
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) แถลงความคืบหน้ามาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบให้แก่กลุ่มผู้ขับขี่รถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน ภายหลังได้รับหนังสือร้องเรียนเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดย ไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วย มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เร่งประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปลดล็อกข้อจำกัดทางกฎหมายและลดภาระค่าใช้จ่าย ภายใต้นโยบาย Quick Big Win ของ อนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี ซึ่งใช้เวลาเพียง 7 วัน ในการหาข้อยุติและออกเป็น 5 มาตรการสำคัญในการช่วยเหลือไรเดอร์และไดรเวอร์ทั่วประเทศ โดยกำหนดกรอบระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย. 2568-28 ก.พ. 2569
ไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) กล่าวว่า
“ประกาศเรื่องรถรับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (รย.17 และ รย.18) ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ขับขี่กว่า 200,000 รายที่เป็นฟันเฟืองสำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัล กระทรวงฯ รับทราบถึงข้อกังวลและอุปสรรคหน้างาน ทั้งเรื่องเอกสารสิทธิ์ รถติดไฟแนนซ์ ค่าใช้จ่ายประกันภัยที่สูงขึ้น รวมถึงข้อจำกัดทางเทคนิคต่างๆ หลังจากรับข้อร้องเรียนมาแล้ว กระทรวงดีอีจึงไม่ได้นิ่งนอนใจและได้เร่งหารือกับกรมการขนส่งทางบก, ETDA สถาบันการเงิน และภาคเอกชน จนได้แนวทางแก้ไขปัญหาเร่งด่วน 5 มาตรการ เพื่อช่วยปลดล็อกผู้ประกอบอาชีพขับรถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชันให้สามารถเข้าสู่ระบบได้อย่างถูกต้องและเป็นธรรม”

สำหรับ 5 มาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนเพื่อลดภาระและอำนวยความสะดวกให้แก่ไรเดอร์และไดรเวอร์ทั่วประเทศ มีรายละเอียดดังนี้
1. ลงทะเบียนสำหรับรถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชันผ่านช่องทางออนไลน์ ETDA
2. แก้ปัญหาไฟแนนซ์-ลีซซิ่ง-ประกันภัย
3. กระทรวงดีอีเจรจากับกระทรวงคมนาคม แก้ปัญหาล่าช้า ปลดล็อกเงื่อนไขเอกสาร–เครื่องยนต์ ลดภาระการ หาผู้รับรอง
4. พิจารณาแก้กฎหมายให้นำรถเช่ามาให้บริการสาธารณะผ่านแอปพลิเคชันได้
5. มาตรการมอบเงินสนับสนุนพิเศษ

นอกจากนี้ยังมีแนวทางในการเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลแพลตฟอร์มผู้ให้บริการ หากพบผู้ให้บริการรายใดไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือปล่อยปละละเลยให้รถที่ผิดกฎหมายและไม่ได้จดทะเบียนเป็นรถสาธารณะมาวิ่งให้บริการ กระทรวงดีอีพร้อมดำเนินการทันที
ไชยชนก กล่าวทิ้งท้ายว่า “กระทรวงดีอีขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการช่วยกันหาทางออก จนได้ข้อสรุปที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมในระยะเวลาอันสั้น เป้าหมายของเราชัดเจนคือการคุ้มครองแรงงานดิจิทัลให้มั่นคง ควบคุมแพลตฟอร์มให้โปร่งใส และดูแลผู้ใช้บริการให้ได้รับความเป็นธรรม โดยกระทรวงดีอีจะเร่งเครื่องติดตามความคืบหน้าและขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป”





