTV มุ่งที่จะให้พันธมิตรได้ตอบโจทย์เป้าหมายความสำเร็จทางธุรกิจด้วยกันอย่างสูงสุดและ ยังคงผลักดันคอนเทนต์ไทยในฐานะ Soft Power สู่เวทีโลก โดยเปิดตัวโครงการใหม่ “Shorts x WeTV” เพื่อส่งเสริมครีเอเตอร์และพันธมิตรให้สร้างคอนเทนต์สั้นคุณภาพสูง ตอบโจทย์ผู้ชมยุคดิจิทัลและผลลัพธ์ทางธุรกิจ พร้อมโอกาสในการเผยแพร่ผ่านเครือข่ายระดับโลกของ WeTV ทั้งในจีนและต่างประเทศ นอกจากนี้ ศิลปินในสังกัด HEADLINER THAILAND จะมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงระบบนิเวศ (ecosystem)
ทางธุรกิจของ WeTV กับพันธมิตรด้านครีเอทีฟและเชิงพาณิชย์เพื่อการเติบโต อย่างยั่งยืน ร่วมกันในระยะยาว

“WeTV จะยังคงเสริมความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิงระดับพรีเมียมของเอเชีย ผ่านคอนเทนต์คุณภาพจากไทย,จีน, ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะการขยายฐานผู้ชมทั่วโลก และความร่วมมือที่ยั่งยืนกับพันธมิตรในระบบนิเวศ (ecosystem) ของเรา โดยตั้งเป้าเพิ่มรายได้รวม 20% และยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเติบโต 30% ภายในปี 2026” ณัฐพร กล่าวปิดท้าย