
“เสียงแม่โทรมาขอยืมเงิน แต่แม่จริงๆ นั่งอยู่ข้างๆ” “แชตจากธนาคารดูเหมือนจริงทุกตัวอักษร แต่เงินหายไปในพริบตา” นี่ไม่ใช่ฉากจากซีรีส์ไซไฟ แต่คือเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับคนไทยในปี 2025 เมื่อเทคโนโลยี AI กลายเป็นอาวุธของมิจฉาชีพ และภัยการเงินไม่ใช่แค่ “ฟิชชิ่ง” (Phishing) แบบเดิมอีกต่อไป
ในยุคที่ AI สามารถเรียนรู้พฤติกรรมคน “AI-powered scam” สามารถสร้างเสียงปลอม พูดเหมือนคนที่เราไว้ใจ ส่งข้อความหลอกลวงที่ดูเหมือนจริงทุกตัวอักษร และรู้ทันแม้กระทั่งจังหวะที่คุณกำลังอ่อนแอ ผู้บริโภคจึงต้องปรับตัวให้ทันกับภัยไซเบอร์ที่ฉลาดขึ้นทุกวัน มาอัพเดต 5 วิธีเอาตัวรอดจากภัยไซเบอร์ยุคใหม่ ที่ไม่ใช่แค่ “รู้ทัน” แต่ต้อง “ลงมือทำ” ก่อนจะสายเกินไป
- อย่าเชื่อแม้แต่เสียงของคนที่คุณรัก AI สามารถสร้างเสียงปลอมที่เหมือนคนในครอบครัวคุณได้ในไม่กี่วินาที แค่มีคลิปเสียงสั้นๆ จาก TikTok หรือแอปแชต มิจฉาชีพก็สามารถโทรมาขอ OTP หรือหลอกให้โอนเงินได้อย่างแนบเนียน
วิธีป้องกัน คือ ตั้งรหัสลับในครอบครัว ใช้คำถามที่ AI ตอบไม่ได้ หรือโทรกลับเมื่อสงสัย
- อย่าคลิกลิงก์ที่ “ดูเหมือนจะใช่” หน้าเว็บปลอมในปี 2025 มีความสมจริงสูงมาก ไม่ได้ดูปลอมอีกต่อไป โลโก้เหมือนเป๊ะ! URL ใกล้เคียง และบางครั้งยังมีระบบแชตบอทที่ตอบกลับได้เหมือนเจ้าหน้าที่จริง
วิธีป้องกัน คือ เข้าผ่านแอปหรือเว็บไซต์ทางการเท่านั้น อย่าคลิกลิงก์จาก SMS หรือแชต ซึ่งธนาคารไม่มีนโยบายแนบ Link
- เปิดแจ้งเตือนทุกการใช้จ่ายแบบเรียลไทม์ การรู้ตัวทันทีเมื่อมีการใช้จ่ายผิดปกติ คือโอกาสทองในการอายัดบัตรก่อนที่เงินจะหายไป
วิธีป้องกัน คือ ใช้บัตรเครดิตที่มีระบบแจ้งเตือน เช่น KTC Mobile และ LINE OA และเปิดการตั้งเตือนไว้เสมอ
- ตั้ง 2FA กับทุกบัญชีที่เกี่ยวกับเงิน รหัสผ่านอย่างเดียวไม่พออีกต่อไป เพราะ AI สามารถเดาได้แม้แต่รหัสที่คุณคิดว่า “ซับซ้อน”
วิธีป้องกัน คือ เปิด Two-Factor Authentication (2FA) กับทุกแอปที่เกี่ยวข้องกับการเงิน
- อัปเดตความรู้เรื่องภัยไซเบอร์อย่างสม่ำเสมอ ภัยไซเบอร์เปลี่ยนทุกวัน แต่คนส่วนใหญ่ยังใช้วิธีป้องกันแบบเดิม
วิธีป้องกัน คือ ติดตามข่าวสารและบทความจากผู้เชี่ยวชาญที่อัปเดตภัยใหม่ๆ พร้อมวิธีรับมือที่ใช้ได้จริง
AI ไม่ได้แค่เปลี่ยนโลก แต่เปลี่ยนวิธีที่มิจฉาชีพหลอกคุณ “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของการปกป้องผู้บริโภคจากภัยการเงิน พร้อมเป็นพาร์ตเนอร์ที่ไม่ใช่แค่ให้เครดิต แต่ให้ความมั่นใจในการใช้ชีวิตดิจิทัลอย่างปลอดภัย ด้วยระบบปฏิบัติการด้านความปลอดภัยที่แข็งแกร่งระดับแนวหน้าในอุตสาหกรรมการเงิน
- ระบบตรวจจับการใช้จ่ายผิดปกติ (Fraud Detection System) ที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน ด้วยเทคโนโลยี Machine Learning ที่สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้ถือบัตรแต่ละราย
-
ทีม Fraud Monitoring เฉพาะทาง เจ้าหน้าที่จะโทรศัพท์ยืนยันกับสมาชิกผู้ถือบัตรทันที เมื่อพบธุรกรรมที่น่าสงสัยและมีความเสี่ยง
-
บริการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ ผ่านแอป KTC Mobile และ LINE OA ทุกครั้งที่มีการใช้จ่าย
- ระบบอายัดบัตรอัตโนมัติ เมื่อพบธุรกรรมที่เข้าข่ายหลอกลวง พร้อมช่องทางให้ผู้ถือบัตรยืนยันตัวตนได้อย่างรวดเร็ว
- KTC Cyber Alert ช่องทางอัปเดตข่าวสารภัยไซเบอร์และคำเตือนล่าสุด เช่น TikTok, Facebook และช่องทางออนไลน์อื่นๆ เช่น เว็บไซต์ www.ktc.co.th และ LINE OA เพื่อให้สมาชิกผู้ถือบัตรรู้เท่าทันก่อนตกเป็นเหยื่อ
ในโลกที่เทคโนโลยีวิ่งเร็ว ความรู้คือเกราะที่ดีที่สุด เพราะในยุคนี้... AI อาจหลอกคุณได้ แต่คุณก็ป้องกันตัวเองได้เช่นกัน
[อ่าน 142]