
รัฐบาลเดินหน้าศึกษาโครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุยอย่างเป็นระบบ ล่าสุด การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ร่วมกับ 3 หน่วยงานรัฐวิสาหกิจหลัก ได้แก่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อศึกษาความเหมาะสมโครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย รองรับการบูรณาการโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและสาธารณูปโภคครบวงจร

พิธีลงนามจัดขึ้นโดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน สะท้อนทิศทางนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชิงบูรณาการ ไม่ใช่เพียงการสร้างเส้นทางคมนาคมใหม่ แต่เป็นการวาง “โครงข่ายหลักของประเทศ” ที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และคุณภาพชีวิตในระยะยาว
นายพิพัฒน์ ระบุว่า การลงนาม MOU ครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของการศึกษาความเหมาะสมโครงการในทุกมิติ ทั้งด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และผลกระทบต่อชุมชน โดยย้ำว่ารัฐบาลจะดำเนินการด้วยความรอบคอบ โปร่งใส และสอดคล้องกับบริบทพื้นที่อย่างแท้จริง พร้อมให้ความสำคัญกับการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างรอบด้าน
“โครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุยไม่ได้เป็นเพียงโครงสร้างคมนาคม แต่เป็นโครงข่ายหลักที่สามารถรองรับระบบสาธารณูปโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต การท่องเที่ยว และการพัฒนาเศรษฐกิจของพื้นที่ในระยะยาว” นายพิพัฒน์ กล่าว
นอกจากนี้ การศึกษายังจะพิจารณาการเชื่อมโยงกับระบบคมนาคมรูปแบบอื่น โดยเฉพาะสนามบินสุราษฎร์ธานีและสนามบินนครศรีธรรมราช เพื่อเพิ่มทางเลือกการเดินทาง ลดความแออัดบนเกาะสมุย และกระจายรายได้สู่พื้นที่โดยรอบ เช่น อำเภอขนอม และอำเภอสิชล

ด้าน นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ. ระบุว่า โครงการดังกล่าวมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากปัจจุบันการเดินทางเข้า–ออกเกาะสมุยยังมีข้อจำกัดและเปราะบางต่อสภาพอากาศ ส่งผลต่อประชาชน การท่องเที่ยว และการรับมือเหตุฉุกเฉิน โครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุยจึงเป็นมากกว่าสะพานคมนาคม แต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานร่วมสำหรับการวางระบบไฟฟ้า น้ำประปา และโทรคมนาคมอย่างครบวงจร ลดการลงทุนซ้ำซ้อน และเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของประเทศ
ขณะที่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มองว่าโครงการนี้จะช่วยยกระดับความมั่นคงของระบบไฟฟ้า หลังจากที่ผ่านมาเกาะสมุยเคยประสบปัญหาไฟฟ้าดับจากความเสียหายของสายส่งใต้น้ำ ซึ่งมีความเสี่ยงและซ่อมบำรุงได้ยาก การวางระบบสายส่งไฟฟ้าบนโครงสร้างทางพิเศษจะช่วยเพิ่มเสถียรภาพ ลดต้นทุน และรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
ในมุมของ การประปาส่วนภูมิภาค โครงการนี้จะเป็นกลไกสำคัญในการแก้ปัญหาข้อจำกัดด้านทรัพยากรน้ำของเกาะสมุย โดยเอื้อให้สามารถวางระบบท่อส่งน้ำประปาขนาดใหญ่ผ่านโครงสร้างทางพิเศษได้อย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพ รองรับการเติบโตของเมืองท่องเที่ยวระดับโลก

ด้าน บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า โครงสร้างทางพิเศษจะช่วยยกระดับระบบสื่อสารของเกาะสมุย รองรับเทคโนโลยีอนาคต อาทิ 5G, Smart City และ Smart Tourism เพิ่มเสถียรภาพโครงข่ายดิจิทัล เพื่อรองรับทั้งประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

การลงนาม MOU ศึกษาความเหมาะสมโครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย ถือเป็นก้าวแรกของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชิงบูรณาการ ที่รวมคมนาคม พลังงาน น้ำประปา และโทรคมนาคมไว้บนโครงข่ายเดียวกัน ไม่เพียงช่วยลดความซ้ำซ้อนในการลงทุนของประเทศ แต่ยังเสริมความมั่นคงด้านสาธารณูปโภค รองรับเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว พร้อมสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อม เพื่อการพัฒนาเกาะสมุยและพื้นที่ใกล้เคียงอย่างยั่งยืนในระยะยาว





