จ่ายไวเกินคิด! Cashless Effect ชี้ 3 วิธีดึงสติไม่ให้เงินไหลแบบไม่รู้ตัว
25 Nov 2025

 

ในยุคที่เทคโนโลยีทางการเงินก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ความสะดวกที่เกิดจากระบบไร้เงินสดได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน แต่สิ่งที่ตามมาคือพฤติกรรมและความรู้สึกต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่กำลังเปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว งานวิจัยจาก University of Adelaide (2567) ชี้ว่า ผู้บริโภคมีแนวโน้มใช้เงินมากขึ้นเมื่อชำระแบบไร้เงินสด เพราะไม่ต้องเห็น ไม่ต้องสัมผัส และไม่ต้องนับก่อนจ่าย จึงไม่รู้สึกว่ากำลังสูญเสีย และมักมองว่าการจ่ายผ่านแอปพลิเคชันไม่ใช่การเสียเงินจริงๆ

ข้อมูลจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย (2568) ระบุว่า ในระยะ 3 ถึง 5 ปีข้างหน้า สัดส่วนการใช้เงินสดในไทยอาจลดลงเหลือประมาณ 10 ถึง 20% ขณะเดียวกัน รายงาน Visa Consumer Payment Attitudes Study (2567) พบว่า คนไทย 97% ใช้โมบายแบงก์กิ้งเป็นประจำทุกสัปดาห์ และ 47% พกเงินสดลดลงจากปีก่อน เคทีซีจึงได้รวบรวม 3 แนวทางฝึกวินัยทางการเงินแบบใหม่ เพื่อปรับตัวให้เท่าทันยุคที่จ่ายง่ายเกินไป และช่วยให้ความรู้สึกต่อมูลค่าของเงินไม่ถูกลดทอนลงเพราะความสะดวกของเทคโนโลยี

 

1. รีเซ็ตสมอง (Digital Detox)

กำหนดวัน Digital Detox อย่างน้อย 1 วันต่อสัปดาห์สำหรับบังคับตัวเองให้ใช้เฉพาะเงินสด และจดบันทึกทุกการใช้จ่าย เพื่อให้สมองส่วนที่ควบคุมการตัดสินใจ อารมณ์และพฤติกรรม (Anterior Cingulate Cortex) กลับมาจดจำความรู้สึกตอนหยิบเงินออกจากมืออีกครั้ง จะช่วยทำให้ความรู้สึกเสียดายหรือยับยั้งชั่งใจที่เคยหายไปกลับมา และช่วยให้เราตัดสินใจรอบคอบขึ้นในวันที่ต้องใช้เงินดิจิทัล

 

2. ตั้งเขตปลอดถอน (No-Touch Fund)

หลายคนมักยืมเงินตัวเองจากบัญชีเงินเก็บออกมาใช้ทำให้ไม่สามารถเก็บเงินได้จริง การเก็บเงินไว้ในที่ที่มีโอกาสงอกเงย เช่น กองทุนรวม หุ้นปันผล หรือการลงทุนแบบ DCA จะช่วยให้สมองเห็นว่าเงินนี้มีชีวิตและ กำลังทำงานแทนเรา ตัวเลขที่ขยับเพิ่ม ลด เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการ Pain of Losing Progress หรือความเสียดายที่จะเสียผลลัพธ์ที่สร้างไว้ ซึ่งเป็นวินัยทางการเงินรูปแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพกว่าการบังคับตัวเองให้ออมเงิน

 

3. ออมโดยไม่รู้ตัว (Micro-Round Up)

ภายใต้บริบทที่ทุกอย่างเชื่อมต่อออนไลน์ การออมเล็กๆ อาจเกิดขึ้นอัตโนมัติได้ทุกครั้งที่ใช้จ่าย เพียงตั้งระบบในแอปธนาคารให้ปัดเศษยอดใช้จ่ายขึ้น และโอนส่วนต่างนั้นไปบัญชีออมทันที เช่น ซื้อกาแฟ 56 บาท ปัดขึ้นเป็น 60 บาท โอน 4 บาทเข้าเก็บ เมื่อสะสมต่อเนื่องทุกวันจะกลายเป็นเงินออมก้อนสำคัญโดยไม่รู้ตัว เพราะการเริ่มต้นออมเงินที่ง่ายที่สุดคือเริ่มจากเงินที่เราไม่รู้สึกว่าหายไป

 

 

เมื่อเทคโนโลยีทำให้การชำระเงินง่ายขึ้น วินัยทางการเงินจึงไม่ได้อยู่ที่ความรู้ด้านตัวเลขเพียงเท่านั้น แต่รวมไปถึงการรู้เท่าทันพฤติกรรมการใช้จ่ายของตนเอง เพื่อให้การใช้เงินเป็นไปอย่างมีเหตุผลมากขึ้น เพราะความมั่นคงทางการเงินที่ยั่งยืนไม่ได้เกิดจากรายได้ที่มากขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกิดจากความมีสติและความรอบคอบในการใช้จ่ายควบคู่กัน

[อ่าน 47]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โรงไฟฟ้าขนอม ในกลุ่มเอ็กโก เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเต็มพิกัด เสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้าภาคใต้ ในช่วงสถานการณ์น้ำท่วม
ธนชาตประกันภัย เร่งช่วยเหลือลูกค้าในพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคใต้ จัดบริการรถยก จุดจอดรถหนีน้ำท่วม พร้อมบริการให้ความช่วยเหลือ โทร.1519
เซ็นทรัลพัฒนา ชวนอิ่มกับทรูและดีแทค แลกรับ 50 บาท กว่า 90 ร้านค้า
ฮอนด้า คว้ารางวัล “แบรนด์รถยนต์ที่มียอดขายสูงที่สุดในกลุ่ม C-Segment” ในงาน THAILAND CAR OF THE YEAR 2025
ซีพี–เมจิ คว้ารางวัล Thailand’s Best Managed Companies 2025 ต่อเนื่องปีที่ 4 ตอกย้ำองค์กรชั้นนำด้านธรรมาภิบาล–นวัตกรรม–ยั่งยืน
MK GROUP เร่งจัดส่ง “วัตถุดิบ-น้ำดื่ม” รวมพลังช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้อย่างต่อเนื่อง มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved