การศึกษาต่อต่างประเทศยังคงเป็นหนึ่งใน “การลงทุนระยะยาว” ของครอบครัวไทยที่ต้องการเพิ่มโอกาสในอนาคตให้ลูก ไม่ว่าจะเป็นระดับมัธยม หรือระดับมหาวิทยาลัย สิ่งสำคัญคือการเตรียมตัวด้านข้อมูล ค่าใช้จ่าย และระบบการศึกษาในประเทศปลายทางอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะในยุคที่อัตราค่าครองชีพและค่าเรียนยังคงขยับเพิ่มต่อเนื่อง

ttb reserve ชี้ว่าปัจจัยสำคัญไม่ได้มีเพียงค่าเทอม แต่รวมถึงค่าครองชีพและอัตราเงินเฟ้อทางการศึกษา ทำให้ผู้ปกครองจำเป็นต้องเตรียมแผนการเงินล่วงหน้าเพื่อลดความเสี่ยงค่าใช้จ่ายบานปลาย

เริ่มต้นจาก “รู้จักลูก” เพื่อเลือกประเทศที่ใช่

จุดเริ่มต้นของการตัดสินใจไม่ใช่เรื่องประเทศก่อนเสมอไป แต่คือ “ความเหมาะสมของลูก” ทั้งด้านรูปแบบการเรียนและไลฟ์สไตล์

ลักษณะของผู้เรียนสามารถแบ่งได้คร่าวๆ เช่น

• สายชิล ชอบความยืดหยุ่น

• สายเร่งรัด เน้นจบเร็ว เนื้อหาเข้มข้น

• สายเวิร์ก ชอบเรียนไปทำงานไป

คำตอบนี้มีส่วนช่วยชี้นำการเลือกประเทศ สาขา และงบประมาณในระยะยาว

เปรียบเทียบประเทศยอดนิยม: US – UK – AUS

สหรัฐอเมริกา (US)
โดดเด่นด้านความยืดหยุ่น นักศึกษาสามารถเลือกเรียนหลายสาขาก่อนกำหนด Major โดยเฉพาะสาย STEM ยังมีโอกาสทำงานต่อผ่านโครงการ OPT สูงสุด 36 เดือน

สหราชอาณาจักร (UK)
เน้นจบเร็ว เรียนเข้มข้น หลักสูตรปริญญาตรีใช้เวลาเพียง 3 ปี ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย อีกทั้งมี Graduate Route Visa ให้อยู่ต่อหลังเรียนจบ

ออสเตรเลีย (AUS)
เป็นประเทศที่อนุญาตให้นักเรียนทำงานระหว่างเรียน กระจายรายได้ และหลังจบยังมี Temporary Graduate Visa อยู่ต่อได้ถึง 2–4 ปี เหมาะกับผู้ที่ต้องการประสบการณ์ทำงานควบคู่

ปัจจัยเลือกมหาวิทยาลัยนานาชาติ

การเลือกสถานศึกษาควรพิจารณาอย่างเป็นระบบ เช่น

• ระบบการศึกษาและโครงสร้างหลักสูตร

• อันดับมหาวิทยาลัยจากแหล่งที่เชื่อถือได้

• รอบ Intake และการรับสมัคร

ตัวอย่างมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ มักเปิดรอบหลักช่วงสิงหาคมและมกราคม ขณะที่ประเทศอื่นอาจมีรอบแตกต่างกัน จึงต้องวางแผนล่วงหน้า

ค่าใช้จ่าย: ไม่ใช่แค่ค่าเทอม

ตัวเลขสำคัญที่ผู้ปกครองต้องเตรียม นอกจากค่าเล่าเรียน ยังมีค่าใช้จ่ายด้านที่พัก อาหาร การเดินทาง และเงินเฟ้อทางการศึกษา ซึ่งเฉลี่ยประมาณ 3% ต่อปี

กรณีผู้เรียนปริญญาตรีในสหรัฐฯ ต้นทุนรวมตลอดหลักสูตรอาจแตะ 10–12 ล้านบาท และอาจขยับสูงกว่านั้น หากรวมค่าครองชีพในเมืองใหญ่และอัตราเงินเฟ้อในอนาคต

การวางแผนการเงิน: ประเด็นที่มองข้ามไม่ได้

เมื่อค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นสกุลเงินต่างประเทศ การบริหารอัตราแลกเปลี่ยน และการทยอยสะสมเงินในช่วงเงินบาทแข็งค่า ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ช่วยลดต้นทุนได้

ttb reserve นำเสนอเครื่องมือสำหรับผู้ปกครอง เช่น

• บัญชีเงินตราต่างประเทศ (FCD e-Saving) สะสมเงินพร้อมรับดอกเบี้ย

• อัตราแลกเปลี่ยนพิเศษ สำหรับผู้มีสถานะสมาชิก

• บัตร ttb world pass สำหรับใช้จ่ายต่างประเทศ ลดความเสี่ยงและควบคุมค่าใช้จ่าย

• บริการโอนเงิน FCD ถึงลูกที่ต่างประเทศผ่านแอปโดยไม่มีค่าธรรมเนียมบางกรณี

   

การศึกษาต่อต่างประเทศเป็นการลงทุนใน “อนาคตของลูก” ที่ต้องเริ่มต้นด้วยข้อมูลที่ครบถ้วน ทั้งด้านระบบการศึกษา ค่าใช้จ่าย วัฒนธรรม และโอกาสหลังเรียนจบ

ในภาวะที่ต้นทุนเป็นสกุลเงินต่างประเทศและเงินเฟ้อทางการศึกษาปรับสูงขึ้น การวางแผนจัดการด้านการเงินแบบรอบด้านตั้งแต่เนิ่นๆ จึงเป็นปัจจัยสำคัญ เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถวางเส้นทางอนาคตให้ลูกได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น