
ภาพรวมงวด 9 เดือนปีนี้ EGCO ทำรายได้รวม 29,126 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 5,078 ล้านบาท จากการดำเนินงานที่แข็งแรงของโรงไฟฟ้าหลายแห่ง รวมถึงผลจากกลยุทธ์ Asset Recycling ที่บริหารสินทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลดล็อกมูลค่าจากโครงการที่ถึงจุดคุ้มค่า และหมุนเงินไปต่อยอดโครงการที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า
ไตรมาส 3 เองแม้กำไรสุทธิจะถูกกดดันจากปัจจัยอัตราแลกเปลี่ยน แต่เมื่อพิจารณา “แกนหลักของธุรกิจ” จะพบว่าบริษัทมีรายได้รวม 6,928 ล้านบาท และกำไรจากการดำเนินงาน 844 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนคุณภาพของพอร์ตโรงไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพสูง โดยมีโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว—ทั้งเขื่อนไฟฟ้า น้ำเทิน 2 และ ไซยะบุรี—เป็นฐานรายได้สำคัญ ขณะที่โรงไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์ ต่างทำผลงานสอดคล้องกับเป้าหมาย
เดินหน้าขยายพอร์ตโรงไฟฟ้า
นายธวัชชัย สำราญวานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO Group ระบุว่า การกระจายพอร์ตโรงไฟฟ้าในหลายตลาดกำลังกลายเป็น “แต้มต่อเชิงยุทธศาสตร์” ช่วยให้บริษัทรับมือความผันผวนทางเศรษฐกิจ–ภูมิรัฐศาสตร์ได้ดีกว่าผู้เล่นที่พึ่งพาตลาดเดียว
“ ตลาดพลังงานกำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ความเสี่ยงไม่ได้มาจากต้นทุนพลังงานอย่างเดียวอีกต่อไป แต่รวมถึงความต้องการไฟฟ้าใหม่ๆ จาก Data Center, AI และอุตสาหกรรมที่ต้องการไฟฟ้าคุณภาพสูง การมีพอร์ตกระจายหลายภูมิภาคทำให้ EGCO บริหารความเสี่ยงได้ดีขึ้น และสามารถคว้าโอกาสใหม่ได้เร็วกว่าเดิม "
บริษัทจึงกำลังก้าวสู่ยุค “ขยายพอร์ตแบบเจาะจง” คือไม่ใช่การลงทุนเพิ่มแบบกระจายตัวทั่วไป แต่เป็นการเลือกลงทุนในตลาดที่มีอุปสงค์พุ่งสูงและให้ผลตอบแทนคุ้มค่าในระยะยาว
สหรัฐอเมริกา: New Growth Base—ดีมานด์พุ่งแรงจาก Data Center และ AI
ปีนี้ EGCO เร่งเดินเกมรุกในสหรัฐฯ ซึ่งถูกมองว่าเป็น “ตลาดเติบโตอนาคต” โดยเฉพาะในยุคที่ความต้องการไฟฟ้าของศูนย์ข้อมูลและ AI กำลังขยายตัวเร็วที่สุดในรอบ 10 ปี
การเคลื่อนไหวสำคัญ ได้แก่
นายธวัชชัยมองว่า สหรัฐฯ คือ “ฐานเติบโตใหม่” ที่ EGCO จะลงทุนต่อเนื่องทั้งในโรงไฟฟ้าก๊าซคุณภาพสูงและพลังงานหมุนเวียน เพื่อสร้างสมดุลระหว่างเสถียรภาพและรายได้ในอนาคต

เอเชีย: ลาว–อินโดฯ หนุนพอร์ตมั่นคง ขณะที่ไทยลุ้น RE Big Lot + Direct PPA
ในภูมิภาคเอเชีย EGCO เดินหน้าโครงการสำคัญหลายประเทศ โดยเฉพาะใน สปป.ลาว ที่ยังเป็นแหล่งพลังงานสำคัญและสร้างรายได้สม่ำเสมอจากฤดูน้ำมาก โรงไฟฟ้าพลังน้ำทั้งน้ำเทิน 2 และไซยะบุรี ยังคงเป็นตัวสร้างกระแสเงินสดหลักของพอร์ตภูมิภาค
ขณะเดียวกัน บริษัทยังมองโอกาสในอินโดนีเซีย ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานพลังงานมหาศาล โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าที่เชื่อมโยงการเติบโตของเมืองศูนย์กลางใหม่และอุตสาหกรรมผลิตแบตเตอรี่–ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ
ส่วนไทยเอง แม้ตลาดจะไม่โตเร็วเท่าสหรัฐฯ แต่โอกาสใหม่ๆ กำลังจะเปิดชัดขึ้นในสองกติกาสำคัญ ได้แก่
EGCO ผ่านการคัดเลือกโครงการพลังงานหมุนเวียน 11 โครงการ รวมกำลังผลิต 448 MW หากได้รับสัญญาและสามารถพัฒนาตามไทม์ไลน์ จะเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดของพอร์ตอย่างมีนัยสำคัญใน 3–5 ปีข้างหน้า
2. นโยบาย Direct PPA – เกมเปลี่ยนตลาดพลังงานไทย
สัญญาซื้อขายไฟโดยตรงระหว่างผู้ผลิตกับภาคเอกชน (โดยไม่ผ่านรัฐ) อาจเป็นตัวเร่งสำคัญ โดยเฉพาะภาค Data Center ที่ต้องการไฟฟ้าสะอาด 24 ชั่วโมง
“ถ้า Direct PPA เดินหน้าเต็มรูปแบบ ตลาดพลังงานไทยจะเปลี่ยนทันที ผู้ประกอบการที่มีโรงไฟฟ้าคุณภาพสูงจะได้เปรียบมาก” นายธวัชชัยกล่าว
Asset Recycling: สูตรลับเพิ่มประสิทธิภาพพอร์ต
หนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้กำไร 9 เดือนของ EGCO กระโดดชัด คือการนำกลยุทธ์ Asset Recycling มาใช้ในการขายสินทรัพย์ที่ถึงจุดคุ้มค่า เช่นโครงการ RISEC และ Boco Rock Wind Farm และนำเงินทุนกลับมาต่อยอดในโครงการที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า
แนวคิดนี้ช่วย
เดินหน้าสู่ Net Zero – คัดเฉพาะโครงการที่ “ตอบโจทย์อนาคต”
EGCO ยืนยันชัดว่าแผนลงทุนทั้งหมดจะเคลื่อนตามเป้าหมาย Net Zero โดยยังคงใช้กลยุทธ์ “Balanced Portfolio” คือ
นายธวัชชัย ระบุว่า บริษัทจะคัดเลือกเฉพาะโครงการที่ “สร้างผลตอบแทนเหมาะสม” และ “สอดคล้องกับความต้องการพลังงานในตลาดเป้าหมาย” โดยมุ่งไปยังสหรัฐฯ และเอเชียเป็นหลัก
“เป้าหมายของเราไม่ใช่แค่เพิ่มเมกะวัตต์ แต่คือการสร้างพอร์ตที่แข็งแรง ทนทานต่อความเสี่ยง และพร้อมรองรับความต้องการไฟฟ้าของโลกในอีก 10–20 ปีข้างหน้า”
ปีแห่งการวางรากฐานเติบโตใหม่ของ EGCO
หากปี 2567–2568 คือยุคเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านพลังงานสู่ยุค Data Center–AI ปีนี้อาจถูกมองว่าเป็น “ปีสำคัญที่สุด” ที่ EGCO ปักหมุดเกมรุกในตลาดยุทธศาสตร์ทั่วโลก จากลาวที่สร้างรายได้มั่นคง สู่สหรัฐฯ ที่กลายเป็นฐานเติบโตใหม่ และไทยที่รอการเปิดเกม Direct PPA
ทั้งหมดสะท้อนว่า EGCO ไม่ได้ขยายธุรกิจเพียงแบบ “ตามกระแสโลก” แต่กำลังขยายแบบ “เลือกจังหวะที่ใช่–ในตลาดที่ตอบโจทย์ที่สุด” เพื่อวางรากฐานให้พอร์ตเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว พร้อมขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมาย Net Zero อย่างเป็นรูปธรรม





