

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม วางทิศทางพัฒนาระบบทางพิเศษครั้งสำคัญในโอกาสครบรอบ 53 ปี ตอกย้ำบทบาทผู้ขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของประเทศ ทั้งการพัฒนาบริการด่านเก็บค่าผ่านทาง นวัตกรรมดิจิทัล และการลงทุนโครงการโครงข่ายขนาดใหญ่ เพื่อรองรับการเดินทางในอนาคต พร้อมมอบสิทธิประโยชน์ตอบแทนผู้ใช้บริการ Easy Pass ด้วยแคมเปญ “คืนค่าผ่านทาง 50%” วันที่ 6 มกราคม 2569 ครอบคลุมทุกสายทางของ กทพ.
หนึ่งในไฮไลต์สำคัญ คือ ระบบคืนเงินแบบเรียลไทม์ พร้อมการแจ้งเตือนผ่านแอป Exat Portal สำหรับผู้ผูกบัญชีไว้ รวมถึงสามารถตรวจสอบยอดได้ทั้งผ่าน Mobile Application และเว็บไซต์ www.ThaiEasyPass.com ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นการใช้งานช่องทางอัตโนมัติและลดความแออัดบริเวณหน้าด่านอย่างเป็นรูปธรรม
กทพ. ยังขับเคลื่อนการพัฒนาสู่ “ยุคทางพิเศษอัจฉริยะ” โดยเตรียมพัฒนาระบบรองรับยานยนต์ไร้คนขับผ่านเทคโนโลยีสื่อสาร V2X (Vehicle-to-Everything) ควบคู่กับการลดจำนวนช่องเงินสด และเพิ่มสัดส่วนช่อง Easy Pass ให้ถึง 70% ภายในปี 2570 เพื่อยกระดับความสะดวก ความรวดเร็ว และความปลอดภัยของผู้ใช้ทางพิเศษ

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ. กล่าวว่า “การครบรอบ 53 ปี ไม่ใช่เพียงหมุดหมายของความสำเร็จที่ผ่านมา แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่สู่ยุคทางพิเศษอัจฉริยะ กทพ. มุ่งสร้างประสบการณ์เดินทางที่ดีขึ้น ปลอดภัยและรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม ด้วยการลดช่องเงินสด เพิ่มช่อง Easy Pass และเตรียมโครงสร้างพื้นฐานรองรับยานยนต์ไร้คนขับในอนาคต” พร้อมระบุว่า กทพ. จะยังคงเดินหน้านวัตกรรมดิจิทัล ควบคู่การก่อสร้างโครงข่ายทางพิเศษทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดอย่างแท้จริง
ด้านความคืบหน้าโครงการก่อสร้างโครงข่ายทางพิเศษ กทพ. เร่งรัดการดำเนินงานโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ซึ่งมีความคืบหน้าแล้วกว่า 92% และคาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี 2569 โดยเน้นมาตรฐานวิศวกรรม ความปลอดภัย และการเชื่อมต่อแบบไร้รอยต่อกับกรมทางหลวง

สำหรับภูมิภาค การพัฒนาทางพิเศษสายกะทู้–ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานระดับยุทธศาสตร์ ช่วยรองรับทั้งภาคการท่องเที่ยวและโลจิสติกส์ แบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 ทางยกระดับรวม 3.98 กม. พร้อมอุโมงค์ 1.85 กม. มูลค่าโครงการกว่า 1.09 หมื่นล้านบาท อยู่ระหว่างการคัดเลือกผู้รับจ้าง และคาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2573 ส่วนระยะที่ 2 ช่วงเมืองใหม่–เกาะแก้ว–กะทู้ ระยะทาง 30.62 กม. เตรียมนำเสนอคณะรัฐมนตรีภายในปี 2569
กทพ. ย้ำเดินหน้าแผนงานต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการเดินทางที่เพิ่มขึ้น และสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในระยะยาว พร้อมสร้างระบบคมนาคมที่เชื่อถือได้ ปลอดภัย และยั่งยืนสำหรับประชาชนทั่วประเทศ





